15 ก.ย. 2020 เวลา 12:56 • ประวัติศาสตร์
“รุ่งขึ้นวันที่ 24 เจ้าพระยารามราฆพเข้าไปกราบบังคมทูลขณะที่มีสติดีว่าพระนางเจ้าสุวัทนาจะประสูติวันนี้ก็ทรงกระวนกระวายพระทัย พอทรงได้ยินปืนเที่ยง ทรงดีพระราชหฤทัยจนถึงทรงยิ้มเพราะทรงมีพระราชดำรัสสั่งว่า ถ้าประสูติเจ้าฟ้าชาย ให้มีการยิงปืนถวายคำนับ พอเจ้าพระยารามราฆพกราบทูลว่าไม่ใช่ ก็ทรงนิ่งไปอีกจนบ่าย เจ้าพระยารามราฆพเข้าไปกราบบังคมทูลว่าประสูติแล้วเป็นเจ้าฟ้าหญิง ทรงหลับพระเนตรและรับสั่งด้วยพระสุรเสียงอันแผ่วเบาว่า “ก็ดีเหมือนกัน” แล้วทรงแน่นิ่งอยู่ตลอดมา
วันที่ 25 กลางวันเจ้าคุณพระประยูรวงศ์เชิญสมเด็จเจ้าฟ้าพระราชธิดาบรรทมพระยี่ภู่เข้าไปถวาย ทรงเอื้อมพระหัตถ์คล้ายๆ กับจะทรงจับ แล้วก็ทรงชักกลับ ทุกคนที่อยู่ในที่นั่นสุดจะกลั้นความโศกาดูรได้ เจ้าคุณพระประยูรวงศ์เชิญเจ้าฟ้าพระราชธิดากลับ ตั้งแต่นั้นก็ส่งสลบแน่นิ่ง หายพระราชหฤทัยรวยๆ มีพลตรีพยาวิบูลอายุรเวช นั่งถวายตรวจชีพจรอยู่ตลอดเวลา จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2468* เสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ภายในพระมหามณเฑียรในพระมหาบรมมหาราชวัง”
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เสด็จสวรรคตเมื่อเวลา 01.45 น. ของเช้าวันที่ 26 พฤศจิกายน 2468 แต่ประเพณีไทยถือว่ายังเป็นวันที่ 25 พฤศจิกายน จึงจัดงานวันคล้ายวันสวรรคตในวันที่ 25 พฤศจิกายน ของทุกปี
น้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต
จากบันทึกของ จมื่นมานิตย์นเรศร (เฉลิม เศวตนันทน์) เรื่อง รัชกาลที่ 6 สวรรคต
พระบรมฉายาลักษณ์ลงสี พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
ลงสีโดย เซบัสเตียน พีท

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา