26 ส.ค. 2020 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
“โรคระบาดแห่ง Antonine” โรคระบาดที่คร่าชีวิตชาวโรมันกว่าห้าล้านคน
“โรคระบาดแห่ง Antonine” เป็นภาวะโรคระบาดครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในยุคโบราณ และในช่วงที่การระบาดพุ่งถึงขีดสุด มีชาวโรมันล้มตายเพราะโรคนี้วันละกว่า 3,000 คน
โรคระบาดนี้เริ่มต้นในราวค.ศ.165 (พ.ศ.708) หรือไม่ก็ค.ศ.166 (พ.ศ.709) และสาเหตุหรือที่มาของโรคนั้น ก็ยังคงเป็นปริศนา
ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเป็นเวลาสองสัปดาห์ อีกทั้งยังอาเจียน กระหายน้ำ ไอ และคอบวม บางคนจะมีตุ่มสีดำและแดงขึ้นตามตัว หายใจติดขัด และท้องร่วง
ผู้คนเกือบ 10% ของโรมันตายจากภาวะโรคระบาดนี้
แต่นอกจากที่มาที่เป็นปริศนาแล้ว การหายไปของโรคนี้ก็เป็นปริศนาเช่นกัน ภายหลังโรคนี้ก็ค่อยๆ จางหายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ
แหล่งข้อมูลหลายแห่งบอกว่าโรคนี้เริ่มในฤดูหนาว และเป็นช่วงที่อาณาจักรโรมันกำลังเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด
ในคราวที่กองทัพโรมันบุกตีเมือง Seleucia กองทัพโรมันก็เริ่มสังเกตเห็นถึงอาการป่วยของทหารและชาวเมือง และได้ทำการบันทึกอาการไว้
ภายหลังจากเคลื่อนทัพ ทหารในกองทัพก็ติดโรคและพาโรคไประบาดยังที่อื่นต่อ
ถึงแม้ว่าจะไม่ทราบแน่ชัด แต่ก็เชื่อกันว่าโรคระบาดนี้เริ่มต้นในจีน ก่อนจะแพร่กระจายไปยังยูเรเซียผ่านกองทัพโรมัน
ในเวลานั้น แพทย์ที่ชื่อ “Galen” ซึ่งได้จากกรุงโรมไปเป็นเวลานาน ได้เดินทางกลับมาในปีค.ศ.168 (พ.ศ.711) และได้ทำการศึกษาผู้ป่วยโรคนี้
Galen พบว่ามีผู้ที่ป่วยตายจำนวน 25% ของประชากร และคนที่รอดก็จะมีภูมิต้านทาน
สำหรับในปัจจุบัน แพทย์ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าโรคที่ว่านี้คือ “ไข้ทรพิษ”
กว่าโรคระบาดจะหายไปในปีค.ศ.180 (พ.ศ.723) ก็มีคนตายไปกว่าห้าล้านคนแล้ว
โรคระบาดนี้ทำให้โรมันซึ่งเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ แทบจะสูญสลาย กองทัพที่เคยเกรียงไกรก็ย่อยยับ ทหารต่างล้มตายจนกองทัพแทบจะไม่มีทหารเพียงพอ ต้องทำการเกณฑ์ทหารเพิ่ม
เศรษฐกิจของอาณาจักรที่เคยมีการค้ารุ่งเรืองก็กลับซบเซา ทำให้เก็บภาษีได้น้อย
นับเป็นภาวะโรคระบาดครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ยังเป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้
โฆษณา