29 ส.ค. 2020 เวลา 01:59 • สุขภาพ
ทำความรู้จัก...โคลีนเอสเทอเรส อินฮิบิเตอร์
ยาพิษที่ทำให้ผู้นำฝ่ายค้านรัสเซียถึงขั้นโคม่า
Photo : nytimes/editor
ไม่กี่วันก่อนหลายท่านคงทราบข่าวการล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุของผู้นำฝ่ายค้านรัสเซีย
"อเล็กเซ นาวาลนี" คู่ปรับคนสำคัญทางการเมืองของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินซึ่งล่าสุดถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลท้องถิ่นไปเข้ารับการรักษาที่กรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมนี
ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลได้พบหลักฐานการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่เชื่อได้ว่านาวาลนีถูกวางยาจริงด้วยเหตุผลสองข้อครับ
1. ระดับการทำงานของเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรส (Cholinesterase activity) ลดต่ำลง
ปกติแล้วเอนไซม์ตัวนี้จะมีหน้าที่ไปยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทไม่ให้มากเกินไปครับ หากมีตัวมายับยั้งมันหรือที่เรียกว่าอินฮิบิเตอร์ (Inhibitors) ระบบของร่างกายจะถูกกระตุ้นมากผิดปกติทำให้มีอาการแสดงออกมาเช่น หลอดลมตีบ หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปัสสาวะบ่อยกลั้นไม่อยู่ เหงื่อออก น้ำลายไหล น้ำตาไหล ชีพจรเต้นช้า ความดันโลหิตต่ำ ม่านตาหดเล็กลง ซึ่งมักเกิดขึ้นใน 24 ชั่วโมงสอดคล้องกับอาการป่วยของนาวาลนี
2. หลังได้รับยาต้านพิษ (antidote) ที่ลดการกระตุ้นระบบประสาท Choline อาการเริ่มดีขึ้น
ยาต้านพิษที่นาวาลนีได้รับคืออะโทรปีน (atropine) ครับซึ่งสามารถลดการแสดงออกของระบบประสาท Choline ที่ทำงานมากเกินไปส่งผลให้อาการค่อยๆดีขึ้นตามลำดับและจากการที่เขาไม่ได้มีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาอยู่เดิม จึงเชื่อว่าได้รับสารบางอย่างที่ไปมีผลเพิ่มการยับยั้งตัวรักษาสมดุลของระบบประสาทที่เรียกว่า "โคลีนเอสเทอเรส อินฮิบิเตอร์ "
โคลีนเอสเทอเรส อินฮิบิเตอร์ (Cholinesterase inhibitors) ถ้าจะบอกว่าเป็นยาพิษก็คงจะไม่ถูกต้องนักครับ ความจริงแล้วชื่อนี้เป็นการเรียกกลุ่มยาอย่างกว้างๆตามการออกฤทธิ์ที่ไปยับยั้งโคลีนเอสเทอเรสในระบบประสาท
กลุ่มที่ออกฤทธิ์แบบนี้สามารถแบ่งกว้างๆได้ 3 กลุ่มครับ
1. กลุ่มยาฆ่าแมลงและสารพิษต่อระบบประสาท
รู้จักกันในชื่อ "ออร์แกโนฟอสเฟต (organophosphates) และคาร์บาเมต(carbamates) " โดยมากมักใช้ประโยชน์ในการกำจัดแมลง หาซื้อได้ง่ายมีการใช้อย่างแพร่หลาย หากร่างกายได้รับเข้าไปในปริมาณสูงก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ง่าย ตัวที่พอจะคุ้นชื่ออยู่บ้างเช่น Propoxur (Baygon), Carbaryl (Sevin) และ Chlorpyrifos
และเนื่องจากมีหลายรูปแบบจึงสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งกินเข้าไปโดยตรง หรือสัมผัสทางผิวหนังรวมถึงการสูดดมไอระเหย
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่ออกฤทธิ์รุนแรงกว่ายาฆ่าแมลงซึ่งมีการพัฒนามาเป็นอาวุธเคมี สามารถส่งผลต่อระบบประสาทรุนแรงในอดีตมักถูกใช้ในช่วงสงครามอย่างลับๆ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงมีการพัฒนาต่อเนื่องเรื่อยมา ตัวอย่างเช่น Sarin, Soman, VX, และ Novichok
ส่วนหนึ่งของอาวุธเคมีที่ถูกนำมาใช้ทำสงคราม : compoundchem
2-3 ปีที่ผ่านมา วีเอ็กซ์แก๊ส (VX) ก็เคยมีข่าวว่าถูกใช้สังหาร " คิม จอง นัม " พี่ชายต่างมารดา ของคิม จอง อึน ผู้นเกาหลีเหนือที่สนามบินในมาเลเซียโดยเป็นของเหลวที่กลุ่มผู้ต้องสงสัยใช้ป้ายไปบนตัวเหยื่อ
สารพวกนี้เข้าสู่ร่างกายได้ทางผิวหนังและทางการหายใจ สามารถซึมผ่านเสื้อผ้า รองเท้าได้ เมื่อถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในไม่กี่นาที ผู้ป่วยจะเสียชีวิตได้ในระยะเวลาอันสั้น เนื่องมาจากระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน
2. กลุ่มรักษาโรคความจำเสื่อม
ยารักษาอัลไซเมอร์ : doctoroncall/editor
ผู้ป่วยอัลไซเมอร์หรือความจำเสื่อมมักมีการรับรู้และการใช้ชีวิตประจำวันถดถอยลงไปเนื่องมาจากสารสื่อประสาท acetylcholine ลดลงซึ่งมีส่วนสำคัญในเรื่องการเรียนรู้และความจำ
การออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรสสามารถมีประโยชน์ในกลุ่มนี้ได้จากการที่สามารถเพิ่มระดับ acetylcholine ในสมองส่วน cerebral cortex และ hippocampus
แต่ที่ต่างจากกลุ่มยาฆ่าแมลงก็คือยากลุ่มนี้จะยับยั้งเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรสแบบชั่วคราว มีความจำเพาะเจาะจงกับสมองส่วนกลาง ขณะที่กลุ่มยาฆ่าแมลงจะยับยั้งเอนไซม์แบบถาวรทำให้เกิดอาการข้างเคียงตามมาได้มาก
ตัวอย่างยาเช่น Donepezil, Galantamine, และ Rivastigmine
3. ยารักษากลุ่มอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
ยารักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิด Myasthenia gravis : hameln/editor
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิด Myasthenia gravis (MG) เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานมากผิดปกติ มีการไปทำลายหรือขัดขวางสารสื่อประสาท acetylcholine ที่บริเวณกล้ามเนื้อแต่ละส่วนของร่างกายทำให้ไม่สามารถตอบสนองได้เต็มที่ ผู้ป่วยจึงมักจะมีอาการเริ่มได้ตั้งแต่ หนังตาตก ยกของหนักไม่ได้ การพูด การเคี้ยว การกลืน ทำได้ลำบาก
จากการศึกษาก็พบว่ายาที่สามารถเพิ่มระดับสารสื่อประสาทที่บริเวณกล้ามเนื้อสามารถช่วยเพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อให้ตอบสนองได้ดีขึ้น สามารถทำกิจกรรมได้นานขึ้น แต่อย่างไรก็ตามโรคนี้ยังไม่มีวิธีที่สามารถรักษาได้หายขาด ทำได้เพียงประคับประคองให้อาการดีขึ้นและช่วยให้ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรต่างๆได้ด้วยตัวเอง
ตัวอย่างยาอย่างเช่น Pyridostigmine และ Neostigmine
จะเห็นได้ว่าแม้กลไกหลักของยาจะออกฤทธิ์เหมือนกันคือยับยั้งเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรสทำให้สารสื่อประสาท acetylcholine เพิ่มขึ้นซึ่งหากเพิ่มในปริมาณที่เหมาะสมในบางจุดและมีการออกฤทธิ์อย่างจำกัด ยากลุ่มนี้ก็มีประโยชน์ในการรักษาอาการป่วยได้หลากหลายชนิด
แต่หากมีการนำมาใช้ในทางที่ผิดก็ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง เนื่องจากเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
อย่างไรก็ตามกรณีของนาวาลนีไม่ใช่ครั้งแรกที่อาจได้รับพิษจากสารกลุ่มนี้ ในอดีตเคยมีสายลับสองหน้ารัสเซียรวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยงข้องทางการเมืองอื่นๆอีกหลายคนที่เจอกรณีคล้ายๆกัน
น่าสนใจว่าสุดท้ายแล้วรัสเซียจะยอมสืบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจังแค่ไหน ท่ามกลางความกดดันของนานาชาติโดยเฉพาะเยอรมนีที่นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ออกมาเรียกร้องให้มีการสืบสวนอย่างจริงจังถึงสาเหตุในครั้งนี้
ปัจจุบันนาวาลนีก็ยังคงรักษาตัวอยู่ในเบอร์ลิน หลังจากได้รับยาต้านพิษก็ช่วยให้พ้นขีดอันตรายไปได้ แต่สารพิษต่อระบบประสาทที่ได้รับก็อาจส่งผลต่อสมองในระยะยาวขึ้นอยู่กับว่าเป็นสารประเภทใดซึ่งในตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด ยังคงอยู่ในการสืบสวนครับ
References :
โฆษณา