Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คลังความรู้ by SpokeDark
•
ติดตาม
4 ก.ย. 2020 เวลา 02:00 • ศิลปะ & ออกแบบ
ศิลปะแบบอิมเพรสชันนิสม์ คืออะไร?
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
เมื่อพูดถึงงานศิลปะแบบอิมเพรสชั่นนิส (Impressionism) เมื่อแปลเป็นไทยออกมา ก็จะได้ความหมายว่า ลัทธิประทับใจ ที่อาจจะฟังดูตลกอยู่บ้าง แต่ก็ชัดเจนดี เพราะงานศิลปะแบบอิมเพรสชั่นนิสคืองานที่ผู้ถ่ายทอดเลือกเอาความรู้สึกประทับใจในช่วงเวลาหนึ่งเอามาถ่ายทอดเป็นผลงานนั่นเอง โดยจุดกำเนิดของ Impressionism เกิดขึ้นที่ฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 ประมาณปี 1860-1920 และกลุ่มศิลปินที่ถูกจัดว่าเป็นกลุ่มอิมเพรสชั่นนิสต์ยังสร้างอิทธิพลมาจนถึงปัจจุบัน และถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่บางคนยกให้เป็นจุดเริ่มต้นของยุคโมเดิร์นที่เปลี่ยนวิธีการให้คุณค่าต่องานศิลปะและเปลี่ยนวิธีการทำงานของศิลปินโดยสิ้นเชิง
WIKIPEDIA PD
คำถามก็คือว่างานแนวอิมเพรสชั่นนิสต์ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นเช่นไร หากดูผิวเผินมันก็เหมือนภาพวาดรูปสีน้ำมันที่ถูกวาดให้ดูเบลอ ๆ เท่านั้น แต่คำตอบของคำถามที่ว่าก็คือคุณค่าที่เราจะมอบให้งานศิลปะในสมัยหนึ่ง ที่ไม่ได้ให้คุณค่าความประทับใจของคนวาดมากนัก แต่คุณค่าของงานศิลปะต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ย้อนกลับไปช่วงศตวรรษที่ 18 ที่เป็นยุคของผู้คนที่มีความตื่นตัวทางปัญญา (Enlightenment) ที่มีความเชื่อในสติปัญญาของคนมากกว่าจะเชื่อทุกอย่างตามคำอธิบายของศาสนา เพราะสมัยก่อน ถ้าใครบอกว่าโลกกลม ก็มีสิทธิถูกจับไปประหารชีวิตได้ เนื่องจากมันขัดต่อหลักความเชื่อของศาสนา โดยงานศิลปะในช่วงศตวรรษที่ 18 จะถูกเรียกว่ายุคโรแมนติก (Romanticism) โดยงานศิลปะในยุคนี้จะเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ ของศิลปิน ที่ใครเห็นแล้วต้องรู้สึกยกระดับจิตใจ ดูแล้วรู้แจ้ง โดยความรู้สึกนี้ถูกเรียกว่า ‘ซับไบลม์’ (Sublime) คือเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง อย่างเช่นถ้าจะวาดรูปภูเขาก็ต้องวาดให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ต้องสมจริง เห็นแล้วทึ่ง
ยุคของผู้คนที่มีความตื่นตัวทางปัญญา (Enlightenment) - WIKIPEDIA PD
พอกลับมาพูดถึงงานศิลปะแนว Impressionist ก็จะมีการเคลื่อนไหวที่ถูกเรียกว่า Impressionist movement ที่มาพร้อมกับแนวคิดของคนที่เริ่มยอมรับความเป็นตัวเองมากขึ้น ชีวิตของเราก็คือชีวิตของเรา คนเริ่มสัมผัสได้ถึงความงามในสิ่งที่เรียบง่าย ไม่ต้องเพอร์เฟ็ค ไม่ต้องสูงส่ง ไม่ต้องประณีต เป็นเพียงอิมเพรสชั่น หรือความประทับใจในวินาทีใดวินาทีหนึ่งก็มีคุณค่าได้เช่นกัน โดยศิลปินคนสำคัญใน Movement นี้ คนแรก ๆ ที่ถูกพูดถึงก็คือ โคล้ด โมเน่ต์ (Claude Monet) ที่ได้ย้ายมาวาดภาพในสตูดิโอ ที่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ทั้งแสง เงา และตัวแบบ โดยสไตล์ของโมเน่ต์คือจะเน้นวาดภาพคนธรรมดาในอิริยาบถต่าง ๆ หรือไม่ก็วาดรูปเรือ รูปสะพาน หรือแม้กระทั่งรูปลูกเมียตัวเอง ที่สำคัญคือการใช้สีน้ำมันวาดภาพออกมาอย่างรวดเร็วด้วยฝีแปรงที่หยาบและสั้นเพื่อจับจังหวะของแสงแดดและความเคลื่อนไหวในชั่วขณะนั้น ๆ ที่คนวาดรู้สึกกระทบจิตใจมากกว่าเน้นความสมจริง ไม่ต้องมีเรื่องราว ไม่ต้องดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ถ้าใครได้เห็นงานศิลปะของโมเน่ต์ จะพบว่าดูแทบไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร โดยงานศิลปะที่โดเด่นของโมเน่ต์ก็คือภาพ Woman with parasol หรือซีรีส์สระบัว หรือ The Water Lilly Pond ซึ่งมีถึง 250 ชิ้น
Claude Monet - WIKIPEDIA PD
ส่วนศิลปินแนว Impressionist คนอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ปิแอร์ ออกุสต์ เรอนัวร์ (Pierre-Auguste Renoir) ที่วาดรูปผู้หญิงกับเด็กออกมาได้อ่อนหวานมาก โดยภาพที่โดดเด่นของเขาก็คือ ‘ลา เปอร์ติ๊ด ไอรีน’ (La Petite Irene) รูปภาพลูกสาววัย 8 ขวบของนายธนาคารที่จ้างให้เรอนัวร์วาดรูปให้ รวมถึงรูปที่โด่งดังที่สุดของเขาอย่าง รูปงานเต้นรำที่มูแล็ง เดอ ลา กาแล็ต (Dance at Le moulin de la Galette) ที่จับเอาแสงแดดในบ่ายวันอาทิตย์ในงานเต้นรำออกมาได้แบบมีชีวิตชีวามาก ๆ
Pierre-Auguste Renoir - WIKIPEDIA PD
และอีกคนที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือ เอ็ดการ์ เดอกา (Edgar Degas) ที่ชอบวาดรูปคนเต้นบัลเล่ต์ กับผู้หญิงอาบน้ำ สไตล์ของเขาแตกต่างจากสองคนแรก เพราะภาพของเขาจะมีความหม่น ความเหงา และตัวเขาเองก็ไม่ปลื้มนักที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอิมเพรสชั่น เขาไม่ชอบวาดรูปกลางแจ้งและไม่ชอบวาดแบบจับเอาช่วงเวลาหรือสเน็ปแบบที่โมเน่ต์ชอบทำ ผลงานเด่น ๆ ของเขาก็คือชั้นเรียนเต้นบัลเล่ต์ (The Ballet Class) และภาพในคาเฟ่ต์ (In a Café)
Edgar Degas - WIKIPEDIA PD
นอกจากงานศิลปะที่มองเห็นด้วยตาแล้ว อิมเพรสชั่นนิสต์ยังส่งต่ออิทธิพลไปยังโลกของดนตรีคลาสสิคด้วย เกิดดนตรีคลาสสิคแบบอิมเพรสชั่นในช่วงศตวรรษที่ 19 ในฝรั่งเศสเช่นกัน เป็นดนตรีที่เน้นการสร้างบรรยากาศและห้วงอารมณ์ ณ ตอนนั้นของผู้แต่ง คล้ายกับงานศิลปะแนวอิมเพรสชั่นนิสต์ แต่นี่คือบทเพลง ที่ฟังแล้วอาจให้ความรู้สึกมุ้งมิ้ง หรือความรู้สึกหม่นหมอง อารมณ์ประมาณฝนกำลังตก แดดยามบ่าย มากกว่าจะแสดงความยิ่งใหญ่ผ่านบทเพลง นักดนตรีที่โดดเด่นในด้านนี้ ได้แก่ โคล้ด เดอบุชี่ (Claude Debussy) ที่แต่งเพลงเปียโนที่ดังมาก ๆ โดยเพลงของเขาถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์ โฆษณา วิดีโอเกม หรือแม้แต่อนิเมชั่นญี่ปุ่น อย่างเช่นเพลง Arabesques หมายเลขหนึ่ง และ Suite เป็นต้น
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
16 บันทึก
20
2
7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก
16
20
2
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย