28 ส.ค. 2020 เวลา 10:38 • นิยาย เรื่องสั้น
เสียงเหมือนฝีเท้าคนเดินดังที่ชั้น 2 ของบ้านอีกครั้ง นับเป็นครั้งที่ 3 ของวันนี้แล้ว
ลูกสาวน้อยๆวัย 6 ขวบดวงตาสีฟ้า ถามแม่สาววัย 30 ด้วยความสงสัย
"แม่คะ หนูได้ยินเสียงคนเดินอีกแล้วค่ะแม่"
"ไม่มีอะไรหรอกลูกทานข้าวเถอะ"
แม่ปลอบลูกอีกครั้ง โดยไม่รู้ว่าจะตอบยังไงเพราะเธอก็ได้ยิน และไม่รู้จริงๆว่าเป็นเสียงของใคร เสียงนั้นดังอยู่เรื่อยๆเลย ไปดูมาหลายครั้งก็ไม่เห็นใครเลย
กลางดึกคืนวันเดียวกัน ลูกสาวตกใจตื่นผวาเข้ามากอดแม่ที่นอนอยู่ข้างๆ
เสียงกระแทกเท้าดังโครมๆ เหมือนคนวิ่งไปมาเต็มไปหมดที่ชั้นล่าง คราวนี้ชัดมาก
"นอนนะคนดี ไม่ต้องกลัวแม่อยู่นี่"
แม่ ในใจก็นึกหวั่นอยู่ไม่น้อย กอดลูกสาวแน่นด้วยความห่วงใยปนความหวาดกลัว
10 นาทีต่อมาเมื่อเห็นว่าลูกสาวหลับอีกครั้งแล้ว แม่ค่อยๆย่องลงมาข้างล่าง เปิดไฟ ถือไม้เบสบอล กำไว้แน่น คิดว่าถ้ามีใครอย่างน้อยเจ้าไม้นี้มันอาจได้ใช้
ไม่กลัว ไม่กลัว ท่องไว้ในใจ แต่ใจนั้นเต้นแรงเหมือนกลองเพลง My Sharona *
ทุกอย่างเรียบร้อยที่ชั้นล่าง สิ่งของทุกอย่างอยู่ปกติ ไม่มีอะไร ไม่มีใครเข้ามาทั้งนั้น
"แม่คะ เมื่อไรพ่อจะกลับมา"
ลูกสาวถามแม่ขณะที่กำลังตักอาหารเช้าที่เหมือนกันทุกวันมา 3-4 เดือน เท่ากับระยะเวลาที่เกิดมีเสียงประหลาดๆนั้นในบ้านเลย
"พ่อกำลังกลับลูก ตอนนี้สงครามสงบแล้ว อีกไม่นานนะลูก"
ในสงครามที่แสนจะโหดร้าย จบลงด้วยความสูญเสียมากมาย สามีของเธอเป็นทหารแนวหน้าที่ผ่านการรบมาอย่างโชกโชน ทุกครั้งที่ออกรบเขาจะกลับมาบ้านปลอดภัยเสมอ
แต่ครั้งนี้ 3-4 เดือนแล้วไม่มีข่าวคราวเลย เธอยังเชื่ออยู่ในใจเสมอ ว่าสามีต้องกลับมาเหมือนทุกครั้ง
2 วันต่อมา ขณะที่เธอกำลังเตรียมอาหาร เธอได้เห็นลูกสาวเธอพูดพึมพำคนเดียวตรงห้องนั่งเล่น จึงรีบเดินมาถาม
"ลูกคุยกับใครคะ"
.
