Blockdit Logo (Mobile)
NINETE9N
•
24 ส.ค. 2020 เวลา 05:06 • ประวัติศาสตร์
ซงหนู(Xiongnu) มฤตยูผมดำของโรมัน
 
ในหน้าประวัติศาสตร์จีนเริ่มมีการบันทึกถึงชนเผ่าซงหนูตั้งแต่ยุคจ้านกว๋อ(เลียดก๊ก) คำว่าซงหนูใช้แทนชนเผ่าเร่ร่อนหลายๆเผ่าในทุ่งหญ้าตอนเหนือของจีน(ตงหู เซียนเปย อูหุ่)คือเรียกชนเผ่านอกกำแพงเมืองทั้งหมดรวมว่าซงหนู และชนเผ่าซงหนูก็ถือได้ว่าเป็น บรรบุรุษของพวกมองโกลและพวกฮันส์(Huns)ที่ไปบุกยุโรปและมีส่วนทำให้อาณาจักรโรมันล่มสลายอีกด้วย
ชาวHuns ขณะออกรบ
ชนเผ่าซงหนูดำรงชีวิตด้วยการล่าสัตว์ ทำปศุสัตว์ และสงครามเพื่อปล้นเสีบยง พวกซงหนูขาดความรู้ด้านการเพาะปลูกทำให้ไม่มีการลงหลักที่แน่นอน ชีวิตส่วนใหญ่จึงกิน นอนบนหลังม้า ทำให้เผ่าซงหนูขึ้นชื่อว่าเป็นเผ่าที่รบบนหลังม้าได้เก่งที่สุดในช่วงเวลานั้นโดยเฉพาะทักษะด้านการยิงธนู ในปัจจุบันชนเผ่าซงหนูที่สืบเชื้อสายในฮังการี(แมกร์ยา,Magya)ก็ยังมีอนุรักษ์เทคนิคการยิงธนูเร็ว ของชาวฮันส์ไว้ด้วย
ธนูของชาว Huns
ช่วงต้นราชวงค์ฮั่นก็มีการพยายามกวาดล้างพวกซงหนู หลังจากที่จักพรรดิฮั่นเก่าจู (หลิว ปัง) รวบรวมดินแดนได้สำเร็จ ต้องการที่จะกำจัดพวกเผ่าเร่ร่อนที่เป็นตัวแสบมานานเสียที จึงได้ยกพล 400000 นายขึ้นเหนือเพื่อปราบพวกซงหนูที่นำโดย มอตู(โมตู) ซานหยู (ซานหยูใช้เรียกประมุขของซงหนู) ได้หลอกล่อทัพของจักพรรดิให้เข้าในที่แคบมีภูเขาล้อม พร้อมให้ทหาร100000นายของตนล้อมไว้บนชัยภูมิที่ได้เปรียบ ทำให้จักพรรดิต้องปลอมตัวเป็นทหารชั้นเลวเพื่อหลบหนีออกมาจากสงคราม หลังจากนั้นมาทางราชสำนักฮั่นก็เปลี่ยนจากการการทำสงครามกับซงหนูเปลี่ยนมาเป็นส่งเครื่องบัญณาการหรือส่งบุตรสาวไปแต่งงาน เพื่อเป็นการสงบศึกกับพวกซงหนูและในยุคของมอตูก็ถือเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุดของซงหนูเพราะสามารถขยายดินแดนไปทั่วทางเหนือของจีนลามไปถึงรัสเซียบางส่วน
แผนที่แสดงดินของซงหนูในยุคโมตู
จนมาถึงในช่วงของจักพรรดิฮั่นหวู่ตี้ เริ่มเข้ากวาดล้างพวกซงหนูอย่างจริงจังและเอาชนะได้ในที่สุด ทำให้พวกซงหนูแตกกระจายออกบางกลุ่มอพยพไปทางเหนือและใต้ โดยพวกทางเหนือก็ร่อนเร่จนไปถึงทุ่งหญ้า สเตปป์(มองโกเลีย,อุซเบ) และเริ่มแผ่ขยายอำนาจออกไปจนถึงในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 4 ก็เริ่มบุกรุกเข้ามาตั้งรกรากในยุโรปผ่านทางแม่น้ำวอลก้า พร้อมเข้าโจมตีพวก อลานี(Alani,Alans)(ชาวอิหร่านสมัยโบราณ) และเริ่มออกอาละวาดไปทั่วยุโรป ตามบันทึกชาวยุโรปจะเรียกพวกซงหนูพวกนี้ว่า ฮันส์,ฮวน(Huns)
2
ต่อมาก็บุกเอาชนะพวกออสโตรกอธ(เยอร์มานิค)และแย่งสัมปทานมาได้ หลังจากนั้นในช่วงปี ค.ส.376 ก็เข้ารุกรานพวก วิซิกอธ(ต้นกำเนิดแถบๆยูเครน) จนมาถึงในยุคของ อัตติลา(Attila) ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางชาติพันธุ์ของยุโรปเลยก็ว่าได้เพราะ อัตติลาสามารถบุกตีเข้าไปถึงกรุงโรมและฆ่า ข่มขืนชาวบ้านตามเมืองที่ผ่านซะเหี้ยน แต่ได้พระสันตปาปาลีโอที่ 1 ช่วยเจรจาให้ ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าแท้จริงแล้ว อัตติลาเสบียงหมดหรือพระสันตปาปา เคยเป็นอาจารย์ของอัตติลามาก่อน แต่หลังจากเหตการณ์ครั้งนี้ทำให้พระสันตปาปาเข้ามามีอำนาจในทางโลกมากขึ้นด้วย
1
ภาพวาดพระสันตปาปาและอัตติลา,กองทัพHuns เข้าบุกโรม
ซงหนูอีกส่วนที่อพยพลงใต้ก็เข้ารุกรานแถบเปอร์เซียและดินแดนของอินเดีย จนผนวกเข้ากับชนเผ่าดั้งเดินแถบนั้น กลายเป็นพวก มารฐา(Maratha)และโด่งดังที่สุดในยุคของจักรพรรดิศิวาจี(Shivaji)ที่สามารถต้านทัพของพระเจ้าออรังเซ็ป(Aurangzep)ได้และไม่เคยถูกอาณาจักโมกุลยึดได้ หรือบ้างก็ว่าเป็นต้นเชื้อสายของพวก โมกุล(Mughal)
จักรพรรดิโอรังเซปและจักพรรดิศิวะจี
โฆษณา