26 ส.ค. 2020 เวลา 13:23 • การเมือง
POLITICS : Mark Esper รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงการณ์ต่อต้านจีนอย่างเป็นทางการ โดยกล่าวว่าทหารของสหรัฐฯ เตรียมพร้อมสำหรับจีนแล้วเช่นกัน และนี่อาจเป็นการยืนยันว่าทหารของทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมที่จะปะทะกันทุกเมื่อหลังจากนี้
Session 1 : แถลงการณ์ของ Mark Esper
"กองทัพปลดแอกประชาชนของจีน (China’s People’s Liberation Army, PLA) ได้ฉลองครบรอบ 93 ปีในวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยสุนทรพจน์ของสี จิ้นผิงซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐมนตรีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เรียกร้องให้เปลี่ยน PLA ให้กลายเป็นกองทัพระดับโลก ซึ่งหมายถึงการที่จะสามารถขยายอิทธิพลของกองทัพไปไกลกว่าชายฝั่งของจีน"
"คำพูดของเขาเป็นเครื่องเตือนใจอย่างชัดเจนว่าเราได้เข้าสู่ยุคใหม่ของการแข่งขันระดับโลก ระหว่างกฏระเบียบของประเทศที่เสรีและเปิดกว้างจากฝั่งตะวันตกกับระบอบเผด็จการที่รัฐบาลจีนใช้ปกครองอยู่"
"PLA ไม่ใช่ทหารที่รับใช้ชาติ ซึ่งแตกต่างจากการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญอย่างที่กองทัพสหรัฐฯ ทำ แต่ PLA เป็นหน่วยงานทางการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่มีความสามารถมากขึ้น เมื่อกองทัพได้พัฒนาวิสัยทัศน์ภายในประเทศไปไกลขึ้น"
"ระบอบการปกครองแบบเผด็จการที่จีนใช้ รวมถึงวาระทางเศรษฐกิจ และนโยบายต่างประเทศที่มักจะเป็นภัยต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และพันธมิตรของเรา"
"ด้วยเหตุนี้ ทุกประเทศที่แสวงหาความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงตามกฏระเบียบที่เสรีและเปิดกว้าง จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลกระทบของการมีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพ PLA ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมรบหรือแม้แต่ด้านเทคโนโลยี"
"การพัฒนาขึ้นมาของ PLA เป็นแนวโน้มที่โลกต้องศึกษาและเตรียมรับมือเช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ และโลกตะวันตกได้ศึกษาและจัดการกับกองทัพโซเวียตในศตวรรษที่ 20 ขณะที่ PLA ประกาศเจตนารมณ์อย่างเปิดเผยที่จะพัฒนาเทคโนโลยีทางทหารให้เสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2035 และกลายเป็นกองกำลังระดับโลกภายในปี 2049"
"แผนการปรับปรุงใหม่ของพวกเขา ครอบคลุมถึงคลังแสงอันทรงพลังของขีปนาวุธทั่วไป ควบคู่ไปกับความสามารถทางไซเบอร์ อวกาศ และสงครามอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง นอกจากนี้ยังรวมถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (A.I.) เพื่อเสริมสร้างอิทธิพลในการยึดอำนาจ และดำเนินการปราบปรามประชาชนของตนอย่างเป็นระบบโดยเฉพาะอย่างที่เขาเคยทำกับประชากรอุยกูร์"
"การเน้นย้ำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในการปลูกฝังการพัฒนาเทคโนโลยีและกระชับการควบคุมของ PLA แสดงให้เห็นว่าผู้นำของจีนกำลังมองว่ากองทัพดังกล่าวเป็นศูนย์กลางในการบรรลุวัตถุประสงค์ของพวกเขาในอนาคต"
"สิ่งที่โดดเด่นเหล่านี้คือการปรับรูปแบบของกฏหมายระหว่างประเทศ ในแนวทางที่บ่อนทำลายกฎเกณฑ์แบบเสรีซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก และขณะเดียวกันก็ทำให้ระบบอำนาจนิยมกลายเป็นเรื่องปกติ โดยสร้างเงื่อนไขเพื่อให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนบีบบังคับประเทศอื่นและขัดขวางอำนาจอธิปไตยของพวกเขา"
"และการดำเนินการทั้งหมดเหล่านี้จากจีน ได้กระตุ้นให้กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ดำเนินการตอบโต้อย่างครอบคลุม รวมถึงเร่งการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศที่บ่งบอกถึงความพยายามของเราในการปรับตัวและพัฒนากองกำลังของสหรัฐฯ ให้ทันสมัย เพื่อการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่โดยมีจีนเป็นเป้าหมายหลักของเรา"
"ประการแรกและสิ่งสำคัญที่สุด คือการแข่งขันในระยะยาวกับจีน ซึ่งเรียกร้องให้เรามีกองกำลังที่สามารถยับยั้งและชนะในทุกย่านของสงคราม ไม่ว่าจะเป็นทางอากาศ ทางบก ทางทะเล หรือแม้แต่ทางอวกาศ และโลกไซเบอร์"
1
"เพื่อสนับสนุนความพยายามนี้ Pentagon กำลังลงทุนในทั้งอุปกรณ์ขั้นสูงทั่วไป และเทคโนโลยีที่จะสามารถผลิกเกมได้อย่างเช่น อาวุธความเร็วเหนือเสียง การสื่อสาร 5G การป้องกันทางอากาศและขีปนาวุธแบบประยุกต์ และปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีความสำคัญต่อการรักษาความได้เปรียบของเราไปอีกหลายทศวรรษ"
"ประการที่สอง คือการขยายและเสริมสร้างเครือข่ายพันธมิตรของเรา ซึ่งมีความสำคัญต่อความพยายามครั้งนี้เช่นกัน เนื่องจากสิ่งนี้จะทำให้เรามีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งของเรา ในขณะที่ PLA ยังคงมีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อเพื่อนบ้านในภูมิภาคเช่น การจมเรือประมงเวียดนาม การคุกคาม การขัดขวางพัฒนาน้ำมันและก๊าซของมาเลเซีย และการอ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นกองกำลังอเมริกันจะยังคงเสริมสร้างความร่วมมือกันอันยาวนานของเราและปกป้องสิทธิของทุกประเทศ"
"ในระหว่างการปรึกษาหารือกับคู่ค้าชาวออสเตรเลียของผมเมื่อเดือนที่แล้ว เราได้ลงนามในคำแถลงถึงหลักการที่มุ่งมั่นที่จะเพิ่มความร่วมมือด้านการป้องกันและการตอบสนองของเราในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ระหว่างช่วงทศวรรษหน้าและต่อ ๆ ไป"
"นอกจากนี้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่นได้จัดการประชุมด้านกลาโหมครั้งล่าสุดเพื่อส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลและเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกัน ดังที่แสดงให้เห็นจากการซ้อมรบทางเรือสามฝ่ายในทะเลฟิลิปปินส์"
"ประการที่สาม เนื่องจากการสร้างเครือข่ายที่กว้างขึ้นของพันธมิตรที่มีความสามารถและมีหลักการเดียวกัน จะเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ของเราในการขัดขวางอิทธิพลที่มุ่งร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน"
"ดังนั้น Pentagon จึงยังคงพัฒนาขีดความสามารถของพันธมิตรทั่วโลก โดยสิ่งนี้เกิดขึ้นผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น Maritime Security Initiative ที่เราได้ให้ความช่วยเหลือประมาณ 394 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนขีดความสามารถทางทะเลของพันธมิตรในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้จะช่วยลดความเปราะบางของประเทศเหล่านี้ต่อการบีบบังคับของจีน และช่วยให้เราขยายการฝึกร่วมกัน และความพยายามในการวางแผนต่าง ๆ"
"ความคิดริเริ่มเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของสหรัฐฯ ที่จะยืนหยัดร่วมกับพันธมิตรของเราในการต่อต้านการกลั่นแกล้งของปักกิ่ง และเราจะสนับสนุนอำนาจอธิปไตยของทุกชาติ รวมถึงจะปกป้องระบอบการปกครองระหว่างประเทศที่เสรีและเปิดกว้าง ซึ่งได้เสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่งคั่งให้แก่โลกมาหลายเป็นเวลาทศวรรษ"
"อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ไม่สามารถแบกรับภาระนี้ได้โดยลำพัง และเรายังคงเรียกร้องให้พันธมิตรของเราแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ กับเราอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกันในฐานะพันธมิตรที่แท้จริง และเรายังคงเป็นกำลังใจให้พวกเขา"
Session 2 : ประเด็นข้อพิพาทจีน-ไต้หวัน-สหรัฐฯ
ล่าสุดมีข่าวจาก Forbes ออกมาว่าจีนสามารถเข้ายึดฮ่องกงได้ภายใน 3 วัน และสหรัฐฯ จะเป็นอัมพาตจากความวุ่นวายทางการเมืองที่เกินกว่าจะหยุดยั้งได้
นั่นเป็นข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นโดยอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ 2 คนซึ่งสร้างสถานการณ์ที่ซับซ้อนเพื่อแสดงให้เห็นว่าอาจเกิดอะไรขึ้น เว้นแต่สหรัฐฯ จะเตรียมความพร้อมสำหรับความขัดแย้งกับจีน
อดีตพลเรือเอก James Winnefeld Jr. ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานคณะเสนาธิการร่วมตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2015 และ Michael Morell ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ CIA ในคณะบริหารของ Barack Obama ถึง 2 ครั้งได้รายงานสถานการณ์ดังกล่าวไว้ในบทความของนิตยสาร US Naval Institute
ต่อไปนี้คือสถานการณ์ตามที่ Winnefeld และ Morell คาดการณ์ไว้ :
ในเดือนมกราคมปี 2021 พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะกำลังสิ้นหวังจาก COVID-19 ซึ่งทำให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหาย และยังต้องทุกข์ทนจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ต่อการปรับใช้กฏหมายความมั่นคงฉบับใหม่ภายในเมืองฮ่องกง ทำให้การค้าของจีนเสียหาย รวมถึงผู้นำของไต้หวันได้ออกมาเรียกร้องเกี่ยวกับการประกาศให้ไต้หวันเป็นประเทศเอกราช
ขณะเดียวกันการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ที่มีข้อขัดแย้งที่กำลังอยู่ในความท้าทายของศาลว่าใครควรจะครอบครองทำเนียบขาว
ต่อจากนั้นจีนจะเริ่มต้นปฏิบัติการที่มีชื่อว่า "Operation Red Province" ซึ่งหมายถึงการเอาไต้หวันกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของจีน โดยเปิดฉากด้วยการฝึกซ้อมทางทหารครั้งใหญ่ตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2020 ขณะที่ทางตะวันตกถูกรบกวนจาก COVID-19 และการเมืองของสหรัฐฯ กำลังปั่นป่วน
การดำเนินการดังกล่าวจะตีแผ่ออกมาอย่างรวดเร็ว โดยเริ่มตั้งแต่เย็นวันที่ 18 มกราคมซึ่งเป็น 2 วันก่อนกำหนดการเดิม ซึ่งจะมีการส่งข้อความไปยังผู้นำของไต้หวันว่าพวกเขามีทางเลือกในการยอมจำนนโดยสันติทันทีหรือการบีบบังคับด้วยอาวุธ
ในเวลาเดียวกันสายลับและกองกำลังพิเศษของจีนได้ยึดสถานที่สำคัญของไต้หวัน และได้ทำการโจมตีทางไซเบอร์เพื่อทำลายระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสาธารณะของไต้หวัน ส่วนกองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบกของจีนจะเข้ายึดเกาะนอกชายฝั่งของไต้หวันรวมทั้ง Quemoy และ Matsu ในขณะที่เรือดำน้ำของจีนปิดล้อมไต้หวัน
สื่อจีนให้ความสำคัญกับการมีขีปนาวุธหลายพันลำในตำแหน่งปล่อยที่สามารถกำหนดเป้าหมายไปยังสถานที่สำคัญในไต้หวันได้ โดยสถานการณ์สมมติของเขาก็คือ มีการประกาศปิดเกาะทางทะเลและทางอากาศในทันที โดยจะเป็นการบีบบังคับให้ไต้หวันยอมรับคำตัดสินชี้ขาดของจีน
ดังนั้น Pentagon จึงต้องเตรียมพร้อมที่จะส่งกองกำลังไปยังภูมิภาคดังกล่าว ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กำลังถูกกระตุ้นด้วยความไม่แน่นอน และการไม่ตอบโต้ทางทหารจะทำลายศักดิ์ศรีของชาวอเมริกัน แม้เจ้าหน้าที่บางคนกำลังกลัวว่าแทนที่จะได้ปกป้องไต้หวัน แต่สหรัฐฯ จะต้องใช้ความพยายามและจะเกิดความสูญเสียอย่างมากในการปลดปล่อยหลายประเทศจากการยึดครองของจีน
สถานการณ์ดังกล่าว ได้ให้ความกระจ่างในประเด็นบางประการ กล่าวคือความมั่นคงในระยะยาวของไต้หวัน และความสามารถของสหรัฐฯ ในการควบคุมการขยายตัวของจีน ซึ่งขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก โดยประการที่ 1 คือสหรัฐฯ ยังคงมีอำนาจทางทหารที่เพียงพอ และเหมาะสมที่จะยับยั้งจีนไม่ให้ยึดไต้หวันหรือไม่
1
ประการที่ 2 คือสหรัฐฯ มีเจตจำนงทางการเมืองเพียงพอที่จะโน้มน้าวผู้นำของจีนหรือไม่ หากพวกเขาขู่ว่าจะใช้อำนาจทางทหารเมื่อจำเป็น ซึ่งหมายความว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 ที่กำลังมีข้อขัดแย้งอาจส่งผลกระทบรุนแรงไปยังพื้นที่หลายพันไมล์ทั่วมหาสมุทรแปซิฟิกต่อจากนี้
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่
อยากลงทุน อยากมีเงินเก็บอย่างจริงจัง แต่ไม่มีพื้นฐาน World Maker มีคอร์สเรียนดี ๆ มาแนะนำให้ครับ รายละเอียดคลิกเลย !!
โฆษณา