ซีรีส์ ... เดินตามรอยเท้าพ่อ
ตอน บทพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก
🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏
“พระมหาชนก” เป็นบทพระราชนิพนธ์ในองค์พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงค้นคว้าต้นเรื่องมาจากทศชาติชาดก คือเรื่องของ 10 ชาติสุดท้ายก่อนที่พระโพธิสัตว์จะประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ และตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
โดยอาจกล่าวได้ว่าท่านทรงมีแรงบันดาลพระราชหฤทัยเมื่อทรงสดับพระธรรมเทศนาของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน ธมมสาโร มหาเถร) แห่งวัดราชผาติการามเมื่อปี 2520 ในเรื่องการบำเพ็ญวิริยบารมีของพระมหาชนก
องค์พ่อหลวงทรงใช้เวลาถึง 19 ปีกว่าจะพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกแล้วเสร็จในปี 2539 ทั้งยังทรงแปลเป็นภาษาอังกฤษและภาษาสันสกฤต ทรงปรับเรื่องจากพระไตรปิฎกดั้งเดิมเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสไว้เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2539 โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า
📌📌📌
“หนังสือเล่มนี้เป็นที่รักของข้าพเจ้า หนังสือนี้ไม่มีที่เทียม และจะเป็นที่เริงใจของผู้อ่าน ต้องการให้เห็นว่า สำคัญที่สุด คนเราทำอะไรต้องมีความเพียร ขอจงมีความเพียรที่บริสุทธิ์ ปัญญาที่เฉียบแหลม กำลังกายที่สมบูรณ์”
❤❤❤
นอกจากบทพระราชนิพนธ์แล้ว พระองค์ทรงทำแผนที่ฝีพระหัตถ์ แสดงสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของเมืองโบราณบางแห่งและข้อมูลอุตุนิยมวิทยาเกี่ยวกับทิศทางลม กำหนดวันเดินทะเลตลอดจนจุดอัปปางของเรืออับโชค ทรงคาดคะเนโดยอาศัยข้อมูลทางโหราศาสตร์ แสดงถึงพระปรีชาในด้านอักษรศาสตร์ ภูมิศาสตร์และโหราศาสตร์ไทย ให้สอดคล้องกับการดำเนินเรื่อง
🏘🏘🏘🏘
เนื้อเรื่องโดยสรุปของบทพระราชนิพนธ์สำหรับคุณผู้อ่านที่ยังไม่เคยผ่านตาเรื่องพระมหาชนกนะคะ
📢📢📢
มีเมืองอยู่เมืองหนึ่งชื่อว่ากรุงมิถิลา แคว้นวิเทหะ ปกครองโดยพระเจ้ามหาชนก มีพระราชโอรสสององค์คือ
พระอริธฐชนก และ พระโปลชนก ซึ่งพระโอรสทั้งสองมีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน
💂 พระอริธฐชนก เป็นผู้มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและเชี่ยวชาญการรบ
และ
💂 พระโปลชนก เป็นผู้มีจิตใจเอื้ออารี ฉลาดเฉลียว และสุขุมรอบคอบ
เมื่อพระเจ้ามหาชนกสวรรคต พระอริธฐชนกผู้เป็นพี่ก็ได้ขึ้นครองราชสมบัติ มีพระโปลชนกเป็นอุปราช ช่วยกันปกครองบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุข
จนกระทั่งต่อมา มีอำมาตย์จิตใจต่ำช้า ไปเพ็ดทูล
พระอริธฐชนกว่าพระโปลชนกคิดการไม่ดี จะช่วงชิงราชสมบัติ พระอริธฐชนกหลงเชื่อ จึงสั่งลงโทษจองจำพระโปลชนก
ด้านพระโปลชนกที่ไม่ได้ทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา จึงได้ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้เครื่องจองจำนั้นหลุดออก ด้วยพระบุญญาบารมี เครื่องจองจำทั้งหลายก็หลุดออกจนหมดสิ้น
พระองค์สามารถหนีไปได้สำเร็จและอาศัยอยู่ที่เมืองชายแดนโดยมีผู้จงรักภักดีต่อพระองค์ติดตามไปด้วย
ในเบื้องต้นพระองค์ตั้งใจที่จะเจรจากับพระอริธฐชนก แต่อำมาตย์ชั่วแปลงสาส์นให้เกิดการเข้าใจผิดอีก ว่าท่านต้องการทวงราชบัลลังก์คืน จึงเกิดการสู้รบกันเองของพี่และน้อง พระอริธฐชนกผู้เป็นพี่พ่ายแพ้
แต่ก่อนจะสวรรคตได้มีโอกาสปรับความเข้าใจกับพระโปลชนกผู้น้อง และเข้าใจกันว่าเหตุทั้งหมด มาจากเล่ห์กลของอำมาตย์ชั่ว และได้ฝากให้พระโปลชนกช่วยดูแลพระมเหสีซึ่งกำลังตั้งครรภ์
ฝายพระมเหสีเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงหนีออกจากวังโดยมีท้าวสักกเทวราช ที่แปลงกายมาเป็นคนขับเกวียน คอยให้ความช่วยเหลือ เพื่อไปยังนครจัมปากะ และยังได้รับการอุปการะจาก อุทิจพราหมณ์มหาศาลในฐานะน้องสาว จนกระทั่งประสูติพระโอรส ตั้งชื่อพระโอรสเหมือนชื่อพระอัยกา (ปู่) ว่า พระมหาชนก
.
.
พระมหาชนกเติบโตขึ้น และทรงทราบเรื่องราวความเป็นมาของพระบิดา จึงตั้งพระทัยศึกษาเล่าเรียนศาสตร์ทุกแขนง จนพระชนม์ได้ 16 ชันษา จึงได้ขออนุญาติพระมารดาไปทำการค้า เพื่อรวบรวมทุนรอนในการไปช่วงชิงราชบัลลังก์กรุงมิถิลาคืน จากพระโปลชนกผู้มีศักดิ์เป็นอา
.
.
พระมหาชนกได้ออกเดินทางพร้อมกับพระราชทรัพย์กึ่งหนึ่งที่ขอมาจากพระมารดา แล่นเรือออกสู่มหาสมุทรเพื่อจะไปค้าขายที่ดินแดนสุวรรณภูมิ
ระหว่างที่แล่นเรือมาได้ช่วงหนึ่ง เกิดประสบกับพายุใหญ่ คลื่นลมแรงถาโถมใส่เรือของพระมหาชนก ด้วยความเฉลียวฉลาด พระองค์ทรงสละเรือได้ทันก่อนที่เรือจะอัปปาง และตั้งพระทัยจะว่ายน้ำไปจนถึงกรุงมิถิลา
.
.
พระมหาชนกทรงพยายามว่ายน้ำอยู่กว่าเจ็ดวันเจ็ดคืนโดยไม่ย่อท้อ ด้วยพระทัยตั้งมั่นทั้งที่พระวรกายเหนื่อยล้าจวนเจียนจะหมดแรงอยู่หลายครั้ง จนเป็นที่อัศจรรย์ใจแก่นางมณีเมขลา ผู้เป็นเทพธิดาดูแลห้วงมหาสมุทร
พะมหาชนกพยายามว่ายน้ำในมหาสมุทร
นางจึงคิดจะลองพระทัยพระมหาชนก โดยแปลงเป็นดวงแก้วสุกสะกาวให้ปรากฏแก่พระมหาชนกพร้อมกับกล่าวว่า “ฝั่งมหาสมุทรลึกจนประมาณมิได้ ความพยายามของท่านจะเปล่าประโยชน์ ไม่ทันถึงฝั่งท่านก็จะตาย”
ฝ่ายพระมหาชนกได้ยินดังนั้นก็ตอบกลับไปว่า
“ผู้ใดรู้แจ้งว่าการงานที่ทำจะไม่ลุล่วงไปได้จริง ๆ และผู้นั้นละความเพียรพยายามเช่นนั้นเสีย ก็จะเกียจคร้าน หากเรารู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้นไม่สำเร็จ ก็คงเกียจคร้านที่จะทำตั้งแต่แรกเริ่ม เรานั้นจักพยายามตามสติกำลัง จักทำความเพียรที่บุรุษควรทำ ให้ไปถึงฝั่งแห่งมหาสมุทร”
นางมณีเมขลาได้ยินดังนั้นก็เห็นจริง จึงปรากฎกายแก่พระมหาชนกและกล่าวชื่นชมพระมหาชนกว่า
“วาจาของท่านช่างมั่นคงยิ่งนัก ท่านจงไปในสถานที่ที่ใจท่านยินดีนั้นเถิด”
แล้วนางก็อุ้มพระมหาชนกเหาะข้ามมหาสมุทรมาถึงกรุงมิถิลา
กรุงมิถิลาในขณะนั้น พระโปลชนกได้สวรรคตลงแล้ว เหลือแต่พระราชธิดานามว่า สิวลีเทวี เหล่าอำมาตย์ก็เกรงว่าบ้านเมืองจะเกิดความวุ่นวายหากขาดกษัตริย์ปกครอง จึงเห็นควรให้จัดราชรถเสี่ยงทาย เพื่อหาผู้มีบุญญาธิการ มาขึ้นครองราชสมบัติปกครองกรุงมิถิลา
.
.
ฝ่ายนางมณีเมขลา เมื่อพาพระมหาชนกเหาะข้ามมหาสมุทรมาเหนือท้องฟ้ามิถิลานคร ถึงอุทยานสวนมะม่วง จึงตัดสินใจวางพระมหาชนกที่หมดสติเพราะความเหนื่อยอ่อนไว้ที่ศาลาในอุทยานนั้น
.
.
ราชรถเสี่ยงทายที่ถูกส่งออกมาเพื่อหาผู้มีบุญญาธิการก็ได้เคลื่อนมาถึงที่อุทยาน และมาหยุดอยู่ตรงหน้าศาลาที่พระมหาชนกบรรทมหมดสติอยู่
เหล่าอำมาตย์ต่างยินดีพร้อมใจกันกล่าวว่า
“หากท่านคือผู้มีบุญญาธิการ เหมาะสมที่จะได้ครองราชสมบัติจริง ท่านจงไขปริศนาและหาที่ซ่อนขุมทรัพย์ทั้ง 13 แห่งของพระราชาให้ได้เถิด”
👍 พระมหาชนกสามารถชี้จุดที่ซ่อนขุมทรัพย์ได้ถูกต้องทั้งหมด
👍 สามารถยกคันธนูที่หนักถึงพันแรงคนยกขึ้นได้อย่างง่ายดาย
👍 ไขปริศนาหัวนอนแห่งบัลลังก์สี่เหลี่ยมได้สำเร็จ
👍 จนมาถึงข้อสุดท้ายคือ
ต้องเป็นที่ยินดีของพระราชธิดาสิวลีเทวี
💘 ซึ่งพระราชธิดาได้มีความยินดีและชื่นชมว่าพระมหาชนกเป็นผู้มีบุญบารมี และขอให้พระมหาชนกขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระราชาแห่งมิถิลานคร
.
.
📛📛📛📛📛
เรื่องราวยังไม่จบนะคะ พระราชธิดาสิวลีเทวีมีความสงสัยในความเป็นมาว่า ท่านผู้มีบุญญาธิการผู้นี้เป็นใคร พระมหาชนกจะตอบว่าอย่างไร และเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ลองไปหาอ่านต่อดูนะคะ 😉
.
.
บทพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกในองค์พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ถูกตีพิมพ์เป็นเล่มอยู่มากมายหลายครั้งค่ะ
สำหรับรูปแบบหนังสือ 📔
ขอยกตัวอย่างชุดที่อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เป็นผู้เขียนภาพประกอบมาให้ชมค่ะ
รูปเรือประสบกับพายุ
รูปตอนเรือแตก พระมหาชนกต้องสละเรือ
รูปพระมหาชนก พยายามว่ายน้ำในมหาสมุทร
ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ในปี 2542 พระองค์ท่านทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์บทพระราชนิพนธิ์เป็นฉบับการ์ตูน
ตัวอย่างหน้าปกฉบับการ์ตูน 📚
คุณชัย ราชวัตร เป็นผู้เขียนภาพประกอบ
ลายมืออันเป็นเอกลักษณ์ ของคุณชัย ราชวัตร
และในปี 2557 ได้มีการนำเสนอในรูปแบบภาพยนตร์แอนิเมชั่นด้วยนะคะ
📌 องค์พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรานั้น ทรงเป็นแบบอย่างในเรื่องความเพียร และทรงปฏิบัติเยี่ยงชาวพุทธที่ดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สอนว่า “คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร”
📌📌 ขอให้เราซึ่งเป็นลูกในแผ่นดินของพ่อทุกคน ได้พยายามถือปฏิบัติ เดินตามรอยเท้าพ่อด้วยกันนะคะ
❤❤❤❤❤
ขอให้คุณผู้อ่าน มีความสดชื่นเบิกบาน มีกำลังกาย กำลังใจ ที่แข็งแกร่งค่ะ
🙂🙂🙂🙂🙂
สวัสดีนะคะ
คนไทยตัวเล็กเล็ก
02/09/2020
- 8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
