Ren Zhengfei เจ้าของหัวเหว่ย ที่ถือหุ้นบริษัทตัวเองเพียง 1.42%
รู้กันดีว่า Huawei คือแบรนด์เทคโนโลยีที่มีอิทธิพลเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ปีที่ผ่านมา หัวเหว่ยทำผลประกอบการได้มากกว่า 4,877 ล้านบาท
แต่รู้ไหม ว่ารายได้ส่วนใหญ่ แทนที่จะไหลเข้ากระเป๋าเจ้าของบริษัท กลับเป็นว่า รายได้เหล่านั้น เป็นทรัพย์สินของพนักงาน
เพราะ Ren Zhengfei เจ้าของหัวเหว่ย ถือหุ้นบริษัทตัวเองเพียง 1.42%
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แล้วท่านประธานท่านนี้จะน่าสนใจอย่างไร ผู้เขียนจะพาไปทำความรู้จักให้มากกว่านี้กัน..
Ren Zhengfei หรือ เหริน เชียงเฟ่ย
Billionaire ผู้ก่อตั้งเซินเจิ้นเบสหัวเหว่ย ที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในโลก
และเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียง Apple รายเดียว
ก่อนหน้าที่คุณเหริน จะมาก่อตั้งหัวเหว่ย ท่านเป็นวิศวกรปกติทั่วไป
หลังจากนั้น ได้มาก่อตั้งหัวเหว่ยในปี 2530 หรือเมื่อ 33 ปีก่อน
ที่น่าสนใจ คือจุดมุ่งหมายในการบริหารขององค์กรนี้ มีความแตกต่างกว่าองค์กรเอกชนทั่วๆ ไป
เพราะแทนที่คุณเหริน จะมีอำนาจตัดสินใจทุกอย่างเบ็ดเสร็จ หรือเป็นผู้บริหารหลัก
แต่เขากลับวางรากฐานองค์กรให้มีผู้บริหารระดับอาวุโสเพียงแค่ 3 คน หมุนเวียนทำหน้าที่ตลอด 6 เดือน
จึงเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังไม่มีอำนาจผูกขาดขึ้นตรงต่อคนใดคนหนึ่ง
รวมถึงมีส่วนช่วยให้มีแรงผลักดันในการเข้ามานั่งเก้าอี้ ทั้งสามตำแหน่งอีกด้วย
แม้จะเป็นยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ และเป็นบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับ ที่ 72 ของโลกเมื่อปี 2018
แต่รู้ไหมว่า หัวเหว่ยไม่ได้เป็นบริษัทมหาชน เหมือนอย่างยักษ์ใหญ่ที่เทียบเคียงได้อย่าง Apple และ Samsung
จึงทำให้นโยบายหลายรูปแบบ ไม่จำกัดเพียงแค่ ทำกำไรเพื่อเอาใจผู้ถือหุ้น
ทว่า หุ้นส่วนใหญ่หรือในฐานะ “หุ้นเสมือน” ที่พนักงานบริษัทกลายเป็นผู้ถือ
ส่วนหนึ่งจะทำให้พวกเขา ได้รู้สึกมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของบริษัท
ฉะนั้น ทุกก้าวเดินขององค์กรจึงเกี่ยวกับความมั่งคั่งของตนเอง จนกลายเป็นแรงผลักดันอีกส่วน
เพราะแม้พนักงานจะไม่มีสิทธิ์ออกเสียงเหมือนผู้ถือหุ้นปกติ และหากลาออก หุ้นก็จะกลับคืนมาเป็นของบริษัท
ทว่า ข้อได้เปรียบของพวกเขาเหล่านั้น คือปันผลตอบแทนที่จะได้รับ หากบริษัททำผลประกอบการได้ดี
แรงจูงใจจึงจะมีขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และถ้าหากจะลาออก โดยธรรมชาติของคน ก็อาจจะเสียดายรายได้ที่อาจไม่เล็กน้อย เหล่านั้น นั่นเอง..
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านี้ สำหรับวัฒนธรรมองค์กรของหัวเหว่ย รู้ไหมว่าหัวเหว่ย มีทายาทของคุนเหรินทำงานร่วมอยู่
แต่คุณเหริน มีแผนก่อนหน้านี้ว่าจะลงจากตำแหน่งผู้บริหารแบบถาวร
และจะไม่ให้ทายาท เข้ามาสืบทอดกิจการต่อ เพราะเป็นสายเลือดเดียวกัน
แต่บุคคลที่เหมาะสมจะเป็นหัวเรือใหญ่ จะได้เข้ามานั่งตำแหน่งนั้นแทน
ที่กล่าวมาเพียงเล็กน้อย เป็นเพียงกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับองค์กรหัวเหว่ย และแนวคิดที่กว้างไกลของคุณเหริน ผู้ก่อตั้ง
อย่างไรก็ดี เมื่อบริษัทมีการเปิดกว้างด้านความคิด และทุกคนมีส่วนร่วม ทุกก้าวเดินของบริษัทเช่นนี้
ไม่แน่ หากในอนาคต พวกเขาอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนอย่างวันนี้
แต่อาจยิ่งใหญ่ยิ่งกว่านี้ เป็นแน่..
คิดเหมือนผู้เขียนไหม ?
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Reference
Picture
- 15
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
