30 ส.ค. 2020 เวลา 11:35 • ท่องเที่ยว
ใบเสร็จของร้านค้าในไต้หวันสามารถเอามาใช้ลุ้นชิงโชคเป็นสลากกินแบ่งได้?
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งที่เพจ “อยากเล่า” นะครับ
วันนี้จะมาพูดเรื่องราวที่อยู่ในใจและการใช้ชีวิตของคนไทยมาโดยตลอด หรือ “หวย” นั่นเองครับ (ฮา)
แต่เรื่องของหวยที่เราพูดไม่ใช่ของไทยครับ แต่เป็นที่ “ไต้หวัน” ต่างหาก
หวยไต้หวันพิเศษอย่างไร เดี๋ยววันผมจะมาเล่าให้ฟังครับ
ความพิเศษของสลากกินแบ่งที่ไต้หวัน คือมันจะมาในรูปแบบของใบเสร็จตามร้านค้าต่าง ๆ ครับ
พูดง่าย ๆ คือเมื่อเราไป 7-11 ที่ไต้หวันแล้วซื้อน้ำมาขวดหนึ่งโดยไม่ทิ้งใบเสร็จ เพียงเท่านี้เราก็ได้สลากกินแบ่งของประเทศไต้หวันมาลุ้นชิงโชคแล้ว
แถมรางวัลก็ไม่ใช่น้อย ๆ นะครับเพราะรางวัลพิเศษสูงสุดเขาให้ถึง 10,000,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณสิบล้านบาทไทยเลยทีเดียว!)
หมาบเลขสำหรับใช้ชิงโชค
ที่เป็นแบบนี้ เพราะนี้คือโครงการของรัฐบาลไต้หวันเขาครับ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มรายได้ในการเก็บภาษี กระตุ้นให้เกิดการซื้อขายและเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจต่าง ๆ ถมยังช่วยในการลดและเลี่ยงภาษีได้อีกด้วย
เพราะสลากกินแบ่งท้ายใบเสร็จเหล่านี้ จะมาจากร้านค้าที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับภาครัฐ ภายใต้การควบคุมของกระทรวงการคลังไต้หวันเท่านั้น ร้านค้าทั่วไปตามท้องถนนที่ไม่ออกใบเสร็จก็ไม่เกี่ยว
โครงการนี้จึงเป็นการส่งเสริมให้ร้านค้าต่าง ๆ มาลงทะเบียนกับภาครัฐเพื่อจัดทำใบเสร็จและเก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง และในขณะเดียวกัน ร้านค้าต่าง ๆ ก็ได้ประโยชน์ในการส่งเสริมการขายอีกด้วย
โดยสลากกินแบ่งชนิดนี้ จะต่างกันของไทยหน่อยหนึ่งตรงที่ว่าไม่ได้ประกาศผลทุกเดือน แต่จะประกาศทุกวันที่ 25 ของเดือนที่เป็นเลขคี่ ได้แก่ มกราคม มีนาคม พฤษภาคม กรกฎาคม กันยายน พฤศจิกายน หรือ 6 เดือนในหนึ่งปีนั่นเองครับ
และในวันประกาศผล การจับฉลากก็จะถูกถ่ายทอดสดผ่านทางทีวีไปทั่วประเทศ แถมที่พิเศษสุด ๆ ก็คือ สลากกินแบ่งชนิดนี้ชาวต่างชาติก็มีสิทธิลุ้นรับได้ด้วย
หากเป็นรางวัลที่ห้าหรือที่หก เราก็สามารถไปขึ้นเงินกับร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ ได้เลยเพียงแค่กรอกข้อมูลนิดหน่อย แต่หากเป็นรางวัลที่สูงไปกว่านั้น รัฐบาลไต้หวันเขาบังคับให้รับผ่านบัญชีธนาคารของประเทศเขาเท่านั้นครับ
และสุดท้าย หากขี้เกียจกรอกข้อมูลวุ่นวายหรือไม่อยากเสี่ยงโชค เราก็สามารถนำใบเสร็จเหล่านั้นไปหย่อนตามกล่องบริจาคของมูลนิธิต่าง ๆ ได้ และหากใบเสร็จดังกล่าวถูกรางวัล เงินก็จะเข้าบัญชีของมูลนิธิดังกล่าวโดยอัตโนมัติครับ
เป็นระบบที่เรียกได้ว่าดีทั้งรัฐบาลและประชาชน วิน-วินด้วยกันทั้งสองฝ่ายครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับบทความในครั้งนี้ ชอบกันรึเปล่า
เช่นเคยครับ หากถูกใจบทความแบบนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามได้ที่เพจ “อยากเล่า” นะครับ
โฆษณา