"หนูถามพี่เค้าค่ะ พี่เค้าเพิ่งเดินผ่านหนูไป"
"ไม่มีใครลูก เราอยู่กันแค่สองคน"
"มีค่ะ พี่ผู้หญิงผมบรอนซ์"
"บ้านเรามีคนอยู่อีกค่ะ หนูอยากให้พี่เค้ามาเล่นกับหนู " ลูกบอก
~~
คืนนั้นเอง เสียงกึกๆ ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ชัด เธอบอกกับตัวเองว่า ถ้าเป็นผีจริง ขอให้อย่าทำอะไรเราเลย
ขอแค่สามีกลับมา เราคงจะย้ายออกแล้ว ขอเวลาหน่อย
เช้าวันต่อมาเธอตื่นขึ้นพร้อมกับสังหรณ์ใจบางอย่าง เหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้น ฟ้ามันขุ่นๆยังไงไม่รู้ เหมือนพายุจะมา ลมแรงแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยความที่บ้านของเธอ ตั้งอยู่เชิงเขา ห่างไกลชุมชน บรรยากาศแบบนี้ มันไม่ค่อยน่ารื่นรมย์เอาซะเลย
เสียงประตูหน้าบ้านดังขึ้น แบบเป็นจังหวะเคาะ
"เจ๊ฟ " เธออุทานด้วยเสียงดัง ในที่สุดเค้าก็กลับมาแล้ว เธอวิ่งลงมาอย่างเร็วด้วยใจหวังว่าต้องเป็น เจ๊ฟ แน่นอน โอ พระเจ้า วันที่ชั้นรอคอย
"ที่รัก เธอกลับมาจริงๆ กลับมาแล้ว!!" เธอกระโดดกอดสามีในทันทีที่เปิดประตูออกมาเจอ
"เธอเป็นยังไงบ้าง บาดเจ็บมั้ย โอเคมั้ย" เสียงสั่นเครือด้วยความตื่นเต้นปนน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมา
เธอดึงตัวออกมา มองหน้าเจ๊ฟแบบชัดๆ อีกที ตั้งแต่หัวจรดเท้า
สีหน้าเจ๊ฟไม่แสดงความดีใจอะไร เขาอยู่ในชุดทหารสีเทาลายเขียวเปื้อนโคลน ท่าทางอิดโรยเหมือนไม่ได้พักผ่อน ดวงตาหรี่ไร้แวว จ้องหน้าเธอแล้ว พูดว่า
~ "เธอทำอย่างนั้นทำไม"
เธอแปลกใจในคำถามเล็กน้อย
"ชั้นทำอะไรเจ๊ฟ ช่างเถอะคุณมาเหนื่อยๆ ไปพักก่อนเถอะ เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน ลูกหลับ ยังไม่ตื่นเลย แกตื่นมาต้องดีใจแน่เลยที่รัก แกถามถึงพ่อทุกวัน " 😊
เจ๊ฟ นอนหลับที่โซฟาชั้นล่างอยู่พัก
นึง ก็ลืมตาขึ้น เหม่อลอย มองไปที่เพดาน จนเธอต้อง ถาม
"เธอเป็นอะไร สงครามจบนานแล้วทำไม เพิ่งกลับมาถึง"
"ผมหาทางกลับบ้านไม่เจอหนะ มันไกลมาก ผมเดินมาตลอดเลย มันไม่ถึงซะที จนวันนี้ เหมือนมีคนนำทางผมกลับมาจนถึงจนได้"
เจ๊ฟมองหน้าเธอแบบหมดอาลัยตายอยากอีกครั้ง
~~
"ทำไมเธอทำอย่างนี้ เธอทำกับลูกได้ยังไง" เจ๊ฟถาม
"เจ๊ฟ ชั้นไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไรนะ ชั้นอยู่กับลูก รอคุณ ฉันกลัว ฉันระแวงตลอด คุณมีปัญหาอะไร บอกสิ"
เธอรู้สึกว่าเจ๊ฟสับสนจากภาวะสงครามแน่เลย
ยังไม่ทันได้พูดอะไรกันต่อ ก็มีเสียงอื้ออึง จากชั้นบนอีกแล้ว เหมือนจะเป็นบทสวดอะไรซักอย่าง
"นั่นไง คุณได้ยินมั้ยเราต้องอยู่บ้านกับเสียงเหล่านี้ตลอดเลย"
เจ๊ฟ หันมามองเธอแล้วตอบว่า
"นั่นแหละเป็นเสียงที่นำทางผมมาบ้านได้ ในวันนี้....."
