3 ก.ย. 2020 เวลา 08:09 • ไลฟ์สไตล์
เมื่อชีวิตล้มเหลวในวัย 40+ จะเดินต่อไปอย่างไรดี
ภาพบรรยายเกี่ยวกับการสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง
หากวันนั้นไม่ล้มเหลว วันนี้คงไม่ได้มาอยู่ใน Blockdit
ชีวิตที่อยู่ใน Comfort zone มายาวนานกว่า 17 ปีมีความรู้สึกว่า
ทุกอย่างดูเรียบง่าย มีปัญหาก็แก้ไขไป..
ภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจผู้คน
ชีวิตที่เป็นเจ้าของกิจการโรงงานผลิตจิวเวลรี่ และร้านขายเครื่องมือจิวเวลรี่
ชีวิตที่มีบ้านหลังใหญ่และต้องแลนด์แอนด์เฮ้าส์เท่านั้น
ชีวิตที่มีลูกน้องเป็นร้อยคน
ชีวิตที่มีรถคันหรูขับ
ชีวิตที่มีแม่บ้านคอยดูแลที่บ้านและที่ทำงาน
ชีวิตที่มีครอบครัวอบอุ่น
ชีวิตที่มีการศึกษาเรียนจบระดับปริญญาโท
ชีวิตที่มีคนเคารพและให้เครดิตตลอดเสมอมา
ชีวิตที่มีสถานะการเงินที่ดี
ชีวิตที่ใช้ของแบรนด์เนมเกือบทุกอย่าง
ชีวิตที่อยู่อย่าง...คนเขาพูดว่า...สุขสบาย
จิวเวลรี่คืออาชีพหลัก
และวันหนึ่งชีวิตกระเด็นออกจาก Comfort zone
วันที่ต้องขายกิจการทั้งหมดเพื่อใช้หนี้ธนาคารและหนี้สินส่วนบุคคล
วันที่ต้องขายบ้าน วันที่ต้องขายรถ
วันที่ครอบครัวแตกแยก วันที่สูญเสียคนในครอบครัวจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
วันที่ไม่มีเงินแม้แต่จะเลี้ยงดูแลครอบครัว
วันที่พยายามจะทำอะไร ๆ ให้ดีขึ้นแต่กลับมีพายุ มรสุมเข้ามาไม่ขาดสาย
วันที่ต้องร้องไห้ให้กับชีวิต
ชีวิตมีแต่ทำงานเช้ามืดเกือบถึงเที่ยงคืน
สุดท้ายพยายามหาตัวช่วยและหาทางออก
วันที่เดินทางไปวัดเพื่อนั่งสมาธิ
วันที่เดินทางไปเรียนกับโค้ชเกี่ยวกับ NLP
วันที่เดินทางไปสัมนาตามที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะการตลาดและเกี่ยวกับ..บวก ๆ
วันที่จิตตก...
เพื่อให้จิตใจเข้มแข็งและก้าวเดินต่อไป
แบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า..เพื่อใครกัน ?
