7 ก.ย. 2020 เวลา 16:19 • ไลฟ์สไตล์
อย่าขังพ่อแม่...เพียงเพราะเราคิดไปเอง
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง ที่เข้ามาเรียน ทำงานและปักฐานอยู่ในเมืองหลวง เป็นเวลา 15 ปีแล้ว
ทุกครั้งที่กลับบ้านต่างจังหวัด ภาพเดิมๆที่เห็นคือ พ่อผู้ชรา ถือไม้เท้าค่อยๆเดินออกไปนั่งหน้าบ้าน พร้อมด้วยเสียมค่อยๆบรรจงทิ่มลงไปในดิน ก้มๆเงยๆ หยิบต้นไม้ใส่กระถาง กอบดินใส่จนเต็ม รดน้ำจนชุ่มแล้วยกไปตั้งไว้เป็นระเบียบ
บ้างครั้งก็ลุกขึ้นยืนง่อนแง่น จับปลอกคอเจ้า “มี่” หมาพันธุ์ทางอัลเซเชี่ยนผสมหมาบ้าน ก้าวออกเดินดูโน่นดูนั่นไปไปเรื่อยๆรอบบ้าน นั่นคือการออกกำลังกายของพ่อ ที่ผมเห็นแล้วว่าเหมาะสมกับช่วงอายุของท่าน
หันไปอีกทางเห็นยายนั่งอยู่บนแคร่ใต้ชายคาหน้าบ้าน มองดูรถและผู้คน ที่ผ่านไปมาบนถนนสายลูกรังหน้าบ้าน เสียงตะโกนทักทายเป็นระยะๆ บอกถึงสายสัมพันธ์ของญาติพี่น้องในหมู่บ้าน
แม่นั่งอยู่ในครัวกำลังเตรียมวัตถุดิบในการทำกับข้าว กลิ่นควันไฟที่มาจากเตาถ่าน ลอยมาตามสายลมเอื่อยเฉยของเที่ยงวัน แม้จะมีเตาแก๊สแต่เพื่อความหอมของอาหารแม่จึงมักจะใช้เตาถ่านมากกว่า ตกบ่ายแก่ๆก็ออกไปนั้งคุยกับญาติพี่น้องที่บ้านอยู่ติดกัน เดินเด็ดผักข้างบ้านที่ขึ้นแน่นเต็มพื้นที่มาไว้ทำกับข้าวในมื้อเย็น
กิจวัติประจำวัน มักจะดำเนินไปแบบนี้ ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่...
การกลับมาบ้านครั้งนี้ ผมคิดแล้วว่าจะพาทุกคนไปพักผ่อนที่กรุงเทพกับผม เนื่องจากนานมากแล้วที่ทุกคนไม่เคยได้ออกจากบ้านเลย ยกเว้นวันพระที่จะได้ออกไปทำบุญที่วัดบ้าง ผมจึงบอกแม่ว่าจะพาไปพักผ่อนอยู่บางกอกสักสามเดือน แม่ตอบตกลงตามใจลูก ลูกสะดวกยังไงก็ตามนั้น
ผมจินตนาการถึงวันที่ทุกคนไปถึงกรุงเทพแล้ว จะต้องตื่นเต้นกับความเจริญ และความสะดวกสบายแน่นอน
...ถึงเวลาที่ต้องออกเดินทางกันแล้ว ยายเดินตรวจแม่กุญแจบ้านอยู่หลายรอบด้วยความเป็นห่วงบ้านก่อนออกเดินทาง เมื่อทุกคนพร้อมล้อรถจึงเคลื่อนที่ออกมา เราใช้เวลาเดินทางอยู่หลายชั่วโมงจึงถึงปลายทางบ้านผม
งานของผมที่ค่อนข้างยุ่ง ทำให้ผมกลับดึกถึงบ้านไม่ต่ำกว่าห้าทุ่มทุกวัน มักจะมีกับข้าวตั้งไว้ให้บนโต๊ะในทุกวันเช่นกัน ผมมีหน้าที่แค่กินเท่านั้น ทุกคนเข้านอนกันหมดแล้ว เช้ามาผมก็ต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้า ทุกคนยังคงหลับกันอยู่
วันหยุดคือวันพักผ่อนของผม ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ทำให้ผมไม่นึกอยากไปไหน
วันเวลาผ่านไปเดือนครึ่ง พ่อเกิดอาการปวดเมื่อยหลังและมึนหัวเป็นบางครั้ง แม่รู้สึกท้องไส้ไม่ค่อยดี คุณยายปวดแขนปวดขาเพราะนั่งที่เดิมๆทั้งวัน แต่ผมไม่มีเวลาพาทุกคนไปหาหมอเลย...
บ้านของผมไม่ได้มีพื้นที่กว้างอะไรมาก ตามแบบบ้านของคนเมืองในราคาไม่แพงนัก
ความสุขของผมที่ได้เห็นทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่ลืมนึกไปว่า ผมไม่สามารถดูแลทุกคนได้ เพราะงานที่ต้องทำ มันไม่ต่างอะไรกับการที่พาพ่อแม่และยาย มาขังไว้ในบ้าน
รอยยิ้มที่มีในวันแรกเริ่มค่อยๆหล่นหายไปตามระยะเวลาที่เดินไป
ไม่มีดินให้พ่อขุดออกกำลังกาย ไม่มีผู้คนที่เดินผ่านหน้าบ้านให้ยายได้ทักทาย ไม่มีพื้นที่ให้แม่เดินเก็บผักข้างบ้าน แต่มันกลายเป็นว่าผมบังคับให้ทุกคนอยู่นิ่งๆไม่ต้องทำอะไรจะได้สบาย แต่นั่นคือความคิดของผม
...ผมยืนมองเจ้า “มี่” ที่กำลังวิ่งวนไปรอบๆพ่อ ที่กำลังลงจากรถด้วยความดีใจที่เหลือล้น เพราะไม่ได้เจอกันนานสองเดือน ญาติๆพากันเดินมาหาล้อมหน้าล้อมหลังแทบจะทันทีที่รถจอด เสียงเอะอะทักทายด้วยความอบอุ่นจริงใจ รอยยิ้มของพ่อแม่และยายค่อยๆเบ่งบานคืนกลับมา...
ผมพาทุกคนกลับบ้านก่อนกำหนด เพื่อให้ทุกคนได้มีความสุขที่แท้จริง ไม่ใช่จากที่ผมคิดไปเอง...
โฆษณา