~~
~~
" เจ๊ฟ นี่มันยังไงกัน คุณกำลังทำให้ชั้นกลัวนะ"
" คุณไม่รู้หรอ งั้นเราขึ้นไปดูกัน " เจ๊ฟ จูงมือเธอ
ทั้งสองขึ้นไปชั้นบน เธองงว่า ห้องนอนมันหายไปไหน มันกลายเป็นห้องโล่งๆ ไม่มีเตียง ไม่มีของ แต่มีชายหญิงนั่งล้อมกันเป็นวง 5-6 คนได้ มีเด็กหญิงผมบรอนซ์นั่งตักผู้หญิงวัยกลางคนๆหนึ่ง นี่มันอะไรกัน!
ทุกคนไม่ได้มองเธอกับเจ๊ฟเลย ยังคงพูดคุยกันอย่างเคร่งเครียด เหมือนมองไม่เห็นเธอด้วยซ้ำ !!
"พ่อ" เสียงลูกสาวเรียก เสียงเรียบๆไม่ได้ตื่นเต้นนักที่เจอพ่อ
"พวกนี้เค้าปลุกให้หนูตื่นมาค่ะแม่"
ลูกสาวเอ่ย พร้อมเดินมาหาจากมุมห้อง
"พระเจ้า ลูกเป็นอะไรทำไมมอมแมม ทำไมคอมีรอยช้ำแบบนี้"
ผู้เป็นแม่ถามอย่างตกใจและกอดลูกไว้แน่น
ทั้งสามกอดกันกลม ระหว่างนั้นเอง
~
~
~
~
~
คนที่อยู่ในวง ลักษณะคล้ายบาทหลวง ได้เอ่ยขึ้น ว่า....
"ผมเองก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนนะครับ ก่อนที่พวกคุณมาซื้อบ้านหลังนี้จะมีเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ ไม่มีใครพูดถึงมันเลย"
.
"ครับ ผมเข้ามาอยู่ ก็ได้ยินเสียง คนคุยกัน เสียงคนเดิน เหมือนมีคนแอบเข้ามาในบ้านผมตลอดเลย จนผมคิดว่ามันเป็นผี แน่ๆ จึงเชิญ มิเชล เข้ามาทำพิธีในวันนี้"
มิเชล ที่นั่งก้มหน้าตลอด เธอเงยหน้าขึ้น แล้วมองมาทางบาทหลวง
" ชั้นเห็น เรื่องราวทั้งหมดแล้ว บ้านนี้มีคนตาย 2 คน" 😯😯
ชายที่นั่งใส่ชุดตำรวจ ได้กล่าวต่อว่า
~
" ครับ บ้านนี้เคยเป็นบ้านของทหารคนนึงเค้าเช่าอยู่ กับภรรยาและลูกสาวเล็กๆ 1 คน เมื่อหลายปีก่อน เค้า เสียชีวิตในสนามรบ
~
~
~
~
ภรรยาเค้า เสียใจมาก ด้วยความที่เค้าเครียดมากปิดบ้านไม่ติดต่อกับใครเลย จน เรามาพบว่า ...เธอได้ปลิดชีวิตลูกสาวเธอ และตัวเธอเอง ..ในบ้านหลังนี้ 😢" .....
"ผมก็เพิ่งมารู้ว่า เจ้าของบ้าน มาปรับปรุง และขายบ้านหลังนี้ให้พวกคุณก็วันนี้เอง ....."
😯😯😯😯😯😯😯
😯😯😯😯😯😯😯
จบครับ ... อย่าเครียดน๊าาา ..
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
หากเราจะซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อคอนโด หรือ .. ซื้อเรือดำน้ำ ก็ตาม 😄😄
โปรดซื้อ มือ 1 !! หรือ ควรเช็คประวัติ สักนิดดดด......😂😂😂😂
~
~
เนื้อเรื่อง ผมดัดแปลงมาจาก ภาพยนต์เก่าเรื่อง The Others (2001) ที่แสดงนำ โดย นิโคล คิดแมน ในบทของแม่ 😄
หนังดีมากครับ สนุกดี
*ส่วนอันนี้ แถมครับ เพื่อเปลี่ยนอารมณ์ เพลงที่หัวใจของแม่เต้นเหมือนกลองแบบเพลงนี้😂😂
ฟังเพลง
My Sharona by The Knack
(1979)
มันส์ดีครับ เป็น Drum Cover

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา