24 ส.ค. 2020 เวลา 13:18 • ประวัติศาสตร์
เขื่อนในประเทศไทย บุญคุณอันอเนกอนันต์ของสถาบันกษัตริย์ไทย
ก่อน พ.ศ.2500 ประเทศไทยจะเจอปัญหาน้ำหลาก ก็คือเจอน้ำท่วมสลับภัยแล้งอยู่ตลอดทุกปี แม้กระทั่งช่วงปี 2475 หลังคณะราษฎรเข้ามาเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เขื่อนมากกว่า 90% ในเมืองไทย สร้างจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9
ก็ไม่มีใครเข้ามาแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้ คณะราษฎรมัวแต่แย่ชิงอำนาจกัน หาผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ได้มีใครมาสนใจประชาชนอย่างแท้จริง
จนกระทั่งพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลมหาราช รัชกาลที่ 9 ทรงขึ้นครองราชย์ โครงการพระราชดำริแรก ๆ ที่ทรงดำริก็คือ เขื่อนภูมิพล ที่จังหวัดตาก เริ่มก่อสร้าง 2500-2507 เป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ขณะที่ตอนนั้นประเทศไทยมีภัยจากปัญหาคอมมิวนิสต์เข้ามาล้างสมองนักศึกษา จะเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นคอมมิวนิสต์ พื้นที่ จ.ตาก จัดเป็นพื้นที่สีแดง แต่พระองค์ก็เสด็จไป
นักข่าวสัมภาษณ์พระองค์ ว่าทรงไม่กลัวภัยคอมมิวนิสต์หรือ พระองค์ก็ทรงตอบว่า ถ้าสร้างเขื่อนสำเร็จ คนที่เรียกตัวว่าคอมมิวนิสต์ก็นับว่าเป็นประชาชนคนหนึ่งของพระองค์ ก็จะมีความกินดีอยู่ดีไปด้วย
แสดงพระองค์มีความเป็นกลางทางการเมืองมาก และทรงเน้นย้ำอีกว่า ทรงไม่ได้รบกับประชาชน ทรงรบกับความยากจนของประชาชน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนของพระองค์มีความกินดีอยู่ดีเท่านั้น
หลังจากเขื่อนพ่อ ก็มีเขื่อนย่า คือเขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนแม่ คือเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนลูก คือเขื่อนวชิราลงกรณ์ เขื่อนสิรินธร เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนหลาน อีกมากมายหลายสิบเขื่อนในประเทศไทย ที่มีจากโครงการพระราชดำริ
ซึ่งเขื่อนเหล่านี้ มีคุณประโยชน์มหาศาล ทั้งผลิตไฟฟ้า บรรเทาปัญหาน้ำท่วมในหน้าฝนและเก็บน้ำไว้ใช้ในยามหน้าแล้ง เป็นผลงานที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน และคงอยู่ไปอีกเป็นพันปี สำหรับเขื่อนเหล่านี้
ในความเห็นของผู้เขียน ลำพังแต่ผลงานการสร้างเขื่อนเหล่านี้ และประโยชน์ที่ประชาชนได้รับจากเขื่อน เอาแค่บุญคุณตรงนี้ของสถาบันกษัตริย์
ก็นับว่าอเนกอนันต์ นับได้ไม่ถ้วนเลย ไม่สามารถจะคำนวณออกมาเป็นตัวเลขได้เลย ที่เรายังมีน้ำกินน้ำใช้ มีอาหารกินทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากเขื่อนเก็บน้ำเหล่านี้
ผลงานนี้แค่ไม่ถึง 10% ที่เราเห็นเป็นรูปธรรม ยังมีผลงานอีกมากมายที่เรายังไม่เห็นและไม่ทราบเรื่องราว ของสถาบันกษัตริย์ไทย
คำว่าสถาบันกษัตริย์ไทย ไม่ใช่รัชกาลที่ 10 พระองค์เดียว คือรวมถึงคุณงามความดีมาแสนยาวนานของสถาบันกษัตริย์ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 หรืออาจจะนับตั้งแต่สุโขทัยเป็นราชธานีเลยก็ว่าได้
ถ้าถามผู้เขียนว่าจะเชื่อถือใครระหว่างสถาบันกษัตริยที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีบุญคุณต่อประชาชนชาวไทยอย่างมากมายมหาศาล
กับม็อบปลดแอ็กที่อ้างประชาชน อ้างนักศึกษา ที่คือใครก็ไม่รู้ แอบอ้างประชาชน ทำตัวเป็นอีแอบอยู่หลังนักศึกษา ปลุกปั่นประชาชน สร้างความแตกแยกในแผ่นดิน
ไม่ได้มีผลงานที่อะไรที่ชัดเจนที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติเลยสักนิดเดียว
แถมยังคิดจะมาริดรอนพระราชอำนาจของสถาบันกษัตริย์ ใส่ร้ายป้ายสีสถาบัน คิดจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์เพื่อกลุ่มพวกตัวเองจะได้มีอำนาจ ทำตัวเหมือนพวกคณะราษฎร เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
แทบไม่ต้องบอกเลยว่า ผู้เขียนจะเลือกเชื่อข้างไหน
ต้องเป็นสถาบันกษัตริย์แน่นอน สำหรับคนที่คิดไม่ดีต่อสถาบัน ผู้เขียนคิดว่าสุดท้ายก็จะพ่ายแพ้ไปเอง ต้องติดคุก หรือไม่ก็หนีไปต่างประเทศ ในที่สุด ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ เพราะอกตัญญูไม่รู้คุณของสถาบันกษัตริย์
ต้องคอยติดตามสถานการณ์กันต่อไป ว่าจะเป็นแบบที่ผู้เขียนคาดไว้หรือไม่
ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดี ๆ ต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา