30 ส.ค. 2020 เวลา 05:00 • การศึกษา
EP06…เพราะหลงลืม
เมือง Hamilton รัฐ Ohio ถือเป็นเมืองไม่เล็กมาก และเป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดกลาง มีผู้คนอยู่ประมาณ 65,000 คน แม้จะเป็นแหล่งอุตสาหกรรมแต่ก็มีพื้นที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงามทีเดียว
ในช่วงบ่ายหน้าร้อนของปี 1996 เด็กชายสองคนกำลังตกปลาที่แม่น้ำ Linden แต่แทนที่เขาจะได้ปลามา กับตกได้เป็นหัวกระโหลกแทน มันมีแค่ครึ่งหน้า และไม่มีฟัน
เลย
เด็กทั้งสองตกใจ วิ่งหนีไปบอกพ่อแม่ แต่พวกเขาไม่เชื่อ เขาจึงไปแจ้งตำรวจแทน เพียง 20 นาที ตำรวจก็ไปถึงที่นั่น
กะโหลกนั้นยังมีเนื้อยุ่ยของมนุษย์อยู่ แต่ตำรวจไม่รู้ว่าเป็นของใครและมันอยู่น้ำนานแค่ไหน พวกเขาเพียงแต่รู้ว่าเจ้าของกระโหลกนี้อยู่แม่น้ำไม่น่าจะเกินสามสัปดาห์
กระโหลกที่พบในแม่น้ำ
โดยปกติแล้ว เมื่อมีเหตุการณ์ฆาตกรรม เช่น พบกะโหลกมนุษย์ สิ่งแรกและเป็นสิ่งที่สำคัญนด้านนิติวิทยาศาสตร์ คือ ฟัน เพราะการสืบว่า ใครเป็นเจ้าของกระโหลกสามารถหาจากการทำทันตกรรม ซึ่งแต่ละสถานทันตกรรมจะมีการบันทึกฟิลม์เอ็กซเรย์
ของคนไข้อยู่แล้ว ทำให้ง่ายและแม่นยำต่อการหาตัวตนของผู้ตาย
ในกรณีนี้ ตำรวจค้นพบแค่เพียงหัวโหลกครึ่งหน้าซึ่งไม่สามารถบอกอะไรเพิ่มเติม
ได้เลย ส่วนที่เหลือของร่างกายก็ไม่มีตรงที่เกิดเหตุเลย นี่คือหลักฐานสิ่งเดียวที่เขามีอยู่
แล้วพวกเขาควรจะต้องเริ่มจากตรงไหนก่อนดีล่ะ
เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งกะโหลกไปให้กับ Dr. Beth Murray ผู้เชี่ยวชาญด้านมานุษวิทยาจากมหาวิทยาลัย Mount St. Joseph เพื่อตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม
หลังการตรวจสอบกะโหลก Dr. Murray พบว่ารอยแผลฉกรรจ์ค่อนข้างใหญ่บนหัว
กะโหลกมาจากมีดขนาดใหญ่ คล้ายมีดแล่เนื้อ และยังพบรอยถลอกหรือรอยครูดค่อนข้างลึกอยู่ตามทั่วกะโหลก บ่งบอกให้เห็นว่าผู้ตายผ่านความทรมานเป็นอย่างมากอีกทั้งหลายจุดชี้ให้เห็นว่าคนร้ายพยายามลอกผิวหนังออกให้หมด เพื่อไม่ให้เหลือ
หลักฐานใดๆ ทิ้งไว้
รอยแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่บนหัวกะโหลก
Dr. Murray คิดว่าผู้ตายน่าจะเป็นคนคอร์เคเชียน เพศหญิง อายุไม่น่าเกิน 35 ปี ร่องรอยบนหัวกระโหลกบ่งบอกว่าคนร้ายใช้อุปกรณ์หรืออาวุธหลากหลายชนิดมากเพื่อที่จะทำการถลกหนังบนหัวกระโหลกในการปกปิดหลักฐาน
ร่องรอยที่ชัดเจนมากที่สุด คือ รอยจากมีดที่หั่นสเต๊กที่ครูดลึกไปมาก ขากรรไกรถูกดึงออกจากตรงโหนกแก้ม ตรงเบ้าตามีรอยทะลุหลายรอย ชี้ให้เห็นว่ามีการเอาเบ้า
ตาทั้งสองข้างออกมาด้วย ฟันทั้งหมดได้ถูกจงใจถอนออกไปทั้งปากด้วยเช่นกัน
ฟันที่เลาะออกจากปากไปทั้งหมด
แต่ว่า คนร้ายลืมถอนฟันกรามซี่สุดท้ายที่อยู่ในสุด มันค่อนข้างผุ แต่ก็ยังหลงเหลือ
เนื้อฟันบ้างเล็กน้อย
Dr. Murray คาดว่าคนร้ายน่าจะหลงลืมคิดว่าถอนฟันไปหมดแล้ว
เหลือฟันกรามเล็ก ๆ ด้านในสุดสองซี่ที่พอจะให้ตรวจสอบบ้าง แต่มันจะได้ผลไหม
นี่คือการสืบค้นที่ยากที่สุดสำหรับเธอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
ตำรวจตรวจสอบรายงานคนหายทันที มีประมาณ 4 คนที่เพิ่งได้รับแจ้งรายงาน หนึ่งในนั้น คือ Tina Mott หญิงสาวแม่ลูกอ่อนวัย 21 ปี หายตัวไปสองเดือนก่อนหน้าที่จะเจอกะโหลก
Tina พื้นเพมาจากรัฐนิวยอร์ก เพิ่งจะมีลูกชายได้เพียงอายุ 18 เดือนเท่านั้น เธอ
อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์ชั้นบนกับแฟนหนุ่มของเธอ Tim Bradford อายุ 24 ปี ทั้ง
สองคนพบกันตอนที่ Tina ขายแม็กกาซีนอยู่และได้ย้ายตาม Tim มาอยู่ในเมือง
แห่งนี้ เธอทำงานเป็นเสมียนให้กับร้านค้าเล็กๆ แถวละแวกบ้านของเธอ ส่วน Timทำงานเป็นช่างซ่อมกรอบรูปให้กับร้านศิลปะ
Tina และลูกชายวัย 18 เดือนของเธอ
เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามการหายตัวไปของ Tina กับ Tim เขาบอกว่าเธอกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่นิวยอร์ก และทิ้งลูกให้ดูแล
แต่ Tina ไม่เคยได้ถึงนิวยอร์กเลย....
คนที่แจ้งการหายตัวของ Tina ก็ไม่ใช้ครอบครัวของเธอด้วยซ้ำ กลับเป็นแม่ของ
Tim เอง เธอแจ้งกับทางตำรวจว่าเธอค่อนข้างจะกลัวอารมณ์ของ Tim และไม่ค่อย
อยากใกล้ชิดเขามากนัก
ตำรวจขอหมายค้นห้องเก็บของที่ Tim เช่าอยู่ เมื่อไปถึงตำรวจพบมีดหลายชนิดประมาณ 19 เล่ม ทั้งหมดมีตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงไปขนาดใหญ่ และยังพบหนังสือวิธีการฆ่าคนด้วยมือเปล่า กับหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการบูชายัญด้วย
แม่ของ Tim บอกว่า ลูกชายของเธอพยายามฝึกวิธีบูชายัญอยู่
เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ก็พบว่าในช่วงที่ Tina หายตัวไป กล้องจากตู้กดเงิน ได้จับภาพที่ Tim กำลังใช้บัตรธนาคารของ Tina เพื่อถอนเงินอยู่ และเขาก็ติดยา
เสพติดอีกด้วย
ตำรวจลองตรวจสอบที่อพาร์ทเมนต์ของพวกเขา พวกเขาลองใช้สารเคมีเรืองแสง
หรือ Luminor เพื่อดูคราบเลือดบนพื้นว่ามีหรือไม่
เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรอยขนาดใหญ่ที่คิดว่าน่าจะเป็นคราบเลือดของคน และพบรอย
เลือดบนพื้นในห้องน้ำ มาถึงตรงนี้ เจ้าหน้าที่คิดว่าการหายตัวของ Tina น่าจะเกี่ยวข้องกับกะโหลกที่พบ แต่พวกเขาต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมว่าสิ่งที่สันนิฐาษมันใช่หรือไม่
Tim หรือ Timothy Bradford
นอกจากฟันกรามที่เหลือทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่ลองใช้วิธี การใช้รูปภาพวางซ้อนกับ
กระโหลก หรือเรียกว่า Skull Photograph Superimposition เพื่อให้เห็นความ
เชื่อมโยงระหว่างกะโหลกและรูปภาพ
การใช้ภาพซ้อนที่เรียกว่า Skull Photograph Superimposition
อีกวิธีคือการนำกะโหลกมามาเป็นแบบเพื่อทำโมเดลกะโหลกอีกชิ้นและเติมเนื้อใบ
หน้าในตรงกับอายุจากหัวกะโหลก วิธีนี้จะได้ผลสำเร็จเพียง 70% เพราะการคาดเดา
สภาพของอายุจากกะโหลกในการเติมเนื้อลงไป ต้องมีรายละเอียดที่ซับซ้อนเช่น
รอยย่นของใบหน้า ริมฝีปาก หู และคิ้ว ที่ค่อนข้างแตกต่างกันไป ไม่สามารถดูทรง
จากกะโหลกได้เลย วิธีนี้จะถูกนำมาใช้หากหมดหนทางจากวิธีอื่นแล้วจริงๆ
1
เจ้าหน้าที่ลองนำเนื้อเยื่อในฟันจากกะโหลกมาตรวจสอบ เทียบกับของลูกชาย Tina แต่เนื่องด้วยเนื้อเยื่อนั้นมาจากฟันที่ผุ ทำให้เนื้อฟันมีความเสียหาย อีกทั้งยังจมอยู่
ในน้ำทำให้ยากต่อการตรวจสอบ
คราวนี้ Dr. Murray ลองเจาะกะโหลกดู ในเนื้อเยื่อในส่วนที่หนาที่สุดของกะโหลก
จะมีเซลล์ หรือ DNA อยู่บ้าง เพราะในส่วนนั้นไม่ได้มีการเสียหายใดๆ และมาลอง
เทียบกับ DNA ของลูกชายของ Tina ดู
คราวนี้มันตรงกัน...กะโหลกนั้นเป็นของ Tina...
และมีดแล่เนื้อที่พบเจอในห้องเก็บของของ Tim ก็พบคราบเลือดบางๆ ติดอยู่เช่นกัน
ฟันกรามซี่ในสุดจากกะโหลกของ Tina
Tim ถูกสอบปากคำอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าก่อนที่ Tim จะทำงานเป็นช่าง
ซ่อมกรอบรูป เขามีประสบการณ์ช่ำชองในเรื่องของการล่าสัตว์และเนื้อสัตว์ รวมถึงการควักเครื่องในเนื้อสัตว์เพื่อนำมาปรุงเป็นอาหาร
1
ในที่สุด Tim ก็สารภาพว่าเขาเป็นคนฆ่า Tina เอง เขาเล่าให้ฟังว่า วันที่เกิดเหตุ
Tina และตัวเขากำลังเล่นเกมส์เศรษฐีกันอยู่ Tim อยู่ในสภาพที่เพิ่งเสพยาเสพติด
พวกเขาเกิดทะเลาะกันระหว่างเล่นเกมส์ Tim พลั้งมือชกหน้า Tina อย่างจัง เธอมึน
ไปชั่วขณะ ก่อนที่จะไปล้างหน้าและคราบเลือดในห้องน้ำ ส่วนตัวเขาตั้งใจจะออกไปตกปลาข้างนอกเพื่อดับอารมณ์โกรธ เขาถือเบ็ดปลาติดมือเข้ามาในบ้าน
1
Tina กลับมาอาละวาด Tim การทะเลาะของทั้งสองจบลงด้วย Tim คว้าปลายเบ็ด
แหลมแทงที่คอ Tina มันตัดเส้นเลือดใหญ่ เธอตายในทันที
Tim กลัวความผิดเขาเริ่มมองดู Tina และหาหนทางการกำจัดศพ เขาไปเอามีดที่
เก็บสะสมจากห้องเก็บของมาทั้งหมด เริ่มต้นชำแหละร่างของ Tina ตั้งแต่หั่นศีรษะ
แขนและขา พร้อมกับเลาะเอาหนังออกทั้งหมด จากนั้นจึงเอาเครื่องในทั้งหมดใส่
ชักโครก เขาใช้มีด 19 เล่มที่มีขนาดแตกต่างกันเพื่อชำแหละและเลาะหนังของ Tina
1
เบ้าตาที่ถูกแงะออกไป ดูได้จากรอยทะลุของการแทงและแงะ
Tim ยังใช้สกูลแงะฟันของ Tina แต่ละซี่ออกมาทั้งหมดอีกด้วย จากนั้นจึง
นำกระดูกทั้งหมดใส่เป้ไปทิ้งกลางป่า Tim พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบส่วนที่เหลือของโครงกระดูก แต่ว่ามันเหลือเพียงน้อยนิด เพราะสัตว์ป่าคาบไปกินเกือบหมดแล้ว
เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าไม่เจอกะโหลก การตายของ Tina จะไม่มีวันรู้เลยว่าเธอถูกฆ่า
เธอจะกลายเป็นแค่คนหายจากการรายงานเท่านั้น
Tim Bradford ถูกตัดสินในข้อหาฆ่าคนโดยไม่ไตร่ตรอง และจงใจปิดบังหลักฐานอย่างโหดเหี้ยม เขาถูกจำคุก 12-25 ปี
เครดิตภาพ: google/ forensic files
**ติดตามคดีที่สืบจากนิติวิทยาศาสตร์ได้ทุกวันอาทิตย์ค่ะ****
***ถ้าชอบฝากกดไล์ค กดติดตามและแชร์ด้วยนะคร่า****
โฆษณา