3 ก.ย. 2020 เวลา 02:40 • ธุรกิจ
Salt Bae จากเด็กล้างจาน สู่เจ้าของร้านสเต๊ก 3 หมื่นล้าน
1
หากพูดถึงความเคลื่อนไหวของคนดังในวงการต่างๆ
คงหนีไม่พ้นข่าวการย้ายทีมของ “เมสซี” ในวงการฟุตบอล
หรือ “แบล็กพิงก์” ที่เปิดตัวเพลง Ice Cream ร่วมกับ “เซลีนา โกเมซ”
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่ลงทุนแมนสนใจเกิดขึ้นในวงการอาหาร
กับบุรุษโรยเกลือบนสเต๊กชื่อ Salt Bae ที่ออกมาโพสต์ผ่านอินสตาแกรม
ว่าร้านสเต๊กของเขาถูกประเมินมูลค่าอยู่ที่ระดับ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
คิดเป็นมูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาท เมื่อไม่นานมานี้
1
เรื่องราวของบุรุษโรยเกลือคนนี้ มีอะไรน่าสนใจ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
แม้ว่าตอนนี้หลายคนจะรู้จัก Salt Bae ในฐานะคนดังที่มียอดติดตามบนอินสตาแกรมสูงถึง 30 ล้านบัญชี
แต่รู้หรือไม่ว่าจุดเริ่มต้นของเขาก็ไม่ได้สวยหรูเหมือนกับภาพที่เราเห็น
Salt Bae หรือชื่อจริงของเขาก็คือ Nusret Gökçe อ่านว่า นูสเรต โกเช
เขาเป็นชาวตุรกีที่เกิดในครอบครัวยากจน
จบการศึกษาเพียงระดับชั้นประถมศึกษา
และเริ่มทำงานเป็นพนักงานล้างจาน โดยทำงานถึง 18 ชั่วโมงต่อวัน
อย่างไรก็ตาม Salt Bae ก็ได้ค้นพบความฝันของตัวเองตอนเป็นผู้ช่วยงานในโรงงานแล่เนื้อ
ความฝันที่ว่านั้นก็คือ เขาอยากมีธุรกิจร้านอาหารเป็นของตัวเอง
3
เขาจึงได้นำเงินเก็บราว 2 แสนบาท ออกเดินทางไปประเทศอาร์เจนตินา
2
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเดินทางไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ และการใช้ผักนานาชนิด
จนในที่สุด Salt Bae ก็ได้บินกลับมาที่ประเทศตุรกี และได้เปิดร้านอาหารแห่งแรกของเขาเป็นร้านสเต๊กที่มี 8 โต๊ะ และพนักงานเพียง 10 คน มีชื่อร้านว่า Nusr-Et Steakhouse
Cr. Haber7
ถึงตรงนี้ ความฝันของอดีตเด็กล้างจานก็เหมือนจะถูกเติมเต็มไปแล้วส่วนหนึ่ง
แต่โชคชะตาของเขากลับไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้
นั่นก็เพราะว่าวันดีคืนดี Ferit Şahenk มหาเศรษฐีชาวตุรกี
เจ้าของทรัพย์สิน 7 หมื่นล้านบาทได้มากินสเต๊กที่ร้านของ Salt Bae
2
Cr. Hurriyet
Ferit Şahenk เป็นประธานบริษัท Doğuş Holding เป็นบริษัทโฮลดิง
ที่กระจายการลงทุนอยู่ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจร้านอาหาร ภายใต้บริษัทย่อย Doğuş Restaurant Entertainment & Management
1
ด้วยความที่ Ferit Şahenk ชื่นชอบในรสชาติและลีลาของ Salt Bae
เขาจึงได้ตัดสินใจลงทุนในร้านสเต๊กของ Salt Bae
โดยมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อขยายธุรกิจเชนร้านสเต๊กไปทั่วทุกมุมโลก
หลังจากนั้นไม่นาน Salt Bae ก็ได้ปล่อยคลิปวิดีโอ
ความยาวเพียง 36 วินาทีแคปชั่นว่า Ottoman Steak
เป็นวิดีโอที่มีลีลาการแล่เนื้อเหลือร้าย พร้อมวิธีการโรยเกลือที่เป็นเอกลักษณ์
1
ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าวิดีโอดังกล่าวกลายมาเป็นไวรัลที่ทำให้ Salt Bae ดังระเบิด
ดังในระดับที่นักกีฬา นักแสดง และมหาเศรษฐีมากมายก็ได้ไปลิ้มลองทั้งรสชาติ และรับชมลีลาการแล่เนื้อ โรยเกลือที่ร้านสเต๊กของเขา
1
ไม่ว่าจะเป็นมาราโดนา, เมสซี, เบนเซมา, ป็อกบา, ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ, ดีเจคาเล็ด ไปจนถึงมุฮัมมัด บิน รอชิด อัลมักตูม เจ้านครแห่งดูไบ และคนดังอีกหลายคนก็เคยไปเยี่ยมเยือนร้านของเขา
ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เชนร้านสเต๊ก Nusr-Et Steakhouse กลายเป็นที่รู้จัก และสามารถขยายสาขาไปได้อย่างรวดเร็ว
ภายในระยะเวลาเพียง 10 ปี Salt Bae ก็ได้กลายเป็นเจ้าของโรงงานแล่เนื้อ และร้านอาหารกว่า 15 แห่งทั้งในประเทศบ้านเกิดที่ตุรกี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหรัฐอเมริกา, กาตาร์ และกรีซ
จากการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้เมื่อไม่กี่ปีก่อนมีข่าวว่า
ร้านสเต๊กของ Salt Bae กำลังจะจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ประเทศตุรกียังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาด้านการเมือง
รวมไปถึงประเทศตุรกีต้องเผชิญกับภาวะอัตราดอกเบี้ย และเงินเฟ้อที่สูง
เรื่องดังกล่าวส่งผลให้หลายบริษัทเลือกที่จะกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยต่างประเทศมีอัตราที่ต่ำกว่า
สำหรับ Doğuş Holding ที่กระจายการลงทุนในหลายธุรกิจ และมีการก่อหนี้ในสกุลเงินต่างประเทศเป็นหลัก จึงประสบปัญหาค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่บวมเพราะค่าเงินตุรกีที่อ่อนลง
1
เรื่องนี้ทำให้ทางบริษัทต้องปรับโครงสร้างหนี้ คิดเป็นมูลค่ากว่า 7.7 หมื่นล้านบาท เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีเงื่อนไขว่าบริษัทต้องขายหุ้นของกิจการโรงแรม และร้านอาหารออกไปบางส่วน
ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงเชนร้านสเต๊กของ Salt Bae ที่ยังเติบโตได้ดี และน่าจะยังพอมีมูลค่าสูงในมุมมองของนักลงทุน
โดยเชนร้านสเต๊กของ Salt Bae ถูกคาดการณ์ว่ามีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา ราว 2,200 ล้านบาท
1
ในขณะที่ร้านของเขาก็ถูกประเมินมูลค่าไว้ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 31,000 ล้านบาท
Cr. Bishop Design
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า Salt Bae ใช้เวลาภายหลังการก่อตั้งร้านอาหารแห่งแรกเพียง 10 ปี
ทำให้ร้านของเขามีมูลค่าเติบโตไปอยู่ในระดับเดียวกันกับสตาร์ตอัปยูนิคอร์นเลยทีเดียว
แน่นอนว่าด้วยมูลค่าของร้านสเต๊ก Salt Bae ที่สูงระดับนี้
มันก็ย่อมจะตามมาด้วยความคาดหวังจากนักลงทุนที่สูงตามไปด้วย
นอกจากนี้ ความเสี่ยงที่เห็นได้ชัดของธุรกิจร้านสเต๊ก Salt Bae ก็คือ
การพึ่งพาตัวเจ้าของที่เป็นแรงดึงดูดทั้งทางธุรกิจ และทางการตลาด
แต่อย่างไรก็ตาม หนึ่งในข้อคิดที่เราสามารถเรียนรู้จากเรื่องของบุรุษโรยเกลือได้ทันที
ก็น่าจะมาจากอินสตาแกรมส่วนตัวของเขาที่ได้โพสต์ภาพไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
ว่าร้านสเต๊กของเขาถูกประเมินมูลค่าไว้ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
และในรูปนั้น เขาก็ได้ตัดแปะภาพในสมัยที่ยังทำงานเป็นเด็กล้างจานเข้าไปด้วย..
“มันไม่เกี่ยวหรอกว่า คุณมีจุดเริ่มต้นอย่างไร
แต่มันอยู่ที่ว่า คุณจะสำเร็จได้อย่างไรมากกว่า”
-Salt Bae-
Instagram:nusr_et
โฆษณา