4 ก.ย. 2020 เวลา 02:40 • ธุรกิจ
นวัตกรรม ของ Samsung กับตำแหน่งผู้นำที่ยาวนานในตลาดสมาร์ตโฟน
Samsung เป็นหนึ่งในบริษัทแถวหน้า ที่สามารถเข้ามาตีตลาดและแย่งชิงเค้กเจ้าตลาดในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ได้
เริ่มตั้งแต่ทีวี ที่เริ่มเข้าสู่ตลาดตั้งแต่ปี 1969 ตามหลังผู้นำตลาดอยู่หลายปี จนสามารถขึ้นแท่นผู้นำตลาดทีวีโลกได้สำเร็จมาตั้งแต่ปี 2006 รวมระยะเวลา 14 ปี
ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์ต่อมาก็คือโทรศัพท์มือถือ ที่เริ่มตีตลาดนี้ครั้งแรก เมื่อปี 1991
และเปิดตัวโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ Android ขึ้นครั้งแรก ในปี 2009 ด้วยรุ่น Samsung GT-I7500 Galaxy ซึ่งเป็นรุ่นแรกของตระกูล Galaxy
Cr. Samsung
แต่ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมานั้น การแข่งขันในวงการสมาร์ตโฟนก็ดุเดือด มีคู่แข่งหลายเจ้าที่ผลัดกันครอบครองตลาดในช่วงที่ผ่านมา
แล้ว Samsung ก้าวมาเป็นผู้นำได้อย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เรามาดูผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนเมื่อ 10 ปีที่แล้วกัน
ปี 2009 มีผู้ครองตลาดคือ Nokia, Blackberry และ Apple
ปี 2020 มีผู้ครองตลาดคือ Samsung, Huawei และ Apple
โดย Samsung นั้น สามารถเอาชนะ Nokia ได้ครั้งแรกเมื่อปี 2012 และขึ้นแท่น Top 3 มาตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา
1
โดยจุดเปลี่ยนสำคัญของ โทรศัพท์ยี่ห้อ Samsung ก็คือการเปิดตัว สมาร์ตโฟนตระกูล Galaxy S เมื่อปี 2010 และตามมาด้วย Galaxy Note ในปี 2011 ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นอย่างมากภายในระยะเวลา 2 ปี
จากสัดส่วนตลาด 19% ในปี 2011 เพิ่มมาเป็น 30% ในปี 2012 อ้างอิงจากเว็บไซต์ IDC
ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 นั้น ตลาดสมาร์ตโฟนกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด
แต่ละแบรนด์ต่างเน้นการพัฒนาสมาร์ตโฟน ที่มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก และแน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งพาปากกาอีกต่อไป
1
เมื่อ Samsung เปิดตัว Galaxy Note จึงทำให้เป็นเรื่องที่แปลกใหม่และค่อนข้างสวนกระแสกับตลาดสมาร์ตโฟนในเวลานั้นเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนมองว่ามันเป็นสมาร์ตโฟนที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ
Cr. Engadget
แต่รู้หรือไม่ว่า หลังจากที่เปิดตัวไป 10 เดือน
Samsung Galaxy Note สามารถจำหน่ายไปได้ทั้งหมด 10 ล้านเครื่องทั่วโลก
เป็นการตอกย้ำความสำเร็จของสมาร์ตโฟนพรีเมียม ที่มีปากกาในเวลานั้น
ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยของ Samsung ในปัจจุบันที่พบว่ากว่า 80% ของผู้ซื้อตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ตโฟนรุ่นนี้เพราะต้องการปากกา
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ Samsung เองก็ยังคงถือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนทุกระดับ ตั้งแต่ระดับราคาถูก ไปจนถึงระดับพรีเมียม
ถึงแม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้จะมีคู่แข่งใหม่ๆ เข้ามามาก แต่ Samsung ก็ยังสามารถปรับตัว ยืนหยัดในตำแหน่งผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนได้อยู่
แล้ว Samsung ทำได้อย่างไร?
จุดเด่นของสมาร์ตโฟน Samsung อย่างแรกเลยคือเรื่องของนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นมาตามความต้องการของผู้บริโภค จากการเรียนรู้ว่าผู้ใช้ต้องการอะไร อะไรคือ Pain-point และออกแบบสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีมาเกี่ยวข้อง ให้ผู้บริโภครู้ว่า Samsung สามารถแก้ปัญหาให้ได้
อย่างต่อมา ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างของแบรนด์ Samsung ก็คือ คุณภาพหน้าจอ
โดย Samsung ยังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมใหม่ๆ ของจอแบบ AMOLED ในสมาร์ตโฟน อย่างเช่นหน้าจอแบบ SUPER AMOLED ที่มีการฝังฟังก์ชันการสัมผัสเข้าไปที่ตัวหน้าจอเลย โดยไม่ต้องแยกชั้นเหมือนแต่ก่อน ซึ่งมีการใช้ครั้งแรกในรุ่น Galaxy S ll และหลังจากนั้น Samsung ยังทยอยพัฒนาหน้าจอออกมาเรื่อยๆ ซึ่งเรียกได้ว่าหลายคนชอบมือถือแบรนด์นี้เพราะหน้าจอสวยกว่าแบรนด์อื่น
Cr. SlashGear
และอย่างสุดท้ายก็คือ Samsung เป็นแบรนด์ที่ออกผลิตภัณฑ์มาหลากหลายรุ่น ให้ลูกค้ามีตัวเลือกตามความสนใจ ส่งผลให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลายกลุ่ม
1
ไล่ตั้งแต่ รุ่นราคาถูกอย่างตระกูล Galaxy A Series 10 ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท ที่เหมาะสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุน้อย มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้สมาร์ตโฟนที่มีฟังก์ชันสมาร์ตโฟนเบื้องต้นครบ
หรือตระกูลพรีเมียมแบบ Galaxy S ที่โดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพ ทันสมัย และดีไซน์ที่สวยงาม
หรือตระกูลพับได้อย่าง Galaxy Fold และ Galaxy Z Flip ที่ตอบโจทย์คนกลุ่ม Early Adopters ที่ชื่นชอบนวัตกรรมและแฟชั่น
Cr. Forbes
หรืออยากได้สมาร์ตโฟนที่เหมาะกับการทำงาน อย่าง Galaxy Note ที่สามารถทำให้การทำงาน หรือการจดบันทึก วาดเขียนต่างๆ นั้นง่ายขึ้น
แล้วปัจจุบัน Samsung มีอะไรที่แตกต่างจากคู่แข่งบ้าง?
ในตอนนี้อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของ Samsung ก็คือ การทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ระดับโลก เช่น Google, Spotify และ Microsoft
ยกตัวอย่าง ความสามารถในการเชื่อมต่อเข้ากับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้ ทำให้เราสามารถควบคุมการทำงานในสมาร์ตโฟนตระกูล Galaxy S และ Galaxy Note ผ่านคอมพิวเตอร์ได้ทันที โดยใช้แอปพลิเคชั่น
1
หรืออย่างล่าสุดในรุ่น Galaxy Note 20 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก็มีการพัฒนาตัวปากกา ให้มีความรู้สึกเหมือนจดด้วยปากกาจริงมากขึ้น ที่หากเปรียบเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อน ก็ดูเหมือนว่า Samsung จะพัฒนาไปมาก เช่น ฟังก์ชันเปลี่ยนลายมือเป็นตัวอักษร จัดลายมือที่เอียงให้ตรง ใช้ควบคุมพรีเซ้นต์ กล้อง ไปจนถึงอัดเสียงไปพร้อมกับการจดบันทึก
ทำให้ Samsung ถือเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้นำสมาร์ตโฟนประเภทมีปากกาอีกด้วย
Cr. Digital Trends
แล้ว Samsung ทำรายได้จาก สมาร์ตโฟนมากแค่ไหน?
ในปี 2019 ทำรายได้ไปทั้งหมด 2.8 ล้านล้านบาท
ซึ่งถือเป็นหมวดสินค้าที่ทำรายได้ให้กับ Samsung Electronics มากที่สุด หรือคิดเป็น 41.6% ของรายได้ทั้งหมด
จะเห็นได้ว่า ถึงแม้ Samsung จะไม่ได้เข้ามาในตลาดเป็นคนแรก
แต่ก็ค่อยๆ พัฒนาตนเอง จนสามารถทำให้เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนโลกได้
ซึ่งก็น่าติดตามต่อไปว่า Samsung จะนำเอากลยุทธ์อะไรออกมาเพื่อรักษาความเป็นผู้นำที่มีมายาวนานนี้ไว้
แต่ที่ผ่านมาก็เรียกได้ว่ากรณีศึกษาของ Samsung น่าสนใจ
เพราะ Samsung สามารถแข่งกับตัวเองให้พัฒนาขึ้นอยู่เสมอ จนรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดได้จนถึงปัจจุบัน..
โฆษณา