สิ่งที่ได้คือวัด....ทางยึดเหนี่ยวของจิตใจ...ไม่เสียเงินและเสียเวลา
สิ่งที่ได้จากโค้ชและสัมนา...คือการเสียเงิน..เสียเงิน...และถูกหลอกบางโค้ช
ชีวิตต้องคิดบวก
ชีวิตต้องกล่าวคำขอบคุณทุก ๆ อย่างรอบตัวเรา
ชีวิตต้องมีการวางแผน
ชีวิตต้องมีเป้าหมาย
ชีวิตต้องมีโค้ช
ชีวิตต้อง......ต่าง ๆ มากมายตามหนังสือพัฒนาตัวเอง โค้ช และอื่น ๆ
ไปมาหมดเกือบทุกที่แต่เอ...เพราะอะไรนะชีวิตถึงไม่ดีขึ้นเพราะทำทุกอย่างไป
หมดแล้วนะ....สู้ทุกอย่าง....หมดทั้งเงิน จนหมดพลัง...อ้า...โค้ชบางคนบอก
คุณไม่มี Passion คุณไม่มีเป้าหมาย คุณไม่เชื่อมั่นตัวเอง....คุณไม่รักตัวเอง
ขนมาหมดคำพูดต่าง ๆ ที่สัมนา....หมดเงินไปกับเรื่องโค้ช...จนหมดตัว
โทษใครเล่า...นอกจากตัวเอง....ยอมรับไป
กลับเข้าสู่ธรรมะดีที่สุดสำหรับตัวเอง
จึงเปลี่ยนใจไม่ไปเรียนและไม่ไปสัมนาล่ะ หยุด....อยู่กับตัวเองดีกว่า....ไปคือ
ไปวัด...เพื่อนั่งสมาธิ...และนั่งสมาธิ...เท่าที่ทำได้...และอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน
พรรณนามาทั้งหมดคือชีวิตจริงของอ้อยเองค่ะ
เมื่อเราล้ม...จะมีคนอยู่ 3 กลุ่มคือ
1. คนที่ให้ความช่วยเหลือและ...ให้กำลังใจ
2. คนที่คอยพูดซ้ำเติม นินทา...ตามความคิดของผู้พูดจริงบ้างเทจบ้าง
3. คนที่มองเห็นโอกาสและหลอกเอาเงิน..ซ้ำไปอีก
วิธีการมีชีวิตอยู่ได้ถึง ณ ปัจจุบันจากคำว่าล้มเหล้ว
อ้อยจึงอยากนำมาแบ่งปันค่ะ ไม่ได้โลกสวยแต่คือโลกแห่งความเป็นจริง
1. อยู่กับตัวเอง ไปวัดเพื่อนั่งสมาธิและกลับมาที่บ้านก็นั่งสมาธิแต่ไม่ใช่ว่า
ต้องนั่งสมาธิตลอดเวลา...นั่งสมาธิเพื่อให้มีสติ...โดยอ้อยเลือกวัดธรรมมงคล
หลวงพ่อวิริยังค์
บางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนชีวิตให้เรามาอยู่ ณ ที่แห่งนี้
2. ทำความรู้จักกับคำว่าล้มเหลวอย่างละเอียดว่ามันคืออะไรเมื่อเข้าใจจึงได้รู้
ว่าความล้มเหลวไม่ได้แปลว่าเราไม่ดี เราไร้ค่า และไม่ได้แปลว่าชีวิตเราจะ
ไม่สามารถยืนอยู่ในสังคมได้อีกหรือแม้แต่ความมั่นคงก็หามีไม่....มันเป็นเพียง
ความคิดที่อยู่ในหัวเราเท่านั้น...จากนั้นอ้อยก็ปาดน้ำตาและลุกขึ้น
มาสู้กับชีวิตใหม่แม้จะมองไม่เห็นทิศทางก็ตาม
ต้องขอบคุณที่ส่งให้เรามานั่งมองธรรมชาติที่นี่
3. ก้าวออกจากจุดเดิมที่ยืนอยู่ บอกกับคนในครอบครัวและคนที่รักเราว่าเราขอ
ออกไปอยู่ต่างประเทศสักพักเพื่ออยู่กับตัวเองและหาหนทางและเส้นทางใหม่
ให้กับชีวิต
4. เลิกสนใจว่าใครจะคิดอย่างไรกับเรา ข้อนี้ช่วยได้มากทีเดียวในด้านจิตใจ
5. ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น...ข้อนี้สำคัญมากกับชีวิตอ้อยเพราะเราคิดว่า
เรากำลังดิ่ง...ด้อย...ต่ำต้อย...จะทุกข์ทันทีเมื่อเห็นคนอื่นมีชีวิตที่ดีกว่า...จึง
ทำความเข้าใจกับความรู้สึกและอารมณ์ตัวเอง...และสุดท้ายก็ทำได้เพราะชีวิต
คนเรามันต่างกัน..จะจนหรือรวย..สวย..หล่อ....สุดท้ายก็มีแค่สุขและทุกข์...
จะไปอิจฉาเขาทำไมเล่า....ต้องเข้าใจจริง ๆ นะถึงจะทำได้
6. จะไปเรียนกับใครจะไปสัมนาที่ไหนสืบประวัติคนที่คิดว่าจะมาเป็นครูสอน
เราให้ดี..ว่าคน ๆ นั้นเหมาะสมที่จะมาเป็นครูหรือโค้ชเราหรือไม่เพราะปัจจุบัน
มีมากมายเหลือเกิน...(ข้อนี้เป็นบทเรียนราคาแพง)
1
หลังจากวันนั้นถึงวันนี้เป็นระยะเวลา 2 ปีกว่า ๆ ชีวิตที่ผ่านมรสุมมามากมาย
หากไม่ล้มเหลวในวันนั้นคงไม่มีชีวิตในวันนี้
อ้อยถือว่าความล้มเหลวในครั้งนั้น....คือของขวัญที่มีคุณค่ามากที่สุดในชีวิต
ทำให้เรามีจิตใจที่เข้มแข็ง
ทำให้เราได้ทบทวนชีวิต
ทำให้เราพัฒนาตัวเอง
ทำให้เราได้ออกจากจุดเดิม
ทำให้เราได้มีโลกใบใหม่
ทำให้เราเกิดใหม่ในร่างเดิม
ทุกเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตนั่นคือบทเรียน เหรียญมี 2 ด้านเสมอ
อ้อยขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่คิดว่าตัวเองล้มเหลวไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
การงาน
การเงิน
ความรัก
สุขภาพ
ความสัมพันธ์
หากเรา..ยอมรับ...และเปลี่ยนมุมมอง...เปลี่ยนความคิด....รับรองผ่านไปได้
อย่างแน่นอนค่ะ
ขอบคุณความล้มเหลวในวันนั้น
จากที่ไม่เคยเที่ยวยุโรป...ก็ได้มาเที่ยว
จากคนที่ทำงานเช้า...ดึก...กลับมาปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ
จากคนที่ไม่เคยออกกำลังกาย...กลับเป็นคนที่ออกกำลังกายทุกวัน
จากคนที่อารมณ์หงุดหงิด...กลายเป็นคนอารมณ์ดี
จากคนที่คิดมาก...กลายเป็นคนปล่อยวาง
จากคนที่กังวล....กลายเป็นคนที่ตัดความกังวลได้ด้วยตนเอง
จากคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย....กลับพูดภาษาอังกฤษได้
จากคนที่ขาดความเชื่อมั่น...เปลี่ยนเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเอง
จากคนที่แคร์ความรู้สึกคนอื่น...ที่ไม่ควรแคร์.....ตัดทิ้งไปได้อย่างง่ายดาย
จากคนที่ชอบติตัวเอง..ไม่สวย..อ้วน...ขาใหญ่..หน้าบาน...บลา บลา...กลับมารัก
และชมตัวเองและพูดคุยกับตัวเองเสมอ
สำหรับตัวอ้อยเองหากเปลี่ยนความคิดแล้วต้องเปลี่ยนนิสัยเดิม ๆ เปลี่ยนสถานที่
และลงมือทำซ้ำ ๆ จึงจะเกิดผล.....ฝึกไปพร้อม ๆ กันหลายข้อก็ไม่ได้ค่ะ
เพราะสมองมันจะงง...ฝึกทีละอย่างทีละข้อให้เป็นนิสัยแล้วเริ่มข้อใหม่
เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา
กำลังใจเมื่อได้รับจากคนอื่นโดยเฉพาะคนที่เรารักมันของมีค่า
แต่กำลังใจที่ยืนยาวและอยู่กับเราไปตลอดชีวิตคือ
กำลังใจจากตัวเอง..ไม่มีใครรักและซื่อสัตย์กับเราเท่ากับตัวเราเอง
จากวันที่ชอบเขียนไดอารี่...เปลี่ยนมาเป็นร้อยเรื่องราวเป็นบทความ
อ้อยหวังว่าความล้มเหลวในชีวิตครั้งนี้อาจเป็นประโยชน์กับผู้อ่านได้บ้าง
ไม่มากก็น้อย...
ขอบคุณที่แวะมาอ่านบทความ
ขอบคุณที่เข้ามาส่งกำลังใจให้กับอ้อยในการเขียนบทความต่อไป
หากชอบแนะนำติชม
และฝากกดติดตามเพจด้วยนะคะ
Ratchaya
โฆษณา