31 ส.ค. 2020 เวลา 02:38 • การศึกษา
มีคำถามว่า
๑. ทราบว่าในประเทศตะวันตก คนเขาเลิกนับถือศาสนา จะมีผลต่อศาสนาพุทธไหม?
.
๒. จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างไร ถึงจะได้ผลในสมัยนี้
.
เป็นคำถามที่เห็นผ่านเข้ามาในเฟซบุ๊กเราก็จะตอบให้ฟังตามความเห็นของเรา ดังนี้
.
๑. ถ้าคนในประเทศตะวันตกจะเลิกนับถือศาสนาแล้วกลายเป็นคนไม่มีศาสนา ก็คงไม่มีผลต่อพระพุทธศาสนาสักเท่าใด เว้นไว้แต่มีคนนับถือศาสนาพุทธแล้วเลิกนับถือไป หรือคนในศาสนาอื่นหันมานับถือศาสนาพุทธมากขึ้น อย่างนั้นจึงมีผลต่อจำนวนพุทธศาสนิกชนในประเทศนั้น ๆ
.
จริงอยู่! การไม่นับถือศาสนา หรือการไม่มีศาสนา ก็ไม่ได้หมายความว่า คนนั้นจะต้องเป็นคนไม่ดี หรือจะกลายเป็นคนชั่วช้าเลวทราม เขาก็สามารถทำดีได้ สามารถมีเมตตากรุณาช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ ให้ทานแบ่งปันกันได้ ไม่ทำผิดศีลก็ได้ สามารถทำสมาธิให้จิตสงบได้
.
เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีอยู่ดั้งเดิมในหลักธรรมชาติอยู่แล้ว อันเป็นความดีขั้นพื้นฐาน ที่แม้ไม่มีศาสนาไหนสอน ผู้มีปัญญาก็สามารถที่จะคิดได้เอง ทำได้เอง
.
เพียงแต่เขาไม่อาจรู้ได้ว่า สิ่งที่เขาทำนั้น จะนำไปสู่ความดีขั้นสูงสุดอย่างไร ที่สามารถปลดเปลื้องทุกข์ออกจากใจได้อย่างถาวร และเขาจะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่อยู่ภายในใจของเขานั้น คือตัวมหาภัยที่ต้องกำจัดทิ้งไปให้ได้สถานเดียว
.
พวกที่ไม่มีศาสนา เขาจะรู้จักการทำดีในเหตุการณ์เฉพาะหน้าเป็นครั้งเป็นคราวไป อะไรที่เขาเห็นว่า ทำแล้วสบายใจ ไม่ไปทำความเดือดร้อนให้กับใคร ไม่ไปเบียดเบียนใคร ไม่ไปรบกวนใคร เขาก็พอใจทำอย่างนั้น บางทีก็อาจมีหลงผิดไปได้บ้าง แบบเห็นกงจักรเป็นดอกบัว หรืออาจเห็นดอกบัวเป็นกงจักร ก็ขึ้นอยู่กับภูมิปัญญาของแต่ละคนที่มีไม่เท่ากัน
.
แต่จะไม่มีใครสามารถรู้ได้เลยว่า การทำความดีมีหลายขั้นหลายระดับ จะต้องทำความดีอย่างไร จึงจะนำไปสู่การบรรลุถึงคุณธรรมขั้นสูงสุด และคุณธรรมขั้นสูงสุดนั้นคืออะไร
.
อันนี้ต่างหากคือสิ่งที่คนไม่มีศาสนา ไม่มีวันจะรู้ได้ และศาสนาอื่น ๆ ก็รู้ไม่ได้ เพราะเป็นคำสอนที่มีอยู่เฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น
.
๒. ศาสนาพุทธเป็นคำสอนที่มีเหตุมีผล ที่สามารถตรองตามให้เห็นจริงได้ คนผู้มีปัญญาทั้งหลาย ถ้าได้ศึกษาพระพุทธศาสนาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ก็ต้องนับถือพระพุทธศาสนาไปจนวันตาย
.
ส่วนผู้ที่ภูมิปัญญายังเข้าไม่ถึงเนื้อแท้ของพระพุทธศาสนา ก็หลงติดอยู่ในเปลือก ในกระพี้ไปพลาง ๆ ก่อน ก็ยังดีกว่าหลุดออกจากพระพุทธศาสนาไปเลยทีเดียว อย่าว่าแต่คนในศาสนาอื่นเลย แม้ชาวพุทธด้วยกันเอง ก็ยังมีน้อยคนนักที่จะเข้าใจคำสอนของพระพุทธศาสนาได้อย่างถูกต้องจนถึงในระดับแก่น
.
ชาวพุทธที่เลิกนับถือศาสนาพุทธไป ก็มีเป็นจำนวนไม่ใช่น้อย เพราะความเข้าใจผิด หลงผิดไปติดอยู่ในความดีในระดับสะเก็ด และเปลือกของศาสนา ไม่สามารถแทงทะลุความดีในระดับกระพี้เข้าไปถึงความดีในระดับแก่นของศาสนาได้
.
หากศาสนาพุทธจะเสื่อม ก็เสื่อมเพราะชาวพุทธทำลายศาสนาพุทธเอง ไม่ได้เสื่อมเพราะศาสนาอื่นมาทำให้เสื่อม
.
ศาสนาอื่นจะมาทำลายศาสนาพุทธได้ ก็ทำลายได้แต่เพียงเปลือกนอกของศาสนา คือศาสนาวัตถุต่าง ๆ เท่านั้น ซึ่งศาสนวัตถุทั้งหลายทั้งปวง ในไม่ช้าก็เร็ว มันก็มีอันต้องแตกต้องสลายต้องพังไปในที่สุดเป็นธรรมดาโดยตัวมันเองอยู่แล้ว เมื่อถึงกาลหมดอายุ
.
แต่การที่ชาวพุทธไม่ศึกษาพระพุทธศาสนาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงในระดับแก่น แล้วนำมาปฏิบัติให้ถูกต้องอย่างจริงจัง จนได้บรรลุถึงคุณธรรมขั้นสูงยิ่ง ๆ ขึ้นไปเรื่อย ๆ นี่! ต่างหาก คือการทำลายพระพุทธศาสนาให้หมดสิ้นไปได้อย่างไม่เหลือซากจริงแท้แน่นอน
.
ชาวพุทธจึงควรตระหนักในจุดนี้ให้มาก ๆ เข้าไว้ อย่ามัวแต่ไปโทษศาสนาอื่นว่า ศาสนาไหน ๆ จะมาทำลายศาสนาพุทธของเราเลย
.
จงช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาที่อยู่ในใจตนเองไว้ให้ดี ๆ หมั่นเจริญศีล สมาธิ ปัญญาให้แก่กล้าเกรียงไกร อย่าปล่อยใจให้ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหาทั้ง ๓ ประการ มีความโลภ ความโกรธ ความหลง นี้เท่านั้น
.
ถ้าผู้ใดสามารถทำลายกิเลสตัณหาทั้ง ๓ นี้ ให้หมดสิ้นไปจากใจได้มากเท่าไร ชื่อว่า ศาสนาพุทธย่อมเจริญอยู่ภายในใจของผู้นั้นอย่างถาวร มากขึ้นเท่านั้น
.
#ดอยแสงธรรม_๒๕๖๓
ป.ล. พูดจริง ชัดเจน แม่นยำ ตรงไปตรงมา ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ประโยชน์ก็กดแชร์ ถ้าจะคอมเมนท์ ให้ใช้วาจาสุภาพ และติชมอย่างสร้างสรรค์
โฆษณา