" 1 คำทรงพลัง คลี่คลายทุก conflict "
หัวหน้าท่านหนึ่ง กำลัง feedback ผลงาน
ของลูกน้อง อยู่ที่โต๊ะทำงาน ในห้องทำงาน
ส่วนตัวของหัวหน้า
ทั้งสองคนนั่งตรงข้ามกัน
โดยมีโต๊ะทำงานคั่นตรงกลาง
สไตล์ของหัวหน้า-ลูกน้องคู่นี้
มีความคล้ายกันคือ เป็นคนพูดตรง
กล้าแสดงความคิดเห็น มั่นใจในตัวเอง
มุ่งมั่นตั้งใจ ทุ่มเทในการทำงาน
และทำงานแบบเน้นผลลัพธ์(result-oriented)
ขณะที่พูดคุยอยู่นั้น หัวหน้าดันพูดบางคำ
ที่จี๊ดใจน้องโดยไม่ได้ตั้งใจ
ทำให้ลูกน้องรู้สึกมีอาการของขึ้น
หน้าชา ไปถึงหัว
ด้วยความที่น้องก็เป็นเด็กเจน Y
ตรงไปตรงมา กล้าแสดงความคิดเห็น
และตั้งใจทุ่มเททำงานมาโดยตลอด
มีหรือที่น้องจะยอม ของขึ้นขนาดนี้
น้องมีสีหน้าไม่พอใจ นั่งจ้องหน้าพี่
ด้วยสายตาแข็งกร้าว
และพูดสวนกลับไปทันทีด้วยน้ำเสียง
ที่แข็งกระด้าง ว่า…
"พี่ไม่เข้าใจหนูเลย!! หนูตั้งใจทำงานมาก
แล้วพี่ก็ไม่อยู่ในเหตุการณ์ พี่ไม่เข้าใจหรอก!!
ทำไมพี่พูดแบบนี้??!! หนูไม่ ok นะ!!"
พี่ได้ฟังดังนั้น ก็นั่งนิ่ง
ทั้ง 2 นั่งจ้องหน้ากัน เงียบไป 5 วินาที
ความเงียบแผ่ปกคลุม โต๊ะทำงาน
และ คน 2 คน
แล้วพี่หัวหน้าก็พูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ว่า...
"พี่ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจทำให้น้องรู้สึกไม่ดีเลย
จริงๆแล้วความตั้งใจของพี่ อยากให้น้องเก่งขึ้น
พัฒนาขึ้น พี่เลยเอา feedback ที่ได้ยินมา
มาบอก ถ้าพี่เข้าใจอะไรผิดไป พี่ขอโทษด้วย"
ทันใดนั้น ลูกน้องช่างกล้า พอได้ยินคำว่า
"พี่ขอโทษ…" ปุ๊บ จากที่ของกำลังขึ้น
ไฟดับลงทันที!!
ความรู้สึกคือ หัวหน้าพูดขอโทษฉันอยู่!!!
นี่ฉันเป็นใคร?? พี่อาวุโสกว่ามาก
แต่เอ่ยปากขอโทษฉันก่อน??!!
หน้าตาที่ขมึงตึง อ่อนโยนลงทันที
อาการหน้าชาถึงหัว จู่ๆก็หายวับไป!!
"คำขอโทษ" กลายเป็นน้ำเย็น
ที่ชะโลมใจน้องที่กำลังลุกเป็นไฟ
ให้ไฟดับลงทันที
น้องอารมณ์เย็นลง และรับรู้ถึง
ความปรารถนาดีที่พี่มีให้ จากคำพูด
สีหน้า แววตา และน้ำเสียงที่อ่อนโยนของพี่
ความเมตตา ปรารถนาดีของพี่
มันแผ่เข้าไปถึงหัวใจของน้อง
ซึ่งโดยพื้นฐาน น้องเป็นเด็กดี ที่ตั้งใจทำงาน
มาโดยตลอด รักการเรียนรู้พัฒนาตัวเอง
เมื่อน้องได้ยินดังนั้น จึงรู้สึกว่ามันตอบโจทย์
เพราะอันที่จริง น้องก็อยากพัฒนาตัวเอง
ให้เก่งขึ้นเช่นกัน
หลังจากที่พี่ตั้งสติ เอ่ยปากขอโทษ
และบอกถึงความหวังดีที่มีต่อน้องอย่างจริงใจ
เลยทำให้สถานการณ์เย็นลง
ทั้ง 2 คนสามารถกลับเข้าสู่บทสนทนา
เรื่องงานได้ต่อ
พี่และน้องได้พูดคุยกันถึงทางแก้ปัญหา
ในเรื่องงาน และได้ข้อสรุปร่วมกัน
รวมถึงพี่ยังได้ใจน้องไปอีกด้วย จากแค่คำว่า
"พี่ขอโทษ" และ "พี่หวังดีกับน้อง" ด้วยน้ำเสียง
และแววตาอ่อนโยน
เป็นคำพูดที่เรียบง่าย แต่ทรงพลัง!!
ที่เข้าไปถึงในหัวใจของน้อง
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. คนที่เอ่ย "คำขอโทษ" ก่อน ไม่ใช่ผู้แพ้
แต่คือคนที่มี "ความกล้าหาญในการลดอัตตา
ตัวตน อีโก้ของตัวเอง"
2. คนที่มี "สติ" ควบคุมอารมณ์ตัวเอง
จะสามารถคลี่คลายความขัดแย้งได้
3. เราไม่สามารถดับไฟด้วยไฟ แต่ต้องดับไฟด้วยน้ำ ดังนั้น การจัดการอารมณ์ตัวเองก่อน จึงสำคัญที่สุด ที่ช่วยส่งผลให้อีกฝ่ายอารมณ์เย็นลงได้เช่นกัน และนำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้ง
4. คนทะเลาะกัน เพราะเขาไม่เข้าใจ intention
ที่แท้จริงของอีกฝ่าย ดังนั้น ให้เราบอกไปตรงๆเลยว่า positive intention ของเราคืออะไร
เช่น พี่หวังดีนะ, พี่อยากให้น้องเก่งขึ้น พัฒนาขึ้น,
พี่อยากเห็นน้องเติบโต ก้าวหน้า เป็นต้น
5. น้ำเสียง แววตา ภาษากาย คำพูด บ่งบอกถึง
ความจริงใจ ความปรารถนาดี มันมีพลังที่ส่งออกไป จนคู่สนทนาสัมผัสได้ ว่าเราปรารถนาดีต่อเขาจริงๆ และเราจริงใจ
6. การที่เราเข้าใจความต้องการของน้อง
เราจะสามารถออกแบบคำพูด หรือบทสนทนา
ให้ตอบโจทย์ความต้องการของน้องได้
จากในเคสนี้ พี่สามารถตอบสนองความต้องการ
ของน้องได้ คือ การที่น้องเป็นคนชอบเรียนรู้
รักการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น และพี่หยิบประเด็นนี้
ขึ้นมาคุย ซึ่งมันตอบโจทย์ความต้องการของน้อง
7. ความขัดแย้ง ไม่มีแพ้ชนะ เราต้องทำให้ win-win เท่านั้น ทุกคนได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน
แล้วเราจะชนะร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย
8. เคสนี้ สามารถประยุกต์ใช้ได้ในทุกสถานการณ์ กับทุกคน ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว โดยไม่จำกัดตำแหน่ง และอายุ เพราะไม่ว่าเราจะเป็นใคร
สถานะอะไร อายุเท่าไร
เราสามารถฝึกลดอัตตา อีโก้ตัวเอง
และเอ่ยคำ "ขอโทษ" ก่อนได้
อ่านแล้วคิดเห็นยังไงบ้าง
ลอง comment ใต้โพสนี้ได้เลยค่ะ 😊
ถ้าคุณชอบบทความนี้ สามารถอ่านบทความอื่น ๆ ของเล็กได้ที่นี่ด้วยนะคะ 😊https://www.lifeleklek.com/
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
