16 ก.ย. 2020 เวลา 13:35
#จันทร์เจ้าขาบทที่4ตอนที่4,
(15/9/2020)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
ขออนุญาตส่งจันทร์เจ้าขา ตอนล่าสุด ให้เพื่อนๆได้อ่านกันให้เพลิดเพลิน ในคืนวันพุธนี้นะครับ 😇💚💚💚
สุขสันต์วันพุธครับ
..
..
บทที่ 4 ขจรมาลา
ตอนที่ 4 คีรีการเวก
#ณ.บริเวณงานเลี้ยงหน้าตำหนักในเขตพระนคร
“ 🎵🎶 ครั้นล่วงเข้ายามดึกสงัด ..🎵🎶 สงบเงียบเสียงสัตว์ทุกภาษา..🎶🎵...”
..
..
คุณพีระเงี่ยหูฟัง เสียงร้องประสาน ที่ดังแว่วมา อย่างตั้งใจ และพยายามมองหาที่มาของเสียงนั้น..
“ เอ.. เสียงเพลงบุหลันลอยเลื่อน.. นี้มาจากที่ใด กันนะขอรับ..หรือจะมาจากตำหนักอื่น..
อันนี้ก็ไม่น่าจะใช่..เพราะเสียงร้องประสานอ้อแอ้.. อย่างนี้ .. ช่างดังเหมือนอยู่ใกล้ๆนี้เอง...อืมมม...”
คุณพีระรำพึงกับตัวเอง และค่อยๆ เริ่มเดินตรวจ สำรวจในจุดต่างๆ ของงานเลี้ยงอย่างละเอียด..
..
..
“🎵🎶วังเวงวิเวกวิญญาณ์”
จนในที่สุดคุณพีระ ก็มาถึงจุดที่เสียงร้องเพลงเล็ดลอดออกมา..ตรงบริเวณปะรำพิธี การแสดง ที่มีถังบาร์เรลใส่ไวน์ที่รอการขนย้ายตั้งกองเรียงกันอยู่..
“ครืดดดด!!..”
“ครืดดดด!!..”
คุณพีระขยับถังบาร์เรลสองถังให้เลื่อนออก ..
ทันใดนั้น..ตาคุณพีระก็เหลือบเห็นภาพคุณไกรสรกำลังหลับตา..
นั่งยืดขาอยู่กับพื้น..หลังพิงอยู่ถังไวน์ แล้ว ยกมือขยับทำท่ารำตามจังหวะเพลง ที่คุณหนูน้อยซ์ร้อง..อย่างน่าเอ็นดู..
“..🎶พระนิทราหลับไปในราตรี๊รี๊รี๊ 🎵🎶..”
คุณหนูน้อยร้องท่อนสุดท้ายลากเสียงยาวเสียงสูง
โอเปร่าปิดจบ.. และชูแก้วน้ำใบเตย..หันไปชนแก้ว กับคุณไกรสร..
ที่ตอนนี้ เอนนอนคว่ำ อยู่กับพื้น..หลับไหล ไม่ได้สติ..
“โอ้โฮ.. กว่าจะ..พระนิทราหลับไปในราตรี๊ได้..
ทำเอาพุงของหนูน้อยซ์จิแตกเอาเลยนะเจ้าคะ..”
คุณหนูน้อยพูดกับตัวเอง แล้ววางแก้วใบเตยลงบนถังบาร์เรล.. พลางถอนหายใจอย่างโล่งอก..
คุณพีระ หัวเราะพรืด กับท่าทางคุณหนูน้อยซ์ และคุณไกรสรที่ถูกข้าหลวงฝ่ายใต้..มอมจนสลบไสลไม่ได้สติเช่นนี้..
“..ไม่ธรรมดาเลยนะขอรับ คุณหนูน้อยซ์..ที่ทำเอาซะพี่มหาดเล็กไกรสรของกระผม..เมาล้มเช่นนี้ได้..
ฮะฮะฮะ..
นี่กระมังขอรับ..ที่เค้าเรียกว่า เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของข้าหลวงหญิงตำหนักเสด็จฯท่าน..ที่ไม่เหมือนตำหนักใด..”
คุณพีระ เอ่ยทักคุณหนูน้อยอย่างอารมณ์ดี..
“ฮาโรย.. คุณพีระเจ้าขา..
ถ้าแก้วนี้ คุณไกรสรยังไม่ล้มคว่ำ.. บอกเลยว่า..
หนูน้อย..พุงระเบิด แน่ๆเจ้าค่ะ..”
คุณหนูน้อยซ์ตอบพลางยิ้มตาหยีแบบเดียวกันกับคุณหนูพา.. และขยับแว่นครั้งนึง.. ก่อนที่จะเอ่ยขอร้องคุณพีระว่า..
“คุณพีระเจ้าคะ.. หนูน้อยซ์อยากขอให้คุณพีระ ช่วยประคองพาคุณไกรสรกลับไปยังเรือนมหาดเล็ก ได้หรือไม่เจ้าคะ..
พอดี คุณหนูน้อยซ์รู้สึกเป็นห่วงหนูพามากเจ้าค่ะ..
คุณหนูพาแอบเข้าไปค้นห้องคุณไกรสร จนป่านนี้
ก็ไม่รู้จะเป็นเช่นไรบ้างแล้ว
รบกวนคุณพีระ ด้วยนะเจ้าคะ..”
คุณหนูน้อยซ์พูด..พลางยกมือไหว้สวยงามขอร้องคุณพีระ..
“ว่ายังไงนะขอรับ คุณหนูน้อยซ์.. คุณหนูพา บุกขึ้นเรือนมหาดเล็กในยามวิกาล เพื่อรื้อค้น ห้องพี่ไกรสร หรือขอรับ..”
น้ำเสียงของคุณพีระ ที่ถามคุณหนูน้อยซ์.. เปลี่ยนมาเป็นเสียงเข้ม..แต่เจือด้วยความกังวล และเป็นห่วงคุณหนูพาอย่างยิ่ง..
“ใช่เจ้าค่ะ.. แต่เรารีบไปกันก่อน เถิดนะเจ้าคะ.. แล้วค่อยให้คุณหนูพามาอธิบายคุณพีระเอง นะเจ้าคะ..”
คุณหนูน้อยพูดตอบคุณพีระ ด้วยน้ำเสียงกังวล และสายตาเว้าวอน..
คุณพีระ พยักหน้าตอบ แล้วจึงขยับเข้าไปใกล้คุณไกรสร และช้อนตัวประคองคุณไกรสรขึ้นพาดบ่า..
จากนั้น จึงรีบเดินขึ้นนำคุณหนูน้อยซ์ ..มุ่งไปยังเรือนมหาดเล็ก..
..
..
..
#ณ.เรือนพักมหาดเล็กหน้าห้องคุณไกรสร
เมื่อถึงเรือนมหาดเล็ก บริเวณหน้าห้องของคุณไกรสร ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือ ประตูห้องคุณไกรสร คล้องกุญแจแน่นหนา
“ใครเป็นผู้มาทำเช่นนี้ นะเจ้าคะ.. ตอนนั้นคุณไกรสรเพียงปิดประตูไว้เฉยๆ ไม่มีแม่กุญแจคล้องไว้เช่นนี้ เจ้าค่ะ..”
คุณหนูน้อยซ์หันมาพูดคุณกับพีระ ด้วยความสงสัยในภาพที่ปรากฏ..
“ถ้าเช่นนั้น เราคงต้องรอให้พี่ไกรสร ฟื้นได้สติก่อน กระมัง ขอรับ..” คุณพีระพูดกับคุณหนูน้อยซ์ พลางจะวางคุณไกรสรลงจากบ่า
“ไม่ได้นะเจ้าคะ.. อย่าเพิ่งวางคุณไกรสร นะเจ้าคะ..
เดี๋ยวหนูน้อยซ์ไปเปิดให้เจ้าค่ะ.. แต่คุณพีระ อย่าบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาดนะเจ้าคะ..”
คุณหนูน้อยซ์เอ่ยห้ามคุณพีระ แล้วจึงวิ่งไปที่ประตู.. หยิบลวดมัดผมออกมาดัดอย่างชำนาญ..แล้วจึงเริ่มพิธีการสะเดาะกุญแจ..
“แกร๊กๆ แกร๊กๆ”
“แกรกๆ....คลิ๊ก..” คุณหนูน้อยซ์เผลอยิ้มสนุกออกมา เมื่อการสะเดาะกุญแจสำเร็จอย่างรวดเร็ว..จากนั้นจึงหันมาทางคุณพีระ แล้วเอ่ยกระซิบกระซาบว่า..
“(เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ.. ขอเชิญคุณพีระ เจ้าค่ะ)”
คุณพีระขยับร่างคุณไกรสรบนบ่าให้กระชับ แล้วจึงเดินไปหาคุณหนูน้อยซ์ พร้อมกับเอ่ยว่า..
“คุณหนูพามีความสามารถแปลกๆ ก็หลายอย่าง..
คราวนี้ เพื่อนรักคุณหนูพา ก็ได้แสดงความสามารถดื่มน้ำใบเตยหมดสองไห.. และทำพิธีสะเดาะกุญแจอีกด้วย..สงสัย กระผมคงต้องขอมาเรียนรู้ในวิชาเหล่านี้ กับคุณหนูพา และคุณหนูน้อยซ์ บ้างแล้วขอรับ..”
คุณหนูน้อยซ์ หัวเราะแหะๆ
กับคุณพีระ แล้วจึงหันไปเปิดประตูห้องคุณไกรสร..
..
..
..
ภาพที่ปรากฏในห้องนั้น..
คล้ายว่า ห้องนี้ได้มีพายุ หรือ ลมกรรโชกแรง พัดวนเวียนหมุนผ่าน ทำให้ สิ่งของต่างๆ ตกล้มระเนระนาด..เหลือแต่เพียงตู้ใหญ่ และโกศที่ตั้งเท่านั้น.. ที่ยังคงตั้งอยู่ได้มั่นคงอย่างน่าประหลาด..
คุณพีระ ค่อยๆวางร่างคุณไกรสรลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง.. แล้วจึงเดินไปหยิบขนนก ที่กระจัด
กระจายทั่วห้อง ขึ้นมาพินิจพิจารณา แล้วพูดกับตัวเองว่า..
“ ช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก..
เหตุใดจึงมีขนนกการเวก (ปักษาวายุภักษ์) มากมายหล่นอยู่เต็มห้องพี่ไกรสร ได้เช่นนี้..กันนะขอรับ ”
..
..
..
#ณ.โลกวิญญาณไม่ไกลจากประตูบริเวณป่าช้าเก่าเวียงกุมกามเมืองเชียงใหม่อำเภอยางเนิ้ง(อ.สารภี)
พระวัยทัต ได้เอ่ยพระคาถา คลายมนตรา นะจังงังของคุณหลวง ให้เจ้าน้อยพรหม
แล้วจึงประกาศสั่งห้ามเจ้าน้อยพรหม และหม่องบองด้วยสิทธิอำนาจว่า..
“หากเจ้าทั้งสอง ยังจะกระทำการบังอาจต่อหน้าลานพิพากษาแห่งนี้อีก.. ข้าพระวัยทัตผู้นี้ จะส่งเจ้าทั้งสองให้ลงไปในขุมนรกอเวจี..”
จากนั้น พระวัยทัต จึงแกะซากศีรษะแห้งเล็กตรงบริเวณหัวไม้เท้า หลุดออกมาสองหัว.. แล้วโยนไปให้ เจ้าน้อยพรหม และ หม่องบอง..
ศีรษะแห้งเล็กนั้น ค่อยๆกลิ้งหมุนไปบนพื้น เข้าไปหาร่างทั้งสอง..ศีรษะนั้น ก็ค่อยๆขยายขนาดขึ้น และดูเหมือนว่า จะดูดพลังชีวิตจากพื้นพสุธา จนผิวหนังที่ซีดแห้งนั้น ค่อยๆฟู..เต็มขึ้นเป็นเนื้อหนังคนปกติ..และ ในที่สุด ก็เปลี่ยนรูปร่าง หน้าตากลายเป็นศีรษะของหม่องบอง และศีรษะของเจ้าน้อยพรหม..
และในขณะเดียวกันนั้น ที่หัวไม้เท้าของพระวัยทัต ก็มีศีรษะแห้งเล็ก ค่อยๆงอกโผล่ขึ้นมาแทนศีรษะแห้งสองหัวที่ถูกแกะออกไป..อย่างน่าอัศจรรย์..
“จงหยิบศีรษะบนพื้น ของเจ้าทั้งสอง ขึ้นมาต่อให้สมบูรณ์เถิด..”
พระวัยทัต เอ่ยสั่งด้วยเสียงอันดังที่เปล่งออกมาด้วยสิทธิอำนาจอีกครั้ง.. จนเกิดลมวูบหนึ่งพัดผ่าน บริเวณหน้าลานพิพากษา..
ร่างไร้ศีรษะของเจ้าน้อยพรหม จึงหยิบศีรษะนั้นขึ้นมาต่อในทันที..
แต่ในขณะที่ หม่องบองค่อยๆวางร่างของเจ้าอุบลวรรณา อย่างทะนุถนอม บนลานพิพากษา..แล้วจึงค่อยหยิบศีรษะขึ้นมาต่อ..
“เจ้าตุ้ย ของข้าเจ้า บัวตอง”
ผีนางบัวตองเอ่ย เรียกเจ้าน้อยพรหม ด้วยเสียงสั่นพร่า..แผ่วเบา..อย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง..
เจ้าน้อยพรหม หันมามองผีนางบัวตอง แล้วพยักหน้ายิ้มรับ..
จากนั้นจึงหันกลับไปมองเจ้าอุบลวรรณาด้วยสายตาอาฆาตแค้น..
..
..
“เจ้านางของหม่องบอง”
หม่องบองลูบใบหน้างามเรียกชื่อ หญิงที่รัก อยู่สองสามครั้ง..
เจ้าอุบลวรรณาจึงได้คืนสติ และค่อยๆลืมตาขึ้นมามองหน้าหม่องบอง..
น้ำตาของเจ้าอุบลวรรณาจึงค่อยๆ รินไหล ลงมาเปื้อนอาบแก้มงามคู่นั้น.. สายตาของทั้งสองต่างจ้องมองกัน โดยปราศจากคำสนทนาใดๆ..
หม่องบองดึงเจ้าอุบล
วรรณาเข้ามาสวมกอด..
พร้อมๆกับแขนเจ้าอุบลวรรณที่ค่อยๆสวมโอบกอดชายผู้เป็นที่รักแน่น..ราวกับจะมิยอมให้ผู้ใดมาพรากได้อีก..
“หากภาพนี้ คือ ฝัน คือจินตนา..ข้าเจ้า ก็หม่ะอยากจะตื่นอีกแล้วน่ะเจ้า.. หม่องบอง”
เจ้าอุบลวรรณาหลับตาลงร้องไห้ สะอื้นตัวโยนในอ้อมกอดนั้น..ขณะที่ หม่องบองก้มลงจุมพิตเบาๆ และเอามือลูบศีรษะเบาๆ ปลอบหญิงผู้เป็นที่รัก..
ภาพความรักและการกลับมาพบกันอีกครั้ง ของทั้งคู่
ทำให้คุณหนูฆฤณ องค์แม่ และคุณหนูดี ต้องแอบเช็ดน้ำตาให้กับความรักของทั้งสอง..
..
..
“ขอจงเชิญ เจ้าน้อยพรหมขึ้นให้การ ณ.บัดนี้..”
สิ้นเสียงประกาศของย่าสังไส้ ..ยักษ์บริวารก็เดินเข้าประกบเจ้าน้อยพรหม พาขึ้นให้การ ต่อหน้าคณะลูกขุน และพระวัยทัต..
..
..
..
#ณ.มหาสีทันดรช่วงบริเวณระหว่างสุทัศน์บรรพตและคีรีการเวก
“ คุณหนูพาขอรับ..คุณหนูพาขอรับ.. เรากำลังจะเข้าสู่พายุวาตโมหะ แห่งมหาสีทันดรกันแล้ว นะขอรับ”
โหงพราย สะกิดแก้ม และเปลือกตา เพื่อปลุก คุณหนูพา ..
“ครูฉ๊อย เจ้าขา..วันนี้หนูพาป่วยเจ้าค่ะ .. หนูพาลืมตาไม่ขึ้นจริงๆ เจ้าค่ะ..” คุณหนูพาหลับตา สะลึมสะลือพูดตอบ..
โหงพรายค่อยๆปีนย้าย มากระซิบข้างหู แปลงเสียงว่า..
” ขอให้นำเป็ดนี้ ไปแกงที่ท่าน้ำ แล้วเอาปลายิ้มแป้น ตัวนั้น มาชุบขมิ้นทอด ให้เหลืองกรอบ “ ..
“ แล้วให้จิ้มดูว่า ปลานั้นกรอบ ได้ที่รึยัง ?”
แล้วโหงพรายจึงจิ้มนิ้วรากไม้นั้นจี้จักกะจี๋คอคุณหนูพา
หนูพาหัวเราะร่วน และดิ้นไปมาเหมือนปลาแป้น ที่เพิ่งถูกจับขึ้นมาบนบก..
“ฮะฮะหนูพายอมแล้ว เจ้าค่ะ”.. “ฮะฮะฮะ ยอมจริงๆแล้ว เจ้าค่ะ..”
หนูพาพูดพลางหัวเราะลั่น จนลืมตาตื่นขึ้น..ทั้งๆที่ยังหัวเราะอยู่..
โหงพราย นั่งยิ้มแป้น รออยู่ตรงหน้าคุณหนูพา แล้วเอ่ยเตือนอีกครั้งว่า..
“คุณหนูพาขอรับ.. เรากำลังจะเผชิญพายุวาตโมหะในทะเลสีทันดร ก่อนจะเข้าเขตคีรีการเวก.. แล้วขอรับ
ขอคุณหนูพาจงรีบนำตะเกียงมาถือแนบตัว.. ใช้ไฟวิญญาณจากคุณหนูพา หล่อเลี้ยงเชื้อไฟไม่ให้ตะเกียงนี้ดับลง.. พร้อมกับหาที่ยึดจับไว้ให้แน่น เถิดขอรับ..”
คุณหนูพาพยักหน้ายิ้มรับให้โหงพราย แล้วรีบทำ
ตามอย่างรวดเร็ว..
..
..
เบื้องหน้าของหนูพาในขณะนี้ คือ มหาพายุวาตโมหะ ที่พัดวนเหนือ มหาสีทันดร
โดยมีเหล่าฝูงปักษาวายุภักษ์ บินโฉบวน กินมวลอากาศของพายุเป็นอาหาร..ขณะที่ปักษาวายุภักษ์บางตนก็บินมาใกล้เพื่อมาดูหนูพา นางเมขลาที่นั่งอยู่บนนั้น ก็หันหน้ามาส่งยิ้มให้คุณหนูพา.. แล้วจึงบินจากไป..
และเบื้องล่างบริเวณเหนือพื้นน้ำ ฝูงครุฑ ก็กำลังฉุดยื้อยุดต่อสู้จับพญานาคกินเป็นอาหารกันวุ่นวาย..
“ยึดไว้ให้แน่น แล้วหลับตาไว้ นะขอรับคุณหนูพา..เรากำลังเข้าสู่มหาพายุแล้วนะขอรับ..”
