31 ส.ค. 2020 เวลา 13:45 • สัตว์เลี้ยง
การเกิดแต้มขาวบนตัวแมว และการเรียกชื่อลายแต้มขาวต่างๆ
วันนี้มาพูดถึงลักษณะแต้มขาวบนตัวน้องแมว
ขอบคุณคุณรี่ที่เสนอหัวข้อเข้ามานะคะ
แต้มขาวที่เกิดขึ้นบนตัวน้องแมววันนี้จะพูดถึงการเกิดแต้มขาวจากยีนส์ S หรือยีนส์ที่กดการทำงานของเม็ดสี (ขนจึงกลายเป็นสีขาว) ในบางส่วนของร่างการ
มาที่ทฤษฎีการเกิดแต้มสีกันก่อน
จากรูปที่ทฤษฎีที่ 1 กับ 2 เป็นการเกิดแต้มขาวแบบปริมาณน้อย ยังไม่ได้รับการพิสูจญ์ แต่คาดว่าน่าจะเกิดจาก 2 ทฤษฎีนี้ จึงขอสรุปใจความอย่างสั้นๆ ว่า
ในทฤษฎีที่ 1 กลุ่มเม็ดสี (melaoblasts) เกิดขึ้นจากบริเวณกระดูกสันหลังของตัวอ่อนในระยะแรก และครอบคลุมพื้นที่ทั่วร่างกายเมื่อผิวหนังกำลังพัฒนา ถ้า melanoblasts ไม่ได้ขยายไปทันตำแหน่งที่ผิวหนังพัฒนาเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผิวหนังบริเวณนั้นก็จะไม่มีเม็ดสีจึงเป็นสีขาว นั้นคือทำไมพบได้บ่อยว่าพื้นที่ไกลที่สุดจากกระดูกสันหลัง เช่นอุ้งเท้า ท้อง หน้าอกมักเป็นสีขาว และพื้นที่ใกล้กระดูกสันหลังเช่น หลัง และหาง ส่วนมากมักมีเซลล์เม็ดสี (สรุปสั้นกว่าคือ ตัวอ่อนไม่มีสี แล้วเม็ดสีค่อยๆ ขยายตัวออกจากแนวกระดูกสันหลัง)
ทฤษฎีที่ 2 เชื่อว่ามีกลไลที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ไปช่วยลด melaniblasts(เม็ดสีชนิดนึง) ในบางพื้นที่ ในตอนแรกmelanoblasts ครอบคลุมผิวทั้งหมดของตัวอ่อนในระยะแรก และมีการตายของเซลล์เม็ดสี หรือคุณสมบัติทางเคมีได้หมดลงจึงทำให้เกิดพื้นที่สีขาวมากขึ้น (สรุปสั้นกว่าคือ ตัวอ่อนมีสีทั้งตัว แล้วอาจเกิดการตายหรือหยุดการทำงานของเม็ดสีจึงเกิดแต้มขาว)
ทฤษฎีที่ 3 เป็นทฤษฎีของการเปิดแต้มขาวแบบ High White พิสูจน์แล้วนะคะ
ในแมวที่มีปริมาณแต้มสีขาวมากมีกลไกต่างๆที่ผลิตแต้มสีขึ้นมาเป็นเหมือนจิ๊กซอร์ ในตอนแรกนั้น Melanoblast (เม็ดสีที่ถูกผลิตโดย “เมลาโนโซท์” (melanocyte)) นั้นมีการย้ายกลุ่มเม็ดสีอย่างเท่าๆกันบนพื้นที่ผิวหนัง จากนั้นการขยายตัวของพื้นที่ผิวของผิวคล้ายรอยแตกในระหว่างที่ตัวอ่อน (embryo) กำลังเติบโต
นึกภาพกลุ่มเม็ดสีเป็นหมู่เกาะต่างๆ นะคะ รอยแยกของกลุ่มเม็ดสีต่างๆ บนพื้นที่ผิวแตกออกจากกันเหมือนหมู่เกาะ หมู่เกาะเม็ดสีเหล่านั้นลอยออกจากกันบนพื้นที่ผิวหนังของตัวอ่อน ในขณะที่ตัวอ่อนในระยะแรกเติบโตขึ้นพื้นที่สีขาวระหว่างหมู่เกาะเม็ดสีต่างๆ ที่ดูเหมือนเนื้อเยื่อแผลเป็น และในขณะนั้นเมลาโนไซท์(melanocyte) ก็จะหยุดเพิ่มเม็ดสี
หมู่เกาะของเม็ดสีบางกลุ่มถูกผลักออกไปเป็นลักษณะแต้มบนตัวต่างๆ เช่น Mask and Mentle (แพทเทิร์นแต้มสีแพทเทิร์นหนึ่ง) มันคล้ายกับวิธีการเคลื่อนที่ของผืนทวีปบนผิวโลกนั้นแหละค่ะ และพื้นที่สีขาวของตัวอ่อนก็ขยายตามเส้นหน้าท้องที่ขยายขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่ตัวอ่อนระยะแรกเติบโตขึ้น (หรือนี้คือขีดจำกัดของการเคลื่อนย้ายmelanocyte<<ตัวผลิตเม็ดสีตัวหนึ่ง)
และเท้าที่เป็นสีดำเกิดจากหมู่เกาะเม็ดสีดำที่ถูกผลักออกไปในบริเวณเท้า จากการขยายตัวอย่างมากของท้องในเวลาเดียวกันกับการงอกของแขนขาลูกแมวค่ะ
ประเภทของแต้มสีขาว แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดูภาพประกอบการอ่านนะคะ จะได้เข้าใจไปพร้อมๆ กัน
-Low White (มีแต้มขาวน้อยกว่า 40%)
1.มีสีทั้งตัวไม่ปรากฏแต้มขาวบนตัวเลย แต่บนตัวน้องแมวถือยีนส์ S มา
2.มีแต้มขาวอาจจะเป็นบนท้อง ใต้คาง คอ หน้าอก และ/หรือเท้า
3.หน้าอกมีสีขาว อาจมีแต้มขาวที่ท้องหรือเท้า
4.จมูก หน้าอก ท้อง เท้ามีแต่ขาว และบางครั้งพบปลายหางขาวด้วยเช่นกัน
ในข้อ 2-3 จะอยู่ในกลุ่มของแพทเทิร์นที่เรียกว่า Mitted
และในข้อ 4 จะแพทเทิร์นนี้ว่า Tuxedo
-Medium White (มีปริมาณสีขาวบนตัว 40-60%)
5.มีแต้มขาวเป็นหน้ากากบนหน้า ไล่มาที่หน้าอก ท้องและขา อาจมีแต้มสีประตามขาก็ได้ แพทเทิร์นนี้เรียกว่า Mask & Mantle
-High White (มีปริมาณสีขาวบนตัวมากกว่า 60%)
6.ส่วนมากเป็นพื้นขาวมีสีบนหัว หลัง หาง และตัว
7.ส่วนมากเป็นพื้นขาวมีแต้มสีเล็กๆบนตัว หลัง และหาง บางครั้งอาจมีบนหัวด้วย
8.พื้นตัวขาวมีแต้มสีเฉพาะหัว หลัง และหาง
9.พื้นตัวขาวมีแต้มบนหัว และหาง
10.ขาวล้วนทั้งตัว (ขาวล้วนแบบSหูไม่หนวกค่ะ ซึ่งแตกต่างจากยีนส์ Wที่เป็นขาวล้วนทั้งตัวเท่านั้นจะมีโอกาสหูหนวก)
แพทเทิร์นต่างๆ ในกลุ่ม High White
-Cap & Saddle : พื้นตัวขาว มีแต้มสีที่หัว หลังหาง (ตามรูป)
-Magpie : พื้นตัวขาว มีจุดสีเล็กๆ ตามตัว
-Harlequin: พื้นตัวขาว มีแต้มบนหัวตามรูป มีจุดสีตามตัวแบบสุ่ม หางมีสี
-Van Pattern : มีแต้มสีระหว่างหูทั้ง 2 ข้าง และหาง
-Seychellois Septiem : หางมีสี มีประสีบนหัว ตัว และขา
-Seychellois Huitieme : มีประบนหัว และขาเท่านั้น หางมีสี
-Seychellois Neuvieme : มีประบนหัว และหางมีสี

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา