15 ก.ย. 2020 เวลา 12:27 • ประวัติศาสตร์
“James Cook” กัปตันเรือผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 18
“James Cook” เป็นกัปตันเรือชาวอังกฤษ ผู้สำรวจดินแดนได้กว้างไกลกว่าคนอื่นๆ ในยุคเดียวกัน และในทุกวันนี้ เขาก็ยังคงมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของผู้คน
เขาเกิดในปีค.ศ.1728 (พ.ศ.2271) ที่ยอร์กเชอร์ ประเทศอังกฤษ โดยมีพ่อเป็นคนงานในไร่
ด้วยความที่เกิดมาในช่วงเวลาที่สังคมอังกฤษมีระบบการแบ่งชนชั้นที่เข้มข้น ทำให้ Cook ซึ่งเป็นเพียงลูกของแรงงานในไร่ ดูจะไม่มีอนาคตซักเท่าไรนัก
แต่นับเป็นโชคดีที่ Cook ได้รับการศึกษามาบ้าง และด้วยความที่เขาเก่งคณิตศาสตร์ ทำให้ได้เข้าทำงานเป็นพนักงานร้านค้าในหมู่บ้านชายทะเล ก่อนที่ในเวลาต่อมา เขาจะออกเดินทะเลไปกับกลุ่มพ่อค้า
ขณะเดินทางบนเรือ Cook ได้เรียนเรื่องการเดินเรือ และดาราศาสตร์ และด้วยความเก่งกาจของเขา ทำให้เขามีแววจะเป็นกัปตันเรือที่มีความสามารถได้
ค.ศ.1755 (พ.ศ.2298) Cook ได้เข้าเป็นลูกเรือในกองทัพเรือ และด้วยความสามารถ ทำให้เขาได้เป็นผู้บังคับการเรือในเวลาไม่นาน
Cook ได้แสดงความสามารถเป็นที่ประจักษ์ ในคราวของสงครามระหว่างฝรั่งเศสและอินเดียในปีค.ศ.1759 (พ.ศ.2302) เมื่อเขาได้ทำการสำรวจและทำแผนที่ ซึ่งแผนที่ของเขาก็ทำให้กองทัพอังกฤษได้รับชัยชนะ
ต่อมา ค.ศ.1766 (พ.ศ.2309) Cook ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำเรือไปยังตาฮิติ เพื่อทำการสังเกตการณ์ปรากฎการณ์โคจรของดาวศุกร์ ซึ่งกำลังจะมาถึงในปีค.ศ.1769 (พ.ศ.2312) ซึ่งตลอด 400 ปีที่ผ่านมา เคยมีปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงเจ็ดครั้งเท่านั้น
Cook ซึ่งในเวลานี้ได้เป็นกัปตันเรือแล้ว เป็นผู้บัญชาการเรือ “HMS Endeavour” ซึ่งมีลูกเรือ 94 คน รวมทั้งทีมนักวิทยาศาสตร์อีกจำนวนหนึ่ง
HMS Endeavour
ก่อนจะออกเดินทาง ทางกองทัพเรืออังกฤษได้มอบคำสั่งลับซึ่งใส่ไว้ในกล่องที่ปิดแน่นหนา และสั่งให้ Cook เปิดออกอ่านเมื่อสังเกตการณ์การโคจรของดาวศุกร์สำเร็จเรียบร้อย
เรือของ Cook ออกเดินทางในปีค.ศ.1768 (พ.ศ.2311) และใช้เวลาถึงแปดเดือนจึงเดินทางถึงตาฮิติ
ในช่วงเวลานั้น ปัญหาหนักที่ Cook เจอ คือปัญหาสุขภาพของเหล่าลูกเรือ เนื่องจากลูกเรือจำนวนมากป่วยเป็นโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดวิตามินซี Cook จึงได้ทำการทดลอง โดยให้ลูกเรือได้ลองกินอาหารแต่ละอย่างที่เขาคิดว่าน่าจะช่วยได้
นอกจากนั้น Cook ยังสั่งให้รวบรวมผักใบเขียวที่พบตามดินแดนต่างๆ ที่เรือของเขาแวะจอด เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ที่เดินทางมาด้วยได้แนะนำเขา และก็ได้ผล ลูกเรือของเขาเกือบทั้งหมดล้วนแต่ปลอดโรคลักปิดลักเปิด
เรือของ Cook มาถึงตาฮิติในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ.1769 (พ.ศ.2312) และคณะของ Cook ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากชาวพื้นเมือง และในวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ.1769 (พ.ศ.2312) ก็ได้เกิดปรากฎการณ์การโคจรของดาวศุกร์ตามที่นักวิทยาศาสตร์ได้คำนวนไว้
