28 ส.ค. 2020 เวลา 18:02 • ปรัชญา
มงคล 3 ประการ เพื่อการใช้ social network ให้พ้นจากความดราม่าทั้งปวง
ในยุคที่ social network มีพลังอำนาจรุนแรง
จนเรียกว่าสามารถสร้างความสุขความทุกข์สร้างความเจริญความตกต่ำให้กับคนได้เพียงแค่ชั่วพริบตา
ที่นี้เราจะรู้ได้ไงว่าคน รู้สิ่งที่อยู่ใน social network เป็นสิ่งที่เราเลือกและทำให้ชีวิตเรามีความสุข ราบรื่น ไม่พาชีวิตไปสู่ความดราม่าตกต่ำและวุ่นวาย
เราสามารถกำหนดได้ด้วยตัวเองโดยการตรวจสอบองค์ประกอบของชีวิตว่าเป็นไปในทางที่ดีสร้างโอกาสหรือสร้างความน่าจะเป็นให้เราเจริญได้ไหม
จริงๆประกอบก็มีเยอะแยะมากมายก่ายกอง
แต่ 3 อย่างแรกที่ต้องหมั่นเช็คหรือตรวจสอบอยู่บ่อยๆ หรือใช้เวลาที่ต้องตัดสินใจว่ากำลังอยู่ในทางหรืออยู่ในความน่าจะเป็นที่ถูกต้องหรือยัง ได้แก่
1.
แน่ใจไหมว่าคนที่เราติดตาม กดไลค์ หรืออยู่ในความเกี่ยวข้องเกี่ยวพัน คนที่เราคบหา หรือมีความสัมพันธ์ระดับสนิทชิดเชื้อ "ไม่ได้เป็นคนชั่วร้าย" เอารัดเอาเปรียบ ไม่ได้เป็นคนที่อาจนำเราไปทางที่ผิดได้ ไม่ได้พาชีวิตของเราไปในทางที่ผิดหรือตกต่ำ
หรือภาษาทางพระบอกว่าไม่ได้ทำให้เรามี "มิจฉาทิฏฐิ" คือหลงผิดจนคิดว่าเรื่องชั่วเป็นเรื่องธรรมดาหรือเป็นเรื่องดีที่สามารถทำได้
ลองตรวจสอบดูว่าเรากำลังกดติดตามคนพาลอยู่หรือเปล่า
2.
จากนั้นก็มาดูกันว่า คนที่เราเลือกให้ความสนิทชิดเชื้อในระดับที่ขอคำปรึกษาหรือตัดสินใจได้แทนนั้นเป็นคนดีมีความรู้มีศีลธรรม กล่าวคือรู้ว่าสิ่งใดผิดสิ่งใดชอบสิ่งใดช่วงสิ่งใดดี ข้อนี้คือ หากต้องเลือกคนที่มาสนิทชิดเชื้อ คนที่สามารถขอคำปรึกษาคนที่ส่งเสริม ผลักดัน หรือห้ามปรามเรา
"ก็จงเลือกคบคนที่ดีและพาไปในทางที่เจริญ และที่สำคัญคือสามารถชี้ให้ไปในทางที่ถูกครรลองคลองธรรม" ช่วยชี้แนะแนวคิดให้เป็น "สัมมาทิฏฐิ"
คนที่เราติดตามคนที่เราชื่นชอบเป็นคนที่ให้ความรู้ความเข้าใจให้เราไปในทางที่เราพูดดีคิดดีทำดีหรือไม่
การเลือกกดติดตามเลิกติดตามอยู่ที่เราทั้งนั้นว่าเราจะเลือกคนที่เป็นบัณฑิตมีคนพาล
3.
ควรมีต้นแบบแบบอย่าง ไอดอล หรือไอคอน คนที่เราเคารพรักและศรัทธา ผู้ที่สามารถให้ทั้งแรงบันดาลใจและให้แนวทางการดำเนินชีวิตในทางที่ถูก ทางที่มีความน่าจะเป็นที่จะเจริญก้าวหน้าได้ ชี้แนะนำในทางทำมาหากิน ทางที่ทำให้มีความสุขหรือบรรเทาจากความทุกข์
ซึ่งวิธีการเลือกที่ง่ายที่สุดก็คือก็จงพิจารณาว่าเขาเป็นคนมีแนวคิดที่ถูกครรลองคลองธรรมไหม ปรารถนาให้เราเป็นคนดีเป็นคนที่มีชีวิตราบรื่นเป็นปกติไหม หรือเป็นคนชักพาเราไปสู่ทางแห่งความวุ่นวาย ทางที่นำพาชีวิตไปสู่ความตกต่ำ
หากใครสักคนที่เราเลือกเป็นคนที่เราศรัทธาหรือขนาดเรียกว่าบูชา หรือศัพท์แสลงสมัยใหม่ที่ใช้คำว่ายกให้เป็นศาสดา
ศาสดาที่คุณเลือกพาคุณไปสู่ความสุขความเจริญไหม เขานำพาให้คุณคิดดีพูดดีทำดีไหม
หากใช่จงถือให้เขาเป็นแบบอย่างและทำชีวิตของคุณให้ดี
สุดท้ายสิ่งที่พูดมาก็เป็นแนวคิดหรือเป็น concept
ที่ขึ้นอยู่กับเราในการปรับใช้เพราะในโลกความเป็นจริงมันก็ยาก ที่จะหนีจากสิ่งที่วิ่งมาล้อมเราสิ่งที่วิ่งมาล้อมโลกอย่าง social network
แต่ถึงกระนั้นทุกสิ่งมันก็ขึ้นอยู่กับเราว่าเราเลือกแค่อ่านผ่านๆหรือจะติดตามเพื่อพอรู้ข่าวสาร
หรือติดตามเพื่อให้มีอิทธิพลกับชีวิต
สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมดไม่ได้เป็นเรื่องใหม่และไม่ได้คิดเอง สิ่งนี้คือ 3 ข้อแรกในมงคล 38 ประการ ในมงคลสูตร ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้เท่านั้นเอง
"ไม่คบคนพาล คบบัณฑิต บูชาคนที่ควรบูชา"
ผมเพียงมาคิดวิเคราะห์ตามประสาของลุงคนหนึ่งเท่านั้น
สุขสันต์วันศุกร์ครับ
ปล.ถ้าถนนราชพฤกษ์จากสภาพนี้อีกสัก 1 เดือน
คงแต่งหนังสือใหม่ได้สักเล่มนึงแน่นอลลล
ลุงแบงค์
นิยามศัพท์
- คนพาล คือ คนที่คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว
- บัณฑิต คือ คนที่คิดดี พูดดี ทำดี
- คนที่ควรบูชา คือ พระพุทธเจ้า พระสงฆ์อริยสงฆ์
พระมหากษัตริย์ผู้ตั้งอยู่ในทศพิศราชธรรม บิดามารดา ครูบาอาจารย์ ที่มีความรู้ดี มีความสามารถ และประพฤติดี ผู้นำที่มีคุณธรรม
โฆษณา