Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่ารัฐฉาน ล้านนา ล้านช้างและสยามประเทศ
•
ติดตาม
25 ส.ค. 2020 เวลา 08:29 • ประวัติศาสตร์
Twilight over Berma(ภาคผนวก)
สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องราวของหอเจ้าฟ้า(วัง)ในรัฐฉาน โดยเฉพาะผู้ที่ประทับใจกับเนื้อหาในหนังสือและภาพยนตร์เรื่อง“Twilight over Berma”
กรณีที่กำลังเกิดกับหอเจ้าฟ้าสีป้อขณะนี้ เป็นเรื่องที่ต้องส่งใจช่วยให้ได้บทสรุปและจบลงด้วยดีกับทุกฝ่าย
แต่จะเป็นไปได้เพียงใด เป็นความเคลื่อนไหวที่ต้องติดตาม...
หลังจากขุนทุนอู หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติรัฐฉาน(SNLD) ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของเจ้าจ่าแสง เจ้าฟ้าสีป้อองค์สุดท้าย ได้ทำพิธีถวายหอเจ้าฟ้าสีป้อ ให้อยู่ในความดูแลของคณะสงฆ์รัฐฉาน เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน(ดูรายละเอียดได้จากโพสต์เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน)
เมื่อข่าวพิธีนี้ปรากฏออกมา ครอบครัวของเจ้าอูจ่า หลานชายเจ้าจ่าแสง ก็ได้เผยแพร่แถลงการณ์คัดค้านออกมาทันที!!!
แถลงการณ์ของครอบครัวเจ้าอูจ่าเผยแพร่ผ่านเพจ TAI HOME และมีผู้เผยแพร่ต่อออกไปอย่างกว้างขวาง(
https://www.facebook.com/111769663515372/posts/280882493270754/?d=n
หรืออ่านได้จากภาพประกอบ)
เนื้อหาของแถลงการณ์ สรุปใจความคร่าวๆได้ว่า...
-ครอบครัวของเจ้าอูจ่าเป็นผู้ดูแล รักษาหอเจ้าฟ้าแห่งนี้มาตลอดเกือบ 60 ปี ท่ามกลางความพยายามที่จะเข้ามายึดครองของกองทัพพม่า จนหอเจ้าฟ้าเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก
-ขุนทุนอูมิได้มีการบอกกล่าวหรือปรึกษากับครอบครัวของเจ้าอูจ่ามาก่อนที่จะจัดพิธีถวายหอเจ้าฟ้าให้แก่คณะสงฆ์
-ที่ขุนทุนอูอ้างว่าได้รับมอบหมายจากเจ้านางสุจันทรี(อิงเง ซาเจนท์) มหาเทวีของเจ้าจ่าแสง ให้เป็นผู้บริหารทรัพย์สินที่หลงเหลืออยู่ในเมียนมาและรัฐฉานนั้น ปัจจุบันเจ้านางสุจันทรีอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้อยู่ในรัฐฉาน จึงไม่มีอำนาจจะมอบหมายให้ใครมาจัดการทรัพย์สินในรัฐฉาน
ตอนท้ายของแถลงการณ์ ระบุว่าขุนทุนอูมิได้เป็นทายาทโดยสายเลือดของเจ้าจ่าแสง...
ล่าสุด มีข่าวว่าเจ้าอูจ่าได้ไปปรึกษากับพระอาจารย์ ดร.คำหมาย ธัมมสามิ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยสงฆ์รัฐฉาน ซึ่งอยู่ในพิธีถวายหอเจ้าฟ้าของขุนทุนอูที่ตองจีเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน และมีแนวโน้มว่าครอบครัวของเจ้าอูจ่า จะใช้กระบวนการทางกฏหมายมาช่วยตัดสิน
หอเจ้าฟ้าสีป้อที่กำลังเป็นเรื่องเป็นราวอยู่ขณะนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1924 สมัยเจ้าแข่ เป็นเจ้าฟ้าสีป้อ เพื่อให้เจ้าโองจ่า บุตรชายได้พักอาศัย เป็นอาคารปูน 2 ชั้น สไตล์ยุโรป(ดูภาพประกอบ)
ด้วยความที่เจ้าโองจ่าใช้ชีวิตสมัยเรียนอยู่ในต่างประเทศ หลังได้ขึ้นเป็นเจ้าฟ้าสีป้อ จึงเลือกอาศัยอยู่ในหอเจ้าฟ้าหลังที่สร้างขึ้นใหม่ ไม่ได้ย้ายไปอยู่ที่หอคำหลวงหลังเดิม
เมื่อเจ้าจ่าแสงได้ขึ้นเป็นเจ้าฟ้าต่อมา ก็ได้อาศัยอยู่ในหอหลังนี้กับมหาเทวีจนถึงวันที่นายพลเนวินปฏิวัติ เมื่อปี 1962
ส่วนหอคำหลวงสีป้อหลังเก่า ได้ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลังในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่อเจ้าจ่าแสงได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังการปฏิวัติ และมหาเทวีสุจันทรีต้องพาบุตรสาวลี้ภัยกลับไปอยู่บ้านที่ออสเตรีย ครอบครัวของเจ้าอูจ่าก็ได้อาศัยอยู่ในหอแห่งนี้ คอยดูแล บำรุงรักษาตามกำลังทรัพย์ส่วนตัวที่มีอยู่
หลังจากเจ้านางสุจันทรีได้เขียนหนังสือเรื่อง“Twilight over Berma : My Life as a Shan Princes” และได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ทำให้เรื่องราวของเมืองสีป้อและหอเจ้าฟ้าเมืองสีป้อเป็นที่สนใจของผู้คนจากทั่วโลก
มีผู้ที่เดินทางมายังเมืองสีป้อเพื่อเข้าเยี่ยมชมหอเจ้าฟ้า โดยมีเจ้าจ๋ามพงษ์ ภรรยาของเจ้าอูจ่าเป็นผู้เล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับเมืองสีป้อและหอเจ้าฟ้าหลังนี้...
(ภาพประกองจากเพจ TAI HOME)
บันทึก
2
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เจ้าฟ้าเมืองสีป้อ
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย