📌จุดจบของคนอวดสามี(คนอื่น)...
สาวสวยคนหนึ่งโพสต์อวดดอกกุหลาบที่ได้รับจากแฟนหนุ่มจำนวน 101 ดอก ต่อมาเธอถูกลักพาตัวไปในป่าแล้วถูกไฟคลอกจนเสียชีวิต...
ในวันวาเลนไทน์ปี 2014 สาวรัสเซียคนหนึ่งโพสต์รูปดอกกุหลาบ 101 ดอกลงบนโซเชียล แต่เธอไม่รู้ว่าตัวเลยว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนอยู่ และอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบๆ
หลังจากที่โพสต์ไปไม่นานผู้หญิงคนนั้นก็ถูกลักพาตัวเข้าไปในป่าแล้วถูกเผาทั้งเป็น ในวันเกิดเหตุฆาตกรเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้วสารภาพว่าต้นเหตุของการฆาตกรรมเกิดจากภาพถ่ายของดอกกุหลาบที่ผู้ตายโพสต์ลงโซเชียล ...
มาเรีย โซโคโลวา หญิงสาวชาวรัสเซียวัย 32 ปี ทำงานเป็นพนักงานในบริษัทขนส่งสินค้าในสนามบินแห่งหนึ่ง
เธอมีแฟนที่ทำงานในบริษัทเดียวกันโดยเขาเป็นหัวหน้างานของเธอ ชื่อว่า เยฟเจนี โรมานอฟ วัย 37 ปี ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มต้นมาจากการเป็นเพื่อนร่วมงานจนกระทั่งมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งในที่สุด
ตัวมาเรียนั้นก็รู้ดีว่าฝ่ายชายไม่ใช่หนุ่มโสดแต่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว โดยภรรยาของเขาชื่อว่า เอเลน่า วัย 36 ปี
ที่ผ่านมาเอเลน่าไม่เคยรู้เลยว่าสามีตัวเองกำลังนอกใจ แต่เซ้นส์ผู้หญิงมันแรง... วันหนึ่งเธอก็เกิดนึกอยากจะเช็ค Instagram, Facebook ของสามี พอเลื่อนดูก็ไปสะดุดกับหญิงสาวรายหนึ่งที่ชื่อ มาเรีย ซึ่งเธอคุ้นเคยดีว่าเป็นเพื่อนร่วมงานของสามี
พอเข้าไปดูหน้าโปรไฟล์เธอก็มาสะดุดเข้ากับโพสต์ๆ หนึ่งซึ่งมาเรียโพสต์ภาพดอกกุหลาบจำนวน 101 ดอกที่ได้รับในวันวาเลนไทน์ มันจะบังเอิญเกินไปไหม ? เพราะว่าเธอเองก็ได้รับดอกกุหลาบแบบเดียวกันนี้จำนวน 101 ดอกเท่ากันอีกต่างหาก
ในตอนแรกเอเลน่าพยายามคิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องบังเอิญเพราะมาเรียก็บอกว่าแฟนหนุ่มส่งดอกกุหลาบมาให้
แต่... แฟนของมาเรียคงไม่ใช่สามีของเธอนะ !!
เอเลน่ายังคงสงสัย เซ้นส์ของเธอมันแรงขึ้นทุกที...
เมื่อเลื่อนดูโพสต์เก่าๆ ของมาเรียที่เปิดสาธารณะเอาไว้เธอก็พบว่า มาเรียมักจะติดตามสามีของเธอไปติดต่องานในต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งมันไม่เกี่ยวอะไรกับหน้าที่ของมาเรียเลย
และพอมองย้อนกลับไปปะติดปะต่อเรื่องเรื่องราวที่ผ่านมาก็ทำให้เอเลน่าแน่ใจว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่มากกว่าเจ้านายและลูกน้อง มันทำให้เธอเสียใจเป็นอย่างมากเพราะมาเรียก็รู้ว่าเธอคือภรรยาของเยฟจีนี และยังเคยเจอกันในงานเลี้ยงของบริษัทบ่อยๆ
แม้จะผ่านมาแล้วหลายวัน แต่ภาพกุหลาบพวกนั้นยังคงติดตาเอเลน่าไม่หาย ยิ่งเมื่อเธอเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของมาเรียหัวใจของเธอก็ลุกโชนไปด้วยความโกรธ
เพื่อให้ได้คำตอบเธอจึงได้ทำการจ้างนักสืบเพื่อสืบหาที่อยู่ของมาเรีย ตอนนี้เธอคิดว่ามันถึงเวลาที่จะต้องเผขิญกับความเป็นจริงซะที
ก่อนหน้านี้เอเลน่าได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าคงจะคิดมากไป ดอกกุหลาบมันอาจจะส่งมาจากคนอื่นก็ได้
และแล้วเอเลน่าก็ตัดสินใจไปถามความจริงกับมาเรียถึงที่บ้าน เมื่อมาเรียพบว่าคนตรงหน้าคือเอเลน่าเธอก็แสดงอาการไม่ค่อยจะยี่หระหรือสะทกสะท้านใดๆ และเมื่อถูกถามถึงกุหลาบเธอก็ยอมรับตรงๆ ว่า เยฟเจนีสามีของเอเลน่าส่งมาให้ พร้อมกับบอกว่าทั้งคู่คบกันมาระยะหนึ่งแล้ว
เอเลน่าถามว่า
..."คบทั้งๆ ที่หล่อนก็รู้ว่าเค้าคือสามีฉันเนี่ยนะ?"...
หากว่าคนปกติทั่วไปตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็คงจะหาวิธีที่จะหลบเลี่ยงไม่ให้เกิดแรงปะทะ แต่นั่นไม่ใช่กับมาเรียเพราะเธอตอบกลับเอเลน่าไปว่า
..."ก็แล้วไงล่ะ? ชั้นก็แค่อยากให้ครอบครัวคุณมีปัญหาอ่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ จะบอกให้เอาบุญละกันว่าชั้นคบกับสามีคุณมา 5 ปีแล้ว"...
พอได้ยินคำตอบที่เฟียสสุดๆ แบบนี้ เอเลน่าซึ่งพกมีดติดตัวมาด้วยก็ใช้มีดจี้เข้าไปที่ตัวของมาเรียแล้วบังคับให้เดินไปที่รถ มาเรียเจอของจริงเข้าก็สงบปากสงบคำด้วยความหวาดกลัว ยอมเดินเข้าไปนั่งที่เบาะหลังแต่โดยดี
ทันทีที่เข้าไปในรถเอเลน่าซึ่งโมโหสุดขีดก็ได้ใช้ผ้าพันคอพันเข้าที่คอของมาเรียจนหมดสติไป อาจจะเป็นเพราะพลังแห่งความโกรธที่ทำให้เอเลน่ามีพละกำลังที่มากขึ้น มันมากซะจนมาเรียก็ไม่สามารถต้านทานไว้ได้เลย
หลังจากที่มาเรียหมดสติเอเลน่าก็ขับรถออกจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 30 นาทีต่อมาเมื่อขับไปถึงนอกเมืองที่มีป่าเธอก็ตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไป
ทุกอย่างเงียบสงบ... ไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้นนอกจากเธอและมาเรีย
หลังจากเวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงครึ่งเอเลน่าก็หงุดหงิดใจเป็นอย่างมากเมื่อพบว่ามาเรียยังไม่เสียชีวิต เธอจัดแจงลากตัวคู่แข่งหัวใจออกมาจากรถแล้ววางไว้ที่พื้น
ด้านมาเรียพอถูกดึงออกจากรถเธอก็ส่งเสียงร้องอย่างแผ่วเบาแต่ก็ยังไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขยับร่างกาย เอเลน่าที่อารมณ์ยังคงคุกรุ่นไปด้วยความโกรธก็ได้ใช้มีดแทงเข้าที่ร่างของมาเรียจนเลือดสาดไปทั่วพื้น
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่เสียชีวิตเอเลน่าก็ได้เอาน้ำมันที่เตรียมมาราดไปตัวของมาเรีย จากนั้นก็จุดไฟเผาร่างทั้งๆ ที่มาเรียยังคงมีชีวิตอยู่
หากว่าเป็นฆาตกรคนอื่นคงจะรีบหลบหนีไปหลังจากก่อเหตุ แต่เอเลน่ากลับเดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันเดียวกันพร้อมกับสารภาพผิด
ข่าวนี้ตกเป็นข่าวใหญ่พาดหัวตามสื่อต่างๆ ของรัสเซีย มันน่าแปลกที่ผู้หญิงสองคนนี้มีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายกันอย่างน่าประหลาด ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างที่สูงโปร่ง และผมสีบลอนด์เหมือนกัน
แม่ของมาเรียได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวของลูกสาวด้วยความเศร้าว่า
..."ที่ผ่านมาฉันพอจะรู้ว่าลูกสาวไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว ฉันไม่เคยเห็นด้วยเลยแต่ว่าเธอรักเค้าฉันก็เลยไม่รู้จะทำยังไง"...
อย่างไรก็ตามต่อมาเอเลน่าได้กลับคำให้การและขอถอนคำรับสารภาพ พร้อมกับอ้างว่า
..."ฉันเครียดมาก จำไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น"...
ข้อมูลต่อมาปรากฎว่า ทาเทียน่าแม่ของเธอเคยเป็นตำรวจสืบสวนก่อนที่จะลาออกมาประกอบอาขีพทนายความ การที่เอเลน่ามาขอถอนคำรับสารภาพในภายหลังเชื่อว่าน่าจะเป็นคำแนะนำจากแม่ของเธอ
เวลาผ่านไป 5 ปีคดีก็ยังไม่คืบหน้าไปไหน แม่ของมาเรียเกิดความไม่พอใจจึงได้ยื่นคำร้องโดยตรงไปที่ประธานาธิบดีปูติน โดยหวังว่าจะเร่งกระบวนการพิพากษาให้เร็วขึ้น ต่อมาก็ได้มีคำสั่งให้ศาลมีการพิจารณาคดีและตัดสินโดยเร็วที่สุด
จากการวิเคราะห์ของสื่อหากเอเลน่าถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง เธออาจถูกตัดสินจำคุก 20 ปี
📌 📌 📌 📌 📌 📌 📌 📌
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรใครถูกหรือใครผิด แต่สิ่งหนึ่งที่เราเรียนรู้ได้จากเรื่องนี้ก็คือ
...สามีของเค้าเราอย่าไปยุ่ง...
ถ้าหากว่าความสุขที่ได้มาจากความทุกข์ของคนอื่น เราคิดว่ามันคงจะไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงหรอก ว่าไหม...?
📌 📌 📌 📌 📌 📌 📌 📌
เรื่องสยองขวัญกับคดีฆาตกรรม
By... ❤️ แอดมิ้นท์ ❤️
ที่มา :
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