เมื่อได้สังเกตปรากฎการณ์โคจรของดาวศุกร์เสร็จเรียบร้อย Cook จึงได้เปิดกล่องที่บรรจุคำสั่งลับของกองทัพเรือ
คำสั่งคือ “ตามหา Terra Australis Incognita”
“Terra Australis Incognita” เป็นภาษาละตินที่แปลว่า “ดินแดนทางใต้ที่ยังไม่ค้นพบ”
ดินแดนที่ว่านี้เป็นที่ร่ำลือกันมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ และในยุคศตวรรษที่ 18 ประเทศต่างๆ ในยุโรปต่างก็แข่งกันล่าอาณานิคม และอังกฤษก็สนใจที่จะตามหาดินแดนแห่งนี้ หากแต่ไม่ต้องการให้ประเทศอื่นรู้ จึงเอาเรื่องการสังเกตการณ์โคจรของดาวศุกร์มาบังหน้า แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงคือการตามหา Terra Australis Incognita
Cook จึงได้ล่องเรือไปทางใต้ ก่อนจะไปทางตะวันตกและพบกับนิวซีแลนด์ ซึ่งคณะของ Cook ก็ได้พบและปะทะกับชนพื้นเมืองเมารี
Cook ได้ล่องเรือรอบๆ นิวซีแลนด์และพิสูจน์ว่านิวซีแลนด์ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของทวีปใหญ่แห่งไหน
ในการเดินทางนี้ Cook ได้ทำการสำรวจชายฝั่งทางตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบริเวณที่ยังไม่เคยมีใครสำรวจมาก่อน
Cook ได้ล่องเรือกลับอังกฤษพร้อมอุปสรรคระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นการที่เรือเกิดไปชนกับแนวปะการังจนเรือเป็นรู ทำให้ต้องแวะพักที่ออสเตรเลียเพื่อซ่อมเรือ และระหว่างทางกลับ ลูกเรือก็ป่วยตายด้วยโรคมาลาเรียและโรคบิด ทำให้เมื่อ Cook กลับมาถึงอังกฤษในปีค.ศ.1771 (พ.ศ.2314) ได้มีลูกเรือจำนวนหนึ่งป่วยตายไปแล้ว
การเดินทางนี้ทำให้ Cook ได้รับความดีความชอบ ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการ และได้รับคำสั่งให้เป็นผู้นำในการสำรวจ Terra Australis Incognita อีกครั้ง คราวนี้เพื่อพิสูจน์ให้รู้ชัดไปเลยว่าดินแดนนี้มีจริงหรือไม่
Cook ได้เป็นผู้นำเรือสองลำออกสำรวจ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ก็ล้มเหลว เรือของพวกเขาถูกพวกเมารีโจมตี และเรือลำหนึ่งก็ตัดสินใจกลับอังกฤษ
เมื่อสำรวจหลายดินแดน Cook ก็ได้สรุปว่า Terra Australis Incognita ไม่มีอยู่จริง และได้เดินทางกลับอังกฤษ
Cook กลับถึงอังกฤษในปีค.ศ.1775 (พ.ศ.2318) และคราวนี้ เขาก็ได้รับคำสั่งให้ออกทะเลอีกครั้ง คราวนี้คือการสำรวจเส้นทางออกสู่แปซิฟิกผ่านอเมริกาเหนือ โดยเขาต้องสำรวจอ่าวทางตะวันตกเฉียงเหนือรอบๆ อเมริกา
1
แต่ Cook ซึ่งต้องออกทะเลเกือบจะทั้งชีวิต เริ่มจะเปลี่ยนเป็นคนละคน เขากลายเป็นคนอารมณ์ร้อนและใช้ความรุนแรงต่อคนพื้นเมือง
เมื่อสำรวจอย่างถี่ถ้วน Cook ได้สรุปว่าไม่มีทางออกสู่แปซิฟิก และในการเดินทางครั้งนี้เอง คณะของ Cook ได้มาแวะที่ฮาวาย ซึ่งในทีแรก ความสัมพันธ์ของ Cook กับชาวเผ่าพื้นเมืองของฮาวายก็เป็นไปด้วยดี ก่อนที่จะมีการปะทะกัน และ Cook ก็เสียชีวิตจากการถูกแทงในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1779 (พ.ศ.2322) ด้วยวัย 50 ปี
และจนถึงวันนี้ ถึงจะเสียชีวิตมานานกว่า 200 ปี แต่ชื่อของ “James Cook” ก็ยังคงเป็นที่รู้จัก ในฐานะของนักสำรวจผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของอังกฤษ
โฆษณา