29 ส.ค. 2020 เวลา 15:45 • หนังสือ
CROSS ROAD in their cases
จากโฆษณาการศึกษาทางไกล Z-Kai ที่กำกับโดย Makoto Shinkai ความยาว 2.00 นาที สู่นิยายยาวกว่า 200 หน้า
เปิดบล็อคด้วยบทความล่าสุดของเรา นักลองหัดเขียนมือใหม่ที่นอกจากจะชอบอ่านยังชอบเมาท์อีก ขอมาแชร์หนังสือสนุก ๆ ให้กับทุกคนกันค่ะ
เรื่องราวการเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยของมิโฮะ เด็กสาวจากเกาะอันห่างไกล และโชตะ เด็กหนุ่มเมืองโตเกียวอันวุ่นวาย เป็นหนังสือที่ให้กำลังใจคนเตรียมสอบเข้าสุด ๆ และสำหรับคนที่ผ่านเหตุการณ์นั้นนานแล้ว ต้องมีกลับไปเห็นภาพเก่า ๆ สมัยนู้นบ้างแน่นอน
CROSS ROAD in their cases
อันดับแรกขอพูดถึงบทส่งท้ายของผู้เขียนก่อนเลยค่ะ
การเตรียมสอบของเด็กมัธยมปลายถือเป็นอีเวนท์ใหญ่อย่างหนึ่งของชีวิตเลย ใครหลายคนอาจจะคิดว่าเวลาเตรียมตัวตั้งนานแค่อ่านหนังสือมากหน่อยเดี๋ยวก็ทำได้ แต่ความจริงแล้วเรื่องราวในชีวิตบางครั้งก็ไม่ได้เอื้อต่อการจดจ่อกับการอ่านเลยซักนิด ไหนจะสภาพแวดล้อม ไหนจะสภาพจิตใจ มันคือการต่อสู้เล็ก ๆ ของการเดินทางผ่านเส้นทางหนึ่งของชีวิต อย่างเรื่องราวของมิโฮะและโชตะจะเป็นอย่างไรนั้น
ติดตามต่อกันในหนังสือได้เลยค่ะ
เรื่องย่อเราขอเล่า
ในนิยายเล่มนี้จะใช้การเล่าเรื่องสลับกันไปมาของ 2 ตัวละครค่ะ เริ่มจาก
-1- การเริ่มต้น - มิโฮะ มิถุนายน ‘ฉันอยากไปที่ไหนสักแห่ง ที่อยู่แสนไกลออกไป’
เมื่อมิโฮะ เด็กสาวผมสั้นใส่แว่นตาสีแดง ผู้ที่ชอบถูกเพื่อนล้อว่า ยัยจริงจัง! จนงงว่ามันกลายเป็นคำล้อไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มีความฝันที่อยากจะไปเผชิญโลกอันแสนกว้างไกลนอกจากเกาะเล็ก ๆ ที่มีโรงเรียนมัธยมต้นแค่แห่งเดียว (แถมยังต้องนั่งเรือเฟอร์รี่ไปอีก) จึงตัดสินใจเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอย่างมหาวิทยาลัยในโตเกียว เรื่องราวการต่อสู้ของเด็กสาวชาวเกาะที่ชีวิตมีความโบ๊ะบ๊ะตั้งแต่ครอบครัว เพื่อน และตัวเอง รวมถึงการเตรียมสอบจะวุ่นวายแค่ไหนกันนั้น มาลุ้นกันค่ะ
-2- การสิ้นสุด - โชตะ มิถุนายน ‘สิ่งที่ชั้นอยากได้...เป็นอะไรที่ไกลออกไปยิ่งกว่า’
โชตะ เด็กหนุ่มเมืองกรุงผู้ที่มุ่งมั่นที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในโตเกียวเช่นกัน เป็นบุคคลที่ดูฮอตอยู่พอตัว แถมยังเป็นนักกีฬาเบสบอลคนเก่งของโรงเรียนด้วย แต่กลับมีปัญหาในการถ่ายทอดความรู้สึกให้คนอื่น ราวกับมีคำถามบางอย่างที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ไหนจะเรื่องครอบครัวกับแม่ที่หากไม่ทำตัวแปลก ๆ คือแปลก และพ่อที่ไม่พบหน้ากันหลายปี มาลุ้นเรื่องราวของโชตะที่นอกจากเรื่องเตรียมสอบแล้ว เรื่องครอบครัวนี่แอบลุ้นหนักกว่าอีก
มิโฮะและโชตะ
โดนตกมาได้อย่างไร
โฆษณาจากคุณมาโคโตะ ชินไคเลยค่ะ ตอนนี้หลายคนคงเคยได้ยินชื่อผู้กำกับคนนี้แล้ว ตัวโฆษณาภาพสวย เพลงเพราะ (ถึงจะไม่ได้มีความอินต่อ Z-Kai เลยซักนิด) ทำให้เรื่องราวของตัวเอกสองคนดูน่ารักมาก ๆ เลยค่ะโดยเฉพาะตอนจบของโฆษณาที่มิโฮะพยายามกระโดดดูผลสอบแต่พลาดไปเหยียบเท้าหนุ่มโชตะที่อยู่ข้าง ๆ จนเกิดเป็นโมเมนต์เฟรชชี่ใส ๆ เริ่มต้นชีวิตมหาลัยกันไป
ทำไมตอนนั้นชั้นไม่ลองกระโดดเหยียบคนแถวนั้นบ้างนะ!
