26 ส.ค. 2020 เวลา 06:24 • ธุรกิจ
มูลค่าซ่อนเร้นของ VGI
วันนี้ VGI + 15 %
ยื่นไฟลิ่งแล้ว
เมื่อ KERRY จะเข้าตลาด
จ่อระดมทุน IPO กว่า 6 พันล้าน ! กับแผนการก้าวเป็นอันดับ 1 บริการส่งพัสดุของประเทศไทย
.
คงต้องยอมรับเลยนะครับว่า การเข้ามาถึงของยุคดิจิตอลนั้นได้เปลื่ยนแปลงวิถีชีวิต, แนวคิด และวิธีทำมาหากินของคนเราไปโดนสิ้นเชิง
โดยเฉพาะ E-commerce หรือการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ เชื่อว่าในทุกๆบ้านต้องมีสมาชิกอย่างน้อยหนึ่งคนที่เคยสั่งของออนไลน์กันบ้างแหละ
แน่นอนว่าเมื่อใครๆก็ช้อปออนไลน์ ต้องรับของ-ส่งของ มีอีกหนึ่งธุรกิจนึงที่เติบโตคู่กันมาตลอดและเรียกได้ว่ามีบทบาทสำคัญกับ E-commerce อย่างมาก ซึ่งนั้นก็คือธุรกิจ “รับส่งพัสดุ”
นอกจากไปรษณีย์ไทยแล้วก็มี Kerry Express ที่เข้ามาในไทยและกลายเป็นคู่แข่งตลอดกาลของไปรษณีย์ไทย และ ล่าสุด Kerry กำลังจะเข้าตลาด !
เดี๋ยวจะพาไปดูกันว่า Kerry Express ธุรกิจเป็นยังไง น่าสนใจแค่ไหน ? และการเข้า IPO ในครั้งนี้พวกเขามีแพลนอะไรไว้บ้าง ไปลุยกันเลย
Kerry express หรือที่คนไทยเรียกกันว่า เคอรี่ นั้น ถือเป็นอีกธุรกิจหนึ่งภายใต้ The Kuok Group ของตระกูล Kouok(กัวะ) สัญชาติมาเลเซีย ที่ปัจจุบันได้ขยายอาณาจักรธุรกิจไปทั่วทั้งเอเชีย
นำโดย Robert Kuok มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในมาเลเซียด้วยทรัพย์สินรวมกว่า 13.9 พันล้านดอลลาร์หรือราวๆ 4.33 แสนล้านบาทไทย
ซึ่งตระกูล Kuok นี่ก็เปรียบได้กับตระกูลเจียรวนนท์(CP) แห่งประเทศมาเลเซียเลยก็ว่าได้ และ Robert Kouok ก็ยังถือเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 109 ของโลก ในขณะที่เจ้าสัวธนินท์อยู่ที่อันดับ 79 ตามการจัดอันดับของ Forbes
การเข้ามาให้บริการในไทยของ Kerry express ถือว่าสร้างความตื่นตัวให้กับเสือที่นอนกินส่วนแบ่งตลาดมานานกว่า 136 ปีอย่าง ไปรษณีย์ไทย ได้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
รายได้หลักของ Kerry นั้นมาจากบริการขนส่งพัสดุแบบลูกค้าถึงลูกค้า (C2C) แต่ที่จริงแล้วบริษัทก็มีรายได้มาจากการขนส่งในรูปแบบอื่นด้วย เช่นการขนส่งจากธุรกิจถึงธุรกิจ (B2B), การขนส่งจากธุรกิจไปถึงลูกค้า (B2C) รวมไปถึงการขนส่งจากลูกค้าไปยังธุรกิจ (C2B) อีกด้วย
เราลองมาดูการเติบโตของ Kerry express กัน
ปี 59 รายได้ 3.02 พันล้านบาท
กำไร 308 ล้านบาท
ปี 60 รายได้ 6.58 พันล้านบาท
กำไร 733 ล้านบาท
ปี 61 รายได้ 1.36 หมื่นล้านบาท
กำไร 1.19 พันล้านบาท
ด้วยการเข้ามาในไทยแค่ 13 ปี แต่พวกเขาสามารถทำให้รายได้ของ Kerry เติบโตแบบ “ก้าวกระโดด” ได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งๆที่เอาเข้าจริงแล้ว Kerry เพิ่งจะมาจดทะเบียนและรุกตลาดแบบเต็มสูบเมื่อปี 2557 หรือ 5 ปีให้หลังมานี้เอง
VGI บริษัทสื่อนอกบ้านระดับแนวหน้าที่เป็นบริษัทลูกของ BTS ถือว่าตาไวกว่าใครในการเห็นแววของ Kerry เพราะหากได้ Kerry มาร่วมธุรกิจก็จะยิ่งทำให้การเป็นผู้นำในระบบ O2O Solution หรือการผสานสื่อแบบออนไลน์และออฟไลน์เชื่อมสู่กันนั้นครบวงจรยิ่งขึ้น
ทำให้ในปี 2561 VGI ตัดสินใจลงทุนกว่า 5,900 ล้านบาท เข้าถือหุ้นใน Kerry Express (ประเทศไทย) เป็นสัดส่วน 23% และเรียกได้ว่าเป็นดีลที่ วิน-วิน เพราะนอกจาก VGI จะได้ข้อมูลในมือของ Kerry มาวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายแล้ว พวกเขายังสามารถที่จะส่งสินค้าตัวอย่างไปให้กับลูกค้าได้อีกด้วย
ส่วน Kerry ก็จะกลายเป็นบริษัทขนส่งรายเดียวที่มีสิทธิในการใช้รถไฟฟ้า BTS ทำธุรกิจส่งพัสดุ รวมไปถึงเปิดจุดให้บริการบนสถานี จึงทำให้การจับมือกันในครั้งนั้นยิ่งทำให้ทั้งคู่แข็งแกร่งมากขึ้น
1
รายได้ของ Kerry เติบโตถึงปีละมากกว่า 100% ทุกๆปี ตรงข้ามกับไปรษณีย์ไทยที่มีการเติบโตของรายได้ลดลงทุกปี
และไม่แน่ว่าในปี 2563 นี้ ตำแหน่ง “เบอร์ 1” ในตลาดพัสดุของไปรษณีย์ไทยอาจถูก Kerry ขึ้นไปแทนที่ เพราะรายได้ของ Kerry กำลังจะแซงหน้าไปรษณีย์ได้แล้วและที่สำคัญ รายได้หลักของไปรษณีย์ไทยก็ไม่ได้มาจากการ “รับส่งพัสดุ” ทั้งหมดเหมือนกับ Kerry
นอกจากนี้ Kerry ยังเป็นผู้ให้บริการพัสดุแบบเก็บเงินปลายทาง (COD) ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ด้วยการคิดค่าบริการ 3% จากยอดของสินค้า อีกทั้ง Kerry ยังเป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่มีเครื่องให้ลูกค้าจ่ายด้วยแรบบิตไลน์
หรือ QR Code ที่ผู้กับบัตรได้อีกด้วย
ปัจจุบัน Kerry ก็มีจุดให้บริการกว่า 10,000 จุด พนักงานอีกกว่า 20,000 ชีวิตและยานพาหนะขนส่งอีกราวๆ 20,000 คัน ศูนย์กระจายสินค้าอีก 1,300 แห่ง และยอดส่งพัสดุ “อย่างน้อยวันละ 1.1 ล้านชิ้น”
สำหรับการ IPO ในครั้งนี้ บริษัทก็มีแผนที่จะนำเงินจากการระดมทุนอย่างน้อย 6 พันล้านบาท ไปต่อยอดและพัฒนาธุรกิจเพื่อรองรับตลาด E-commerce ที่มีการเติบโตถึงปีละ 8% ในไทย
รวมไปถึงการเปิดสาขาเพิ่มให้ทั่วถึงครอบคลุม และเสาะหาบุคลากรที่มีคุณภาพเข้ามาในองค์กร
Kerry Express จะแซง ไปรษณีย์ไทย ได้ภายในปีนี้หรือไม่นั้น ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่พวกเขาได้สร้างมา จากการฟังเสียงบ่นของปัญหาการส่งพัสดุในไทย จนมาสู่การพัฒนาและบุกเข้าตะลุยเพื่อแย่งอันดับ 1 ในตลาดขนส่งไทยอย่างเต็มตัว
เรื่องนี้ก็เป็นบทเรียนอย่างดีว่า ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจมานานแค่ไหน หรือเป็นที่รู้จักดีแค่ไหน แต่จงจำไว้เสมอว่าถ้าหากคุณไม่ปรับตัว ไม่พัฒนาตัวเองให้ทันโลก มันก็มีคู่แข่งซึ่งพร้อมที่จะแก้ปัญหาตรงนั้นและแย่งลูกค้าจากคุณไปตลอดเวลา
อยู่ที่ว่าคุณจะรู้ตัวเร็วแค่ไหน แต่ขอให้เร็วกว่าไปรษณีย์ไทยกับ Kerry ก็แล้วกันนะ
เพราะกว่าจะรู้ตัว บางทีก็สายไปเสียแล้ว...
อีกหนึ่งช่องทางของเราใน App blockdit
กดมาเลย
ฝากติดตามพวกเราด้วยนะครับ 🙏🙏
โฆษณา