1 ก.ย. 2020 เวลา 05:21 • ปรัชญา
สะท้อนคิดจาก...สุนทรพจน์ของ สตีฟ จ๊อบส์ ในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ปี 2005
ซึ่งสตีฟ จอบส์ ได้กล่าวถึง 3 หัวข้อ ดังนี้ครับ
1...Connecting the dots
สตีฟ จอบส์ กล่าวว่า เราไม่สามารถเชื่อมต่อจุดต่างๆ ได้เมื่อมองไปในอนาคต แต่เราจะสามารถเชื่อมต่อจุดต่างๆในชีวิตได้เมื่อเรามองย้อนกลับไปในอดีตเท่านั้น
ดังนั้นทุกช่วงชีวิตของเราที่เราได้ผ่านมันมาหรือที่เรากำลังกระทำอยู่ตอนนี้ เราไม่อาจรู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์กับเราหรือไม่
หรือเราอาจมองไม่เห็นเลยว่าเราจะใช้มันทำอะไรได้ แต่สักวันเมื่อเราได้ค้นพบสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ สิ่งที่เราได้ผ่านมาเหล่านั้นอาจจะเป็นประโยชน์กับเราก็ได้ในอนาคต
ดังนั้นจงกล้าที่จะทำตามสัญชาตญาณของตัวเอง และพยายามทำสิ่งที่เราต้องการและมีประโยชน์ต่อเรา เพื่อสร้างความพร้อมในทุกๆด้านของตัวเองเอาไว้
และลงมือทำตอนนี้เลย เผื่อวันหนึ่ง โอกาสนั้นมาถึงเราจะได้พร้อมที่จะคว้าโอกาสนั้นไว้
2...Love and loss...
สตีฟ จอบส์ และ สตีฟ วอซเนียก ได้เริ่มสร้างแอปเปิลด้วยกันในโรงรถของพ่อจอบส์ เมื่อพวกเขามีอายุได้ 20 ปี ต่อมา 10 หลังจากนั้น บริษัทได้มีมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท มีพนักงานมากกว่า 4,000 คน เเละตอนนี้เองที่จอบส์ ได้ถูกไล่ออกจากบริษัทที่ตัวเองสร้างมากับมือ
1
แต่เขากลับคิดว่ามันเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเขา เพราะจอบส์เขาได้มีอิสระอีกครั้งในการเริ่มต้นใหม่ และเขาก็เริ่มทำสิ่งที่เขารักอีกครั้ง
ซึ่งก็คือบริษัทคอมพิวเตอร์อย่าง NexT และบริษัทภาพยนตร์แอนนิเมชั่นอย่าง Pixar ที่สร้างภาพยนตร์แอนนิเมชั่นเรื่องแรกของโลกอย่าง Toy story
และยังเป็นบริษัทด้านภาพยนตร์แอนนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
และสุดท้าย Apple ก็ได้ซื้อกิจการ NexT จอบส์จึงได้กลับไปเป็นซีอีโอของ Apple อีกครั้ง
บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นอาจจะมีเหตุผลของมันเพื่อต้องการให้เราได้พิสูจน์ตนเอง หรือเปิดโอกาสให้เราได้ทำอะไรบางอย่าง
2
จงมองในแง่ดีเข้าไว้ และจากเรื่องนี้ของจอบส์ทำให้เราได้ทราบว่า ไม่มีคำว่าสายที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเสมอ
3...death
สตีฟ จอบส์ กล่าวว่า เขาได้ยืนมองตัวเองในกระจกในทุกๆเช้า และถามตัวเองว่า ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต เขาจะยังอยากทำสิ่งที่เขากำลังจะทำในวันนี้หรือไม่ ถ้าคำตอบออกมาว่าไม่ เขาต้องเปลี่ยนอะไรบางแล้วแล้ว
จอบส์บอกว่า จงใช้ชีวิตให้เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา เพราะวิธีคิดวิธีนี้จะทำให้เราเกิดปัญหาอย่างแท้จริง
จะทำให้เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต สิ่งอื่นที่ไม่สำคัญและไม่มีประโยชน์เราก็จะได้ตัดทิ้งไป
และเรื่องกลัวคนดูถูกนินทากลัวอับอาย หรือกลัวความล้มเหลว สิ่งเหล่านี้จะไม่หลงเหลืออยู่ในหัวเลยเมื่อความตายมาถึง
วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่จะทำให้เราโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญจริงๆ และจะใช้ทุกวินาทีอย่างคุ้มค่าที่สุด
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ
โฆษณา