Blockdit Logo (Mobile)
พ่อคนหนึ่งถึงลูกสาวทั้งสอง
•
24 ส.ค. 2020 เวลา 12:58 • ครอบครัว & เด็ก
24 ส.ค 63
ส้มตำประชาธิปไตย
วันนี้พ่อรับปันปันกลับจากโรงเรียน
ขึ้นรถมาได้ซักพัก ปันปันมีเรื่องมาเล่าให้พ่อฟัง
ปันปันเล่าด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่
ปันปันเล่าว่า
วันนี้ ที่โรงเรียนคุณครูให้จับกลุ่มกัน อาทิตย์หน้าจะมีการทำอาหาร
โดยเพื่อนๆในกลุ่มช่วยกันโหวตว่าจะทำอะไรกัน
กลุ่มของปันปัน ส่วนใหญ่เลือกที่จะทำ "ส้มตำ"
ปันปันไม่อยากทำส้มตำ เพราะ ปันปันไม่กินเผ็ด และไม่กินปลาร้า
เพราะไม่ชอบส้มตำ เลยไม่ค่อยพอใจที่เพื่อนๆ ในกลุ่มโหวตทำส้มตำ
พ่อเลยบอกปันปันไปว่า
นี่แหละลูก ที่เขาเรียกว่า ประชาธิปไตย
ในกรณีที่เราต้องอาศัยเสียงข้างมาก ในการตัดสินใจเลือก
เมื่อเสียงส่วนใหญ่เลือกแล้ว ปันปันต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่นั้นด้วย
แต่พ่อรู้นะ ว่าเพราะอะไรปันปันถึงไม่อยากทำส้มตำ
พ่อบอกกับปันปัน สิ่งแรกเมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
ปันปันต้องยอมรับในการตัดสินใจในกลุ่มนี้ซะก่อน
เพราะมันเป็นเสียงส่วนใหญ่
เมื่อเสียงส่วนใหญ่เลือกส้มตำ เราต้องยอมรับการโหวดครั้งนี้
ต่อมา พ่อจะบอกให้นะว่า
ส้มตำ ไม่ต้องเผ็ด เขาก็เรียกส้มตำ
ส้มตำ ไม่ต้องใส่ปลาร้า เขาก็เรียกส้มตำ
เป้าหมายของการรวมกลุ่มครั้งนี้ คือ ทำส้มตำ
ดังนั้น พ่อจะช่วยเสนอทางออก ให้ปันปันนำไปปรึกษากับเพื่อนๆว่า
ทำส้มตำสองครกได้หรือเปล่า
ถ้าทำได้ ขอให้ครกแรก เป็นส้มตำเผ็ดน้อย และไม่ใส่ปลาร้า
ส่วนครกที่สอง ก็ทำตามที่เพื่อนๆอยากทำ จัดให้หนักๆเลย
ปันปันเป็นเสียงข้างน้อยในการโหวต
ปันปันเคารพในเสียงส่วนใหญ่แล้ว
เสียงส่วนใหญ่ที่โหวตทำส้มตำครั้งนี้
ก็ต้องฟังความคิดเห็นของเสียงข้างน้อยอย่างปันปันด้วย
เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายงานกลุ่ม คือการทำส้มตำในครั้งนี้
ทำด้วยกัน กินด้วยกัน จบโปรเจ็คด้วยกัน
เมื่อมีเป้าหมายตรงกันแล้ว
แสวงหาจุดร่วมแล้ว
สงวนจุดต่างแล้ว
ก็พากันเดินไป ไม่ยาก
ส้มตำ ขอแค่มีมะละกอ และเครื่องปรุง
ไม่ต้องเผ็ด ไม่ต้องร้า เขาก็เรียกส้มตำ
โปรเจ็คนี้ง่ายๆ ไม่ต้องกังวล
ปันปันถามต่อว่า
แล้วถ้าเพื่อนไม่ยอมจะตำใส่พริก และปลาร้า เท่านั้นหละ
เพราะเพื่อนบอกว่า ตำส้มตำไม่ใส่พริก ไม่ใส่ปลาร้า มันจะไปอร่อยได้ยังไง
โอ้ววววว...
ถ้าเป็นอย่างนั้น ปันปันคงต้องคุยกับเพื่อนๆเองซะแล้ว
พ่อจะบอกพอเป็นแนวทางให้ละกัน
ปันปันก็บอกเพื่อนๆไปว่า ปันปันยินดี และสนับสนุนการทำส้มตำกับ
เพื่อนๆเต็มที่นะ แต่ปัญหาของปันปัน คือ ปันปัน ไม่กินเผ็ด ไม่กินปลาร้า
เพื่อนๆพอจะช่วยให้ปันปันได้ทำและได้กินส้มกับเพื่อนๆ อย่างมีความสุข
โดยวิธีตำสองครกได้หรือเปล่า
พ่อเชื่อว่ายังไง เพื่อนๆ ก็จะยินดีที่จะทำส้มตำสองครกนะ
แต่...
พ่อจะเผื่อไว้ว่า ถ้าเพื่อนไม่ยอมทำส้มตำสองครก
พ่อก็จะแนะนำปันปันว่า
จงยินดี ที่จะช่วยเพื่อนๆทำโปรเจ็คนี้ให้จบ
เตรียมของและทำกิจกรรมนี้ให้จบ ให้เกิดส้มตำประชาธิปไตยนี้ให้เรียบร้อย
มันคืองานที่ได้รับ ทำเสร็จไม่จำเป็นต้องกินก็ได้นี่
หน้าที่ของปันปันคือ ช่วยเพื่อนๆ เตรียมของและ ทำส้มตำ
สิทธิของปันปันคือ ทำเสร็จจะกินหรือไม่กินก็ได้
ทำตามหน้าที่ และรู้ถึงสิทธิของตัวเอง
การทำงานกลุ่ม จะช่วยทำให้ปันปันมีทักษะในการเข้าสังคม และปรับตัว
เราจะเห็นเพื่อนชัดขึ้น ชัดขึ้น
แต่ไม่ว่าเพื่อนจะเป็นแบบไหน ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เพื่อน
ปัญหาอยู่ที่เราว่าเราจะคบกับใครแบบไหน เท่าไหร่ แค่ไหน อย่างไร
เมื่อโตขึ้น จะมีส้มตำประชาธิปไตยอีกหลายครกมาวัดวุฒิภาวะ
ปันปันจะเจอสิ่งที่ไม่ชอบอีกมากมาย
นอกจากจะไม่ชอบ และยังต้องอยู่กับมัน คลุกคลีกับมัน
จริงๆแล้ว เมื่อโตขึ้น การปรับทัศนคติ และปรับตัว เพื่ออยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบ
เป็นเรื่องจำเป็นที่ปันปันจะต้องเรียนรู้
เขียนเสร็จเรียกปันปันมาอ่านทวนอีกรอบ
แล้วบอกว่า
พ่อบันทึกเรื่องนี้ไว้ให้แล้ว โตขึ้นเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้
อาจช่วยในการตัดสินใจของปันปันในอนาคต
พ่อหวังไว้อย่างนั้น
โฆษณา