13 ก.ย. 2020 เวลา 07:48 • ประวัติศาสตร์
“มัมมี่ “แมว” ที่ถูกพบในสุสาน
ชาวอียิปต์โบราณนั้นมีความเชื่อและผูกพันกับสัตว์ที่ถูกนำมาทำมัมมี่
เชื่อกันว่าสัตว์เหล่านี้เป็นเสมือนเครื่องบูชาให้เทพเจ้า
การขุดพบมัมมี่ในปัจจุบัน มักจะพบมัมมี่สัตว์ต่างๆ อยู่ด้วย หากแต่การตรวจสอบก็ทำได้ยาก เนื่องจากอายุที่เก่าแก่ อาจจะก่อให้เกิดความเสียหาย
แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี นักโบราณคดีจึงสามารถตรวจสอบมัมมี่เหล่านี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องแตะต้อง โดยการใช้ ซีที สแกน ทำให้สามารถตรวจสอบมัมมี่แมวที่มีอายุมากกว่า 2,500 ปีได้
นักโบราณคดีได้พบมัมมี่แมว ซึ่งภายใน ยังมีอวัยวะของแมวตัวอื่นๆ อีกสามตัวอยู่ภายในมัมมี่นี้
นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคโนโลยีซีที สแกน และสร้างโมเดลสามมิติของมัมมี่แมวที่พบนี้ออกมา
จากการตรวจสอบนั้น พบเศษผ้าม้วนเป็นวงกลมและวางไว้ในบริเวณหัวแมว และยังพบกระดูกขาแมวอีกห้าชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นมาจากแมวคนละตัว เป็นจำนวนสามตัว และมัมมี่ที่พบนี้ยังมีอวัยวะไม่ครบ ขาดอวัยวะอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก
อันที่จริง การตรวจสอบมัมมี่ และพบว่ามัมมี่มีร่างกายที่ไม่ครบนั้นเป็นเรื่องปกติ เคยมีการตรวจสอบหลายครั้งและพบว่ามัมมี่ที่พบนั้นร่างกายไม่สมบูรณ์
แต่การพบมัมมี่แมวที่ไม่สมบูรณ์นี้ ทำให้นักโบราณคดีพยายามคิดหาเหตุผลที่ว่า ทำไมคนโบราณไม่ห่อแมวทั้งตัว แทนที่จะห่อแค่เศษกระดูก
มีทฤษฎีเรื่องนี้ออกมาบ้าง แต่ที่เชื่อกันมากคือความต้องการมัมมี่สัตว์ในสมัยอียิปต์โบราณนั้นมีสูง จึงได้มีพ่อค้าทำการฆ่าสัตว์ และนำมาห่อเป็นมัมมี่ แต่แทนที่จะใช้สัตว์ทั้งตัว ก็ใช้เพียงแค่บางส่วน และห่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้ขายได้ราคาแพง
ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือมัมมี่แมว เนื่องจากเชื่อว่ามีความเกี่ยวพันกับเทพเจ้าอียิปต์
การค้นพบมัมมี่ในครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนการตอกย้ำความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณที่มีต่อแมว
โฆษณา