26 ส.ค. 2020 เวลา 14:47 • ประวัติศาสตร์
“Lady Be Good” เครื่องบินทิ้งระเบิดสัญชาติอเมริกันที่หายไปในทะเลทรายกว่า 15 ปี
หลายคนอาจจะคิดว่า การที่เครื่องบินรบขนาดมหึมาหายไปอย่างปริศนาน่าจะเป็นเรื่องยากมาก แทบเป็นไปไม่ได้
หากแต่เครื่องบินสัญชาติอเมริกันที่มีชื่อว่า “Lady Be Good” เคยหายไปเป็นเวลานานกว่า 15 ปี โดยที่ไม่มีร่องรอยอะไรเลย
ในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ.1943 (พ.ศ.2486) เหล่าลูกเรือของ Lady Be Good ได้มาถึงประเทศลิเบีย และได้รับภารกิจแรก นั่นคือร่วมกับกองบินเครื่องบินทิ้งระเบิดอีก 20 ลำ โจมตีท่าเรือที่ Naple
หลังจากทำภารกิจเสร็จ คำสั่งคือให้กลับมายังฐานในแอฟริกาเหนือ
เมื่อออกจากฐาน Lady Be Good ก็ต้องพบกับสภาพอากาศที่เลวร้าย ลมพัดแรงและเกิดพายุทราย ทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี
แต่เครื่องบินก็บินมาถึง Naple หากแต่เป็นเวลากลางคืนและเครื่องยนต์ก็มีปัญหา Lady Be Good จึงตัดสินใจบินกลับฐานที่ลิเบีย
ในเวลาเที่ยงคืน นักบินจาก Lady Be Good ได้ติดต่อผ่านวิทยุสื่อสารมาถึงภาคพื้นดิน โดยกล่าวว่าอุปกรณ์นำทางไม่ทำงาน ฐานทางภาคพื้นดินจึงจุดพลุขึ้นฟ้าเพื่อให้นักบินสังเกต
หากแต่ Lady Be Good กลับไปไม่ถึงฐาน และหายไปอย่างลึกลับเป็นเวลานานกว่า 15 ปี
ในปีค.ศ.1958 (พ.ศ.2501) กลุ่มนักสำรวจบ่อน้ำมันได้พบกับซากเครื่องบิน
ต่อมา ค.ศ.1960 (พ.ศ.2503) กองทัพอเมริกันก็ได้พบกับร่างของนักบินแต่ละคน กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง และพบเพียงแปดศพ ในขณะที่ศพสุดท้าย จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่พบ
จากหลักฐาน ทำให้คาดว่านักบินแต่ละคนได้กระโดดร่มออกมาจากเครื่องบิน โดยคนหนึ่งร่มไม่กาง ตกลงมากระแทกพื้น ส่วนที่เหลือนั้นต้องเอาชีวิตรอดกลางทะเลทราย แต่อยู่ได้เพียงแปดวันก็เสียชีวิต
ชิ้นส่วนของ Lady Be Good บางส่วนถูกนำกลับไปยังสหรัฐอเมริกา แต่ชิ้นส่วนที่เหลือก็ยังคงถูกทิ้งไว้ในลิเบียจนถึงทุกวันนี้
โฆษณา