โหงพรายเอ่ยเตือนอีกครั้ง ก่อนที่เสี้ยววินาทีนั้น ..ปักษาวายุภักษ์จะบินเฉียงตัดเข้าสู่แกนกลางของมหาพายุวาตโมหะ..
..
..
“วู้วๆ ..วิ้วๆ..ฮิฮิฮิ..”
เสียงลมหวีดหวิว ดังชัดอยู่รอบตัวคุณหนูพา..
พร้อมกับเสียงหัวเราะ ที่แทรกดังแว่วอยู่เป็นระยะๆ ทำให้คุณหนูพา รู้สึกอยากรู้อยากเห็นเป็นที่สุด..
และเมื่อคุณหนูพา ตั้งใจฟังเสียงนั้น..เสียงลมพายุกลับค่อยๆเบาลง และเสียงหัวเราะนั้น กลับยิ่งดังชัดเจนยิ่งขึ้น..
“ฮะฮะฮะ..ลืมตาเจ้าได้แล้วพาริส..ฮะฮะฮะ”
คุณหนูพา ไม่สามารถทนเสียงเรียกอันเย้ายวนนั้นได้ จนต้องลืมตาขึ้นมามอง..
และภาพที่คุณหนูพาเห็นในพายุวาตโมหะนั้น..ช่างเหมือนราวกับภาพฝัน ที่มีหนูพาร่วมอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ..
ภาพเหล่านางเมขลาฝึกหัดทั้งหลาย..กำลังนั่งอยู่บนปักษาวายุภักษ์ บินฉวัดเฉวียน โฉบแย่ง ลูกแก้วมณีจันทรา..อยู่รอบๆ คุณหนูพา..
“พาริส..รับลูกแก้วให้ดีนะเจ้าคะ..” นางมณีเมขลาฝึกหัด ที่หน้าตาเหมือน คุณหนูน้อยซ์ เอ่ยเตือน ก่อนจะขว้าง ลูกแก้วมณีจันทราเข้าใส่คุณหนูพา..
“โป๊ก!!!!..” ลูกแก้วกระทบศีรษะคุณหนูพา อย่างจัง..จนคุณหนูพาหน้าหงายเสียหลัก..จนตะเกียงไฟวิญญาณเกือบจะหลุดจากมือ..
“ทำไม ภาพนิมิตในพายุวาตโมหะ..ช่างสมจริงเช่นนี้ กันนะเจ้าคะ..”
หนูพาลูบศีรษะ ที่ค่อยๆโนปูดขึ้นช้าๆ อีกครั้ง..แล้วโน้มตัวกอดปักษาวายุ ที่ตอนนี้กำลังบินเฉียงตัดขึ้นเพื่อออกจากมหาพายุ เพื่อเข้าสู่ “คีรีการเวก..”
..
..
..
จบบทที่ 4 ตอนที่ 4
#เกร็ดเพิ่มเติม
#นางเมขลา
เมขลา หรือ มณีเมขลา เป็นเทพธิดาประจำทะเล และเป็นนางผู้ถือดวงแก้วล่อให้รามสูรขว้างขวานจนทำให้เกิดฟ้าร้อง แต่นางก็โยนแก้วล่อไปล่อมาทำให้เกิดฟ้าแลบแสบตา ทั้งนี้ท้าวโลกบาลทั้งสี่ได้มอบหมายให้คอยช่วยเหลือผู้มีบุญญาที่ตกน้ำ โดยปรากฏในชาดกเรื่อง พระมหาชนก ซึ่งเมขลาเข้าช่วยเหลือเจ้าชายมหาชนกจากเรืออัปปางและปรากฏใน สมุทรโฆษคำฉันท์ ฉบับสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ก็มีการกล่าวถึงเมขลาเข้าช่วยพระสมุทรโฆษที่ลอยคออยู่กลางทะเลเจ็ดวัน
1
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงเรื่องจันทร์เจ้าขา
(T.Mon)
16/9/2020

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา