27 ส.ค. 2020 เวลา 00:45 • การศึกษา
ในปัจจุบัน อาวุธที่รุนแรงและรวดเร็ว คงหนีไม่พ้นโซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์ต่างๆ ที่เราได้เห็นกันอยู่ทุกวัน คงมิอาจปิดกั้นข้อมูลอันมหาศาลนั้นได้ แต่ต้องมีวิธีจัดการที่ทำให้เราไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ นั้นคือ "สติ"
ในยุคสมัยของสังคมออนไลน์ แน่นอนว่านอกจากจะนำมาซึ่งคุณประโยชน์มากมายในการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วแล้วยังมีข้อเสียตามมาอีกมากมายด้วยเช่นกัน ถือเป็นดาบสองคมที่แหลมคมอย่างยิ่ง
ซึ่งสาเหตุของปัญหาหลักๆ ในโลกออนไลน์นั้น เกิดจากผู้ใช้เทคโนโลยีก็คือมนุษย์นั่นเอง
ซึ่งเราต้องเข้าใจก่อนว่า มนุษย์ทุกคนยังคงมีกิเลสอยู่ในตนเองไม่มากก็น้อย คือ โลภ โกรธ หลง ซึ่งปกติแล้วการดำเนินชีวิตในสังคมที่ต้องอยู่ร่วมกัน ยังมีสิ่งที่จะช่วยควบคุมกิเลสในตัวเรา 3 อย่างหลักๆ คือ
1. พลังขับเคลื่อนทางศีลธรรม เช่น หากเป็นพุทธศาสนิกชน ก็จะรักบุญ กลัวบาป
2. พลังขับเคลื่อนทางครอบครัว เช่น ไม่ทำสิ่งไม่ดี เพราะกลัวพ่อแม่จะเสียใจ
3. พลังขับเคลื่อนทางสังคม เช่น ไม่ทำในสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ สังคมจะเป็นตัวควบคุมพฤติกรรมของตัวเรา เพราะมนุษย์ทุกคนกลัวว่าจะไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม แต่ในโลกออนไลน์ เราสามารถปกปิดตัวเองไม่ให้คนอื่นรู้ว่าในความจริงแล้วเราเป็นใคร ปิดบังได้แม้กระทั่งรูปร่างหน้าตา ฉะนั้นเมื่อเราทำผิด ก่อปัญหาต่างๆ
จงไม่มีผลกระทบมาถึงผู้กระทำมากนัก ดังนั้นสิ่งที่จะควบคุมการกระทำของเราได้จึงเหลือเพียง พลังขับทางด้านศีลธรรมเท่านั้น
การเข้าไปในเว็บไซต์และโพสต์ข้อความต่างๆ จึงทำให้รู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อย อยากจะพูดอะไรก็พูด อยากจะทำอะไรก็ทำ
นี่แหละ คือสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ บนสังคมออนไลน์ อาทิ ปัญหาทางด้านการใช้คำหยาบ บางครั้งมีเรื่องกันถึงขนาดขึ้นโรงขึ้นศาล นอกจากจะเกิดปัญหาคำหยาบคายแล้ว ยังทำให้คนไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันเองอีกด้วย เพราะต่างคนต่างก็อยู่กับเพื่อนในโลกออนไลน์ของตัวเอง
ถ้ายิ่งเราทำบ่อยๆ ก็จะทำให้เกิดความคุ้นเคย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสว่า “วิสาสา ปรมา ญาติ” แปลว่า ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง เมื่อเราได้ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง จนเกิดเป็นความเคยชินแล้ว
เมื่อเราไม่ทำตามเวลาที่เคยทำ ก็จะทำให้รู้สึกกระสับกระส่าย พอเราแชทบ่อยๆ แล้วไม่ได้แชท มันก็จะรู้สึกแปลกๆ รู้สึกโหวงเหวง กลายเป็นว่ามือถือกลายเป็นเพื่อนคู่ชีวิตแทนเพื่อนของเราไปเสียอย่างนั้น
ดังนั้นเราจึงควรใช้สื่อออนไลน์ในปริมาณที่เหมาะสม และไม่ควรใช้สังคมออนไลน์เพี่อการคลายเหงา เพราะจะยิ่งเป็นการทำลายชีวิตของตัวเราเอง บางคนถึงขนาดไม่กล้าปิดมือถือในตอนกลางคืน พอตี 1 ตี 2 ลุกไปเข้าห้องน้ำ ก็ยังอุตส่าห์เปิดดูอีกว่า มีใครเข้ามาทักหรือเปล่า เผลอๆ เลยไม่ได้นอนไปเลย นั่งกดๆ ดูจนเช้าก็มี แบบนี้ชีวิตความเป็นส่วนตัวก็จะหายไป กระทั่งเวลานอนก็ยังไม่มี
เพราะฉะนั้น ให้จัดสรรให้พอดีแล้วก็รู้จักการสงบจิตตัวเองด้วยการทำสมาธิ เพราะการทำสมาธิ ด้วยการหลับตาเบาๆ อยู่กับตัวเองชั่วระยะหนึ่งจะช่วยทำให้เราไม่เหงา ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว และยังทำให้ จัดการปัญหาต่างๆ ได้ดีมากขึ้นอีกด้วย
ถึงแม้ว่าการส่งข้อความในสังคมออนไลน์จะช่วยประหยัดเวลา และเพิ่มผู้รับสารได้อย่างมหาศาล แต่ก็มีโทษมหันต์แฝงอยู่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ย่อมส่งผลกระทบต่อสังคมในชีวิตประจำวันด้วยเช่นกัน โบราณกล่าวว่า สิ่งใดที่มีคุณอนันต์ ก็มักจะมีโทษมหันต์
และยิ่งในยุคที่ทุกคนสามารถเป็นผู้ส่งสารได้ง่ายแล้ว เราจึงควรตระหนัก และระมัดระวังทุกครั้งที่จะใช้สื่อออนไลน์ในการสื่อสาร และให้เราพิจารณาเสมอว่า เราได้สื่อสารในสิ่งที่เป็นประโยชน์และไม่ก่อความเสียหายต่อผู้อื่น โลกออนไลน์ก็จะนำมาซึ่งประโยชน์ต่อตัวเราอย่างมหาศาลแน่นอน
เจริญพร
โฆษณา