7 ก.ย. 2020 เวลา 00:00 • ข่าว
การจากไปของเด็กผู้หญิงหนึ่งคน สอนอะไรเรา
กว่า 4เดือนของการจากไปของน้องชมพู่ เราเรียนรู้อะไรได้บ้าง?
1
จุดเริ่มต้นคดี
น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หายปริศนาไปจากบ้านเลขที่ 73 หมู่ 2 บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร
ซึ่งหายจากบ้านตั้งแต่เช้าวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชนท้องถิ่น และจิตอาสากว่า 500 คน ระดมปูพรมค้นหา
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวน จะพบศพน้องชมพู่ในป่าเขาภูพานน้อย ห่างจากบ้านประมาณ 4 กิโลเมตร โดยสภาพศพน้องชมพู่ ที่เจ้าหน้าที่พบนั้นอยู่ในสภาพเปลือยกาย
1
ผู้ต้องสงสัย
ระหว่างการหาบทสรุปของคดี มีผู้ต้องสงสัยมากมายหลายคน ตั้งแต่ พ่อและแม่น้องชมพู่ ลุงพลญาติของน้องชมพู่
พร้อมกับการติดตามข่าวจากสังคมและโลกโซเชียล ที่ชาวยตามหาความจริง รวมทั้งตั้งข้อสังเกตต่างๆ
นอกจากนั้นในช่วงแรกมีผู้ต้องสงสัยนับ 10 คน บางรายมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติดและมีอาการทางประสาท
แต่สืบไปสืบมาก็ยังไม่ใกล้ความจริงสักคน
1
ตำรวจลงพื้นที่หาหลักฐานจากจุดเกิดเหตุ
ร่างทรงเต็มพื้นที่
เมื่อการสืบหาคนร้ายยังไม่สำเร็จ บรรดาะร่างทรงเริ่มมีการอวดอุตริ แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ รู้ว่าใครเป็นคนร้าย อีกกี่วันคนร้ายจะปรากฏตัว ทั้งพระ ทั้งคนธรรมดาทั่วไปต่างกล่าวอ้างว่าทรงได้
นอกจากนั้นยังมี “หมอปลา” มือปราบสัมภเวสี ไปที่บ้านกกกอกพร้อมยืนยันว่าลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์ หากลุงพลโดนออกหมายจับหมอปลาจะเป็นคนเอาโฉนดที่ดินส่วนตัวไปประกันลุงพลเอง
จนฝ่ายพ่อแม่และญาติน้องชมพู่บางส่วนไม่พอใจ
2
หมอปลาขณะลงพื้นที่พบลุงพล
การสาดไปสาดมาระหว่างญาติ
ในคดีดังกล่าวช่วงแรกเกิดกระแสตั้งข้อสงสัย “แม่น้องชมพู่” ว่าทำไมไม่เสียใจที่น้องจากไป แม่อธิบายว่า แม่ได้มานั่งเสียใจออกทีวี เราก็ไม่มีเวลามานั่งร้องไห้ผ่านสื่อ ทั้งเรื่องสั่งให้สะดิ้งลูกสาวคนโตโกหกในคำให้การอีก
ด้านลุงพลลุงเขยของน้องชมพู่ และเป็นคนที่แม่น้องชมพู่เอ่ยปากว่า “น่าสงสัยมากที่สุด” แต่กลับทำให้ลุงได้รับความเห็นใจจากคนทั่วประเทศ มีคนไปหาที่บ้านเพื่อให้กำลังใจทุกวัน มีคนขอถ่ายรูป ขอลายเซ็น มีแฟนคลับมากมาย
ลุงพลและแม่น้องชมพู่
ทัวร์บ้านกกกอก
จากกระแสสังคมทำให้คนติดตามคดีนี้อย่างล้นหลาม เรื่องราวเกินเลยไปจนถึงการ จัดทัวร์ท่องเที่ยว บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร สถานที่เกิดเหตุ
อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นที่ท่องเที่ยว มีคนต่างพื้นที่เข้าไปที่หมู่บ้านทุกวัน มีทั้งที่ไปเซลฟี่หน้าบ้านลุงพล บ้านน้องชมพู่ ขอถ่ายรูปคู่-ขอลายเซ็น
จนมีแพลนทัวร์ออกมามากมาย อาทิ ทัวร์บ้านกกกอก เยี่ยมให้กำลังใจลุงพล ที่นั่งละ 1,300 พร้อมที่พักกางเต็นท์บ้านลุงพล อาหาร 3 มื้อ
พาชมสถานที่ภูเขาน้องชมพู่ ที่เขาหินเหล็กไฟ พร้อมขูดเลขที่บนเขา 10 ที่นั่ง
1
กิจกรรมทัวร์บ้านกกกอก
อุ๊บวิริยะ
“อุ๊บ วิริยะ” นักปั้นและผู้จัดการดาราชื่อดัง ตัวละครสำคัญอีกตัวที่ทำเรื่องราวอลวนเพิ่มขึ้นไปอีก เริ่มจากการไปขออนุญาตแม่น้องชมพู่เอาคดีนี้มาสร้างเป็นหนัง “บ้านกกกอก เดอะ ซีรีส์”
แถมอยากได้ลุงพลมาร่วมแสดง แต่ลุงปฏิเสธ บอกว่านี่ไม่ใช่เวลาจะมาเล่นหนัง แม่น้องชมพู่ก็ไม่เห็นด้วย เพราะไม่อยากตอกย้ำความเจ็บปวด ก่อนสุดท้ายจะมาเป็นผู้จัดการลุงพลในที่สุด
2
อุ๊บ วิริยะ ผู้เกาะกระแสลุงพล
ลุงพลสู่วงการบันเทิง
สื่อแห่งหนึ่งเคยให้ลุงพลร้องเพลง ปรากฏว่ากระแสดี มีคนสนใจมากมาย จนมีค่ายเพลงมาหาลุงพลถึงบ้าน
เชิญลุงไปร้องเพลงในงานประจำจังหวัดงานหนึ่ง แต่ “ป้าแต๋น” ภรรยาของลุงพลบอกว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะมาทำเรื่องรื่นเริง
ไปๆ มาๆ สุดท้ายได้ร่วมฟีเจอริ่ง เพลงเต่างอย กับราชินีหมอลำ “จินตหรา พูนลาภ”
และยังได้ออกงานในงานบวงสรวงไหว้สาพญาเต่างอย ประจำปี 2563 เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา
จากนั้น อุ๊บ วิริยะ ได้ขอเป็นผู้จัดการส่วนตัวลุงพล เพราะมองว่าในนาทีไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าตนแล้ว อีกทั้งยังอ้างว่ากลัวว่าจะโดนหลอก
อาจจะรู้ไม่ทันคนอื่น ไหนจะเรื่องค่าตัว อุ๊บเป็นผู้จัดการโดยไม่หักเปอร์เซ็นต์เลย
1
จากผู้ต้องสงสัย กลายเป็นบุคคลที่เนื้อหอมที่สุด
ปัจจุบันลุงพลมีงาน
1). คอนโดฯหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลักล้านบาท
2). คลินิกทำฟัน 3 แสนบาท ทำฟัน จัดฟัน และถ่ายโปรโมต โดยจะเริ่มงานสัปดาห์หน้า
3). ท่อน้ำเกษตร 5 แสนบาท โปรโมตสินค้า
4). สมุนไพรเสริมความงาม 1 ล้านบาท งานร่วม ลุงพลกับป้าแต๋น
5). มิวสิควิดีโอเพลง คนเดียวในดวงใจ ของธันวาราศีธนู 20,000 บาท งานร่วม ลุงพลกับป้าแต๋น
6). ถ่ายพรีเวดดิ้ง 20,000 บาท (งานร่วม ลุงพลกับป้าแต๋น)
7). รีวิวสินค้า "ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม หมูแดดเดียว น้ำส้ม ปลาอินทรีย์ 5 แสนบาท
8. ร่วมแสดงภาพยนต์ ค่ายดัง รับเชิญ 1-2 ประมาณ 50,000 บาท
9). งานรำบุญกฐินตามจังหวัดต่าง ๆ 10 กว่างาน งานละ 20,000 บาท รวมกว่า 2 แสนบาท
10). คลินิกเสริมความงาม ถ่ายภาพนิ่ง ประมาณ 5 แสนบาท
3
ลุงพลเดินแบบที่ตะวันนา
คนไทยได้อะไร
ความคืบหน้าในคดีแทบจะเป็นศูนย์ สวนทางกับกระแสลุงพลและบ้านกกกอก สื่อมวลชนเริ่มพาคดีน้องชมพู่ไปไกลเกินกว่าจะกลับมาได้
จากคดีหนูน้อยคนหนึ่งที่เสียชีวิตกลางป่า ผ่านมานานเกือบ 4 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถหาหลักฐานเพิ่มเติมมาพิสูจน์ได้ จากตำรวจที่จะเป็นคนหาหลักฐาน
กลับกลายมาเป็นสื่อมวลชนที่เข้าหาหลักฐานเสียเอง จนตอนนี้
ไม่เหลือเค้าว่ารูปคดี จะสรุปออกมาได้เมื่อใด
ได้แต่สงสารน้องชมพู่ หนูน้อยที่ต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
โฆษณา