12 ก.ย. 2020 เวลา 12:54 • ครอบครัว & เด็ก
รีวิวนิทานเล่มที่ 2 แม่จ๋า อย่าโมโห Schreimutter
แค่ชื่อแม่ก็สะอึกแล้ว
หนังสือนิทานรางวัลวรรณกรรมเด็กและเยาวชนยอดเยี่ยมจากเยอรมนีในปี 2001 และถูกแปลและตีพิมพ์ไปแล้วหลายภาษาทั่วโลก เพิ่งถูกตีพิมพ์เป็นภาษาไทยครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายนนี้เองค่ะ
เนื้อหามีอยู่ว่า.......
ในเช้าวันหนึ่งเจ้าเพนกวินตัวน้อยทำแม่เพนกวินโมโหมากจนตวาดลูกเสียงดัง
เสียงของแม่ดังมากจนทำให้ชิ้นส่วนของเจ้าลูกเพนกวินน้อยแยกไปเป็นหลายชิ้นตามที่ต่างๆ
ทั้งในป่า ภูเขา ในเมือง หรือแม้แต่ลอยออกนอกโลก
เจ้าเพนกวินน้อยอยากจะออกตามหาชิ้นส่วนของตัวเอง แต่กลับทำไม่ได้เลยเพราะชิ้นส่วนของตัวเองกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ
สุดท้ายเพนกวินน้อยจะทำอย่างไรดี.....
1
ขอหยุดเนื้อหาไว้ที่นี่เพราะอยากให้แม่ๆ พ่อๆ ลองอ่านด้วยตัวเอง นิทานเล่มนี้เป็นนิทานเด็กที่วาดภาพเรียบง่ายมีตัวหนังสือหน้าละ 1-2 บรรทัดเท่านั้น แต่เพียงแค่ประโยคแรกที่อ่านก็ทำเอาแม่อย่างเราน้ำตาคลอ (และลูกก็จะงงว่าแม่ร้องทำไม) และน้ำตาก็ไหลไม่หยุดจนกระทั่งหน้าสุดท้ายที่เหมือนโดนคนเขียนฮุกหมัดเสยคางลงไปนอนนับดาวไปเลยทีเดียว
สาเหตุที่ค่อนข้างอินกับหนังสือเล่มนี้เพราะช่วงต้นโควิดที่ทั้งต้องทำงานที่บ้าน ทำงานบ้าน และยังต้องยุ่งกับการเรียนออนไลน์ของลูกทั้งสองจนแทบไม่มีเวลาพัก มันทำให้แม่ธรรมดาๆ คนนึงอย่างเราเครียดมากและขีดจำกัดความอดทนมันน้อยลงๆ ในทุกๆ วัน หลายครั้งที่อดไม่ได้จนต้องตะคอกลูกๆ ไปวันละหลายรอบ
แม่จ๋า อย่าโมโห เหมือนกับมาสะกิดให้เราฉุกคิดและบอกเราว่าทุกครั้งที่เราดุหรือตะคอกลูก ไม่ใช่แค่น้ำตาลูกที่ไหลเพราะความเสียใจที่ถูกดุ แต่ว่าความเป็นตัวตนและหัวใจดวงน้อยๆ ก็ถูกขยี้ทำให้แตกเป็นเสี่ยงๆ เพราะตัวเราเอง
หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้ให้ลูกฟัง เราก็คิดว่าทางออกของปัญหาคงไม่ใช่แค่ตัวเราระงับอารมณ์ เราสองคนพ่อแม่ก็เลยคุยกับเด็กอายุ 7 ขวบและ 4 ขวบเพื่อหาทางออกว่าเค้าจะช่วยพ่อกับแม่ได้มั้ยว่าทำยังไงไม่ให้โมโหบ่อยๆ ดี
เชื่อมั้ยว่าเด็กๆ รับฟังและเราเข้าใจกันมากขึ้น เราตกลงกันว่าถาเมื่อไหร่ที่พ่อกับแม่เริ่มโมโห เด็กๆ จะเตือนว่า 'หม่าม๊าโมโหแล้ว'
พอได้ฟังประโยคนี้กับตาแป๋วๆ ที่จ้องมองมา มันก็ทำให้เราฉุกคิด และพยายามปรับอารมณ์โมโหให้ลดน้อยลงได้เหมือนกัน
เอ นี่นิทานของลูกหรือของพ่อแม่กันแน่นะ ชักไม่ค่อยแน่ใจแล้วค่ะ 😊

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา