26 ส.ค. 2020 เวลา 10:30 • ประวัติศาสตร์
ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน พระบาทสทเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรป ได้ประทับในพระราชวังบักกิ้งแฮมของอังกฤษ และพระราชวังเคลมลินของรัสเซีย ในขณะที่ดินแดนรอบข้างตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษและฝรั่งเศส พระเจ้าธีบอถูกเชิญให้ออกทางประตูผี เชิญไปประทับที่เมืองรัตนคีรี ประเทศอินเดีย และสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มีพระราชฐานะต่ำกว่าผู้ปกครองฝรั่งเศส นายพลหลุยส์ พอล ลูซ ได้นั่งเก้าอี้ที่สูงกว่า
มีเรื่องเล่าขานกันว่า
“ พระเจ้าธีกับพรขณะประทับอยู่ที่อินเดีย ได้เห็นหนังสือพิมพ์ยุโรปส่งตรงมายังที่ประทับ ที่กล่าวถึงการเสด็จพระราชดำเนินเยือนยุโรปครั้งแรกของสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่าที่กรุงลอนดอน รัชกาลที่ 5 ประทับ ณ พระราชวังบัคกิงแฮม พระองค์ทรงได้รับการถวายการต้อนรับสู่ออสเตรีย โดยสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ ทรงรับการถวายพระราชไมตรีโดยกษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ณ กรุงโคเปนเฮเกน และประธานาธิบดีฝรั่งเศสถวายพระราชทานเลี้ยง ณ กรุงปารีส และที่ประเทศเยอรมนี พระเจ้าไกเซอร์ วิลเฮล์ม ทรงยืนคอยรับเสด็จที่สถานีรถไฟ จนกระทั่งขบวนรถไฟพระที่นั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจุฬาลงกรณ์ แล่นเข้าเทียบในชานชาลา จักรพรรดิแห่งเยอรมนีเสด็จมาต้อนรับด้วยพระองค์เอง
1
พระเจ้าธีบอทรงอ่านรายงานข่าวครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งทรงจดจำขึ้นพระทัย แล้วกล่าวกับพระราชธิดาว่า ‘เมื่อครั้งที่บรรพกษัตริย์ของเรา พระเจ้าอลองพญาผู้เกรียงไกร ทรงยกทัพรุกสยาม พระองค์มีพระราชสาสน์ถึงพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา’ พระราชสาสน์ฉบับคัดลอกเก็บอยู่ที่หอจดหมายเหตุในพระราชวัง กล่าวใจความว่า
....หาได้มีความเป็นคู่ขันแข่งในพระเกียรติยศและบุญญาธิการระหว่างเราทั้งสองไม่ การวางพระองค์เทียบข้างพวกหม่อมฉัน เป็นการเปรียบพญาครุฑของพระวิษณุกับนกนางแอ่น พระอาทิตย์เปรียบกับหิ่งห้อย พฤกษเทวดาแห่งสรวงสวรรค์เปรียบกับไส้เดือนดิน พญายูงทอง ธตรัฏฐะ เปรียบกับแมลงเสพคูถ....
นั่นเป็นวาจาที่บรรพกษัตริย์ของเราตรัสกับพระเจ้ากรุงสยาม ทว่าบัดนี้ พวกเขากลับได้นอนพำนักในพระราชวังบัคกิงแฮม ขณะที่พวกเราถูกฝังจมราบอยู่ในกองมูลสัตว์เยี่ยงนี้....... ”
โฆษณา