ลืมไป ประกาศผลออนไลน์
ทำความเข้าใจดี ๆ ก่อนอ่าน
อย่างแรกเลย คนเขียนนิยายคือคุณนารุโตะ คิริยามะ ไม่ใช่คุณมาโคโตะ ชินไคค่ะ (หรือเราหลงอยู่คนเดียว) เพียงแต่ต้นแบบนิยายมาจากตัวโฆษณา CROSSROAD ที่กำกับโดยคุณมาโคโตะ ชินไค นั่นคือ เป็นการเขียนเรื่องราวขยายส่วนที่คุณมาโคโตะ ชินไคได้กำกับไว้ค่ะ นำมาสู่ข้อที่สอง
อย่างที่สอง เรื่องราวในหนังสือเป็นเรื่องการเตรียมสอบของเด็กสองคนตั้งแต่ตัดสินใจจะเตรียมอ่านหนังสือ และจบลงที่ไปดูผลสอบ เอาเป็นว่า เป็นรายละเอียดเรื่องราวที่เห็นในโฆษณายาว 2.00 นาทีค่ะ ใครที่คาดหวังว่าหลังจากมิโฮะไปเหยียบเท้าพ่อหนุ่มโชตะ แล้วเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ ก็ยังต้องอาศัยมโนล้ำ ๆ ของตนเองต่อไปนะคะ
และอย่างสุดท้าย...นิยายเล่มนี้ถือเป็นนิยายอ่านสบาย ๆ อบอุ่นหัวใจนะคะ ใครที่คาดหวังความไซไฟตื่นเต้นแฟนตาซีแนะนำให้อ่าน Your name ไปเลยน่าจะตรงกว่า เพราะฉะนั้นส่วนตัวเรื่องราวแรก ๆ ของหนังสือจะมีความเนือยอยู่บ้าง แต่จะเริ่มสนุกวางหนังสือไม่ได้ซักตอนจะเริ่มซ้อมสอบใหญ่ค่ะ เริ่มลุ้น ส่วนฟีลหนังสือจะเน้นความโบ๊ะบ๊ะแฟมมิลี่เป็นส่วนใหญ่ค่ะ อ่านไปใครเส้นตื้นหน่อย (เราเอง!) ก็มีขำเป็นระยะ ๆ ตามมุกตลกของเหล่าคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้นอาจจะยังไม่ตอบโจทย์ผู้อ่านสายมาม่านักค่ะ
ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยเล็ก ๆ น้อย ๆ)
นี่มันหนังสือที่เหมาะกับคนเตรียมสอบเข้ามหาลัย!
อ่านจบแล้วถ้าจะแนะนำใครอ่านก็จะแนะนำน้อง ม.6 อ่านนี่เหมาะเลยค่ะ หนังสือสะท้อนเรื่องราวหลายอย่างกว่าจะสอบได้แต่ละครั้ง ตั้งแต่การอ่านหนังสือว่าเหนื่อยแล้ว แต่พอถึงวันจริงเครียดกว่าตอนอ่านหนังสืออีกจนนอนไม่หลับเลยก็มี ไหนจะสติเอย ดวงเอย (สายมูก็มา)
มิโฮะ...ที่ต้องมาเจอกับความกดดันจากคนทั้งเกาะที่รู้ว่าตนจะไปสอบโตเกียว
โชตะ...ที่มีเรื่องครอบครัวเป็นปมเล็ก ๆ คอยรบกวนความคิดตนเองแบบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
พวกเค้าผ่านกันมาได้อย่างไร แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หลายคนก็จะผ่านมันไปได้ และกลายเป็นเรื่องเล่าเช่นเดียวกับเรื่องราวของสองคนนี้ อย่างบทส่งท้ายของผู้เขียนนะคะที่เค้าได้นึกย้อนถึงตอนสอบเข้าของตนเองมาประกอบการเขียนเรื่องราวครั้งนี้ด้วย ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็บอกค่ะว่าตัวเค้าอาจจะไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัดเจนมากเท่าตัวเอกที่ตนเขียน
‘แต่อย่างไรก็ตามชีวิตวัยรุ่นอันเคร่งเครียดนี้ก็ถือเป็นงานเทศกาลที่หายากกว่าฟุตบอลโลกหรือโอลิมปิกเสียอีก ดังนั้น พยายามนึกว่าเป็นงานเทศกาล และครื้นเครงให้เต็มที่นะครับ’
สำหรับใครที่สอบผ่านมานานแล้วเราแอบคิดว่าหนังสือทำให้เรานึกถึงความพยายามตอนเด็กน้อยอยู่เหมือนกันค่ะ ใครก็ตามที่ตอนนี้รู้สึกว่ามันเหนื่อยเหลือเกิน นี่เราทำอะไรอยู่? อ่านเล่มนี้แล้วเป้าหมายบริสุทธิ์ใส ๆ สมัยเด็กอาจจะกลับมาชัดเจนอีกครั้งก็ได้นะคะ อย่างประโยคเด็ดของหนังสือ
‘ที่สำคัญกว่านั้น ฉันอยากไปที่ไหนสักแห่ง ที่อยู่แสนไกล’
เรื่องครอบครัวแต่ละคนก็เอาซึ้งอยู่นะ
สารภาพว่าชอบเรื่องราวครอบครัวของพระเอกในระดับนึงเลย ความที่แม่ของโชตะเลิกกันกับพ่อ และไม่ให้มีการติดต่อกันอีก แต่พ่อก็ยังคงแอบติดต่อผ่านซองจดหมายรักแบบเนียน ๆ ถึงลูกชาย และตัวโชตะเองที่เหมือนพยายามตามหลังเงาอดีตของพ่ออยู่อย่างไม่รู้ตัว สุดท้ายต้องมาลุ้นว่าครอบครัวที่แอบอีลุงตุงนังนิด ๆ สุดท้ายจะลงเอยอย่างไร
อีกอย่างคือครอบครัวของมิโฮะ ซึ่งเน้นเอาขำขันให้อารมณ์ดูอนิเมะเรื่องหนึ่ง ก็จะสดใสเป็นครอบครัวอันอบอุ่น สุดท้ายที่มิโฮะเริ่มจะรู้สึกว่าความฝันที่อยากจะไปที่ไกล ๆ ของตนนั้น มันมีเรื่องเศร้าอยู่เรื่องหนึ่งเช่นกัน
‘อยากไปที่ไกล ๆ ยิ่งภาวนาแบบนั้น คงยิ่งทำให้มีการจากลามากขึ้นตามไปด้วยสินะ
ชีวิตคนเราไม่ได้มีเส้นทางเดียว แต่เกิดจากหลาย ๆ เส้นทางทับซ้อนกัน
ถือเป็นคอนเซปต์หลักของเรื่อง CROSS ROAD นี้เลย โดยเรื่องจะเล่าสลับกันไปมาระหว่างเรื่องของมิโฮะกับโชตะ ซึ่งระหว่างอ่านไปเรื่อย ๆ จะมีเรื่องราว หรือ Timeline ของสองตัวละครซ้อนทับกันไปมาอยู่ เช่นการจะเจอกันโดยบังเอิญ แต่ไม่เจอ แต่ก็เหมือนเจอ ทำให้ตอนสุดท้ายที่ตัวเอกทั้งสองได้เจอกันซักทีคือสมใจคนอ่าน ตามประโยคนึงของหนังสือว่า
บางครั้งเส้นทางของเราที่มาพบกันที่ทางแยก อาจจะซ้อนทับกันมาแต่แรกแล้วก็ได้
โฆษณา