วันหนึ่ง.. พ่อถามฉันว่าระหว่างการเป็นคนมีทุกสิ่งอย่าง กับการเป็นคนที่มีความสุข ฉันอยากเป็นสิ่งไหนมากกว่ากัน ? ตอนนั้นฉันไม่ค่อยเข้าใจคำถามของพ่อเท่าไหร่..
แต่ฉันก็ยิ้มตาหยี แล้วเลือกตอบพ่อกลับไปว่า.. หนูอยากเป็นคนที่มีความสุขค่ะพ่อ พ่อยิ้มเบาๆ แล้วพูดขึ้นว่า "การเป็นคนที่มีทุกสิ่งอย่างก็ไม่ได้หมายความว่า
ลูกจะเป็นคนที่มีความสุขได้หรอกนะลูก และการที่ลูกจะเป็นคนที่มีความสุขได้นั้น.. ลูกก็ไม่จำเป็นต้องมีทุกสิ่งอย่าง ลูกก็มีความสุขได้เหมือนกัน.."
คำพ่อสอน
☺︎ ไม่ซื้อของที่อยากได้แต่ซื้อของที่จำเป็น
พ่อสอนฉันเสมอว่าบ้านเราจนนะ บ้านเราไม่ได้มีทุกอย่างที่เราต้องการ และก็มีอีกตั้งหลายอย่างที่บ้านเราไม่ได้มี เหมือนอย่างที่บ้านใครคนอื่นเค้ามีกัน ฉันมักจะได้ยินพ่อพูดเปรย กับทุกคนในครอบครัวอยู่บ่อยครั้ง ว่าไม่ต้องไปอยากได้อยากมี เหมือนอย่างใครคนอื่นเค้าหรอก เพราะเท่าที่เรามีอยู่ตอนนี้ เราก็มีความสุขดีอยู่แล้วไม่ใช่หรอ..
พ่อบอกว่าพ่อรู้ว่าในสิ่งที่พ่อพูด มันอาจจะทำให้ทุกคนที่ได้ฟัง รู้สึกทำใจยอมรับกับมันได้ยาก แต่พ่อได้บอกต่อไปว่ามันก็ยังจะดีกว่า ที่ปล่อยให้เราขวนขวายซื้อทุกสิ่งอย่าง ที่อยากจะได้อยากจะมีแล้วต้องมานั่งทุกข์ใจทีหลัง ถ้าใครที่เค้าพอมีกำลังซื้อก็แล้วไป แต่ถ้าใครที่ไม่พอมีกำลังซื้อ ก็ต้องขวนขวายให้ได้มันมาอีก
บางที.. ก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมา ให้ต้องเป็นทุกข์ทีหลังบางที.. ซื้อมาก็แทบจะไม่ได้หยิบมาใช้ ให้สมกับที่คิดเอาไว้ว่าก่อนนั้นมันเป็นสิ่งของจำเป็น ที่จะต้องซื้อมาเลยเสียด้วยซ้ำ
พ่อบอกเอาไว้ว่าเวลาซื้อของ สิ่งของไหนที่อยากได้ให้เราเลือกซื้อ สิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ก่อน ฉันเคยเเย้งถามพ่อว่า แล้วถ้ามันจำเป็นไปซะทุกอย่างเลยล่ะคะพ่อ?
พ่อบอกว่าถ้างั้นให้เราเลือกเรียงลำดับ หนึ่ง สอง สาม ไล่ลงมา แล้วเลือกซื้อของที่สำคัญที่สุดที่อยู่ด้านบนก่อน พิจารณาตามหลักเหตุและผลที่ควรมี สิ่งไหนรอได้ก็ให้รอก่อนเอาไว้ท้ายๆ สิ่งไหนที่สำคัญ จำเป็นจะต้องใช้ก็ค่อยซื้อสิ่งนั้น พ่อบอกเสมอว่าเรายังจนเราไม่มีเงินที่จะไปใช้ฟุ่มเฟือยได้มากเกินไป แต่เราก็มีความสุขได้นะ
มีความสุขอยู่กับสิ่งที่เรามีอยู่ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีไปหมดทุกสิ่งอย่าง เหมือนอย่างใครเขาก็ได้ พ่อจะสรุปให้ฟังเสมอทุกครั้งว่า เงินถ้าเอาไปเลือกใช้กับสิ่งที่มันจำเป็น มากกว่าสิ่งที่อยากมีอยากได้ ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์ ดีกว่าต้องมานั่งโทษจนต้องเป็นทุกข์ เพราะใช้กับสิ่งที่มันไม่จำเป็น และดูจะฟุ่มเฟือยมากจนเกินไป
..ในวันข้างหน้าเรายังมีสิ่งที่จำเป็น อีกมากมายหลายเรื่องหลายอย่างในชีวิต ถ้าวันนี้เราเอาเเต่ตามใจเราซื้อของที่เราอยากจะมีอยากจะได้ในตอนนี้ แล้วเราจะเอาเงินจากที่ไหน เก็บเอาไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่ต้องจำเป็น ในวันข้างหน้ากันล่ะลูก นี่คือสิ่งที่พ่อของฉันสอนเอาไว้
สมัยนี้ถ้าหากลองพินิจพิจารณากันให้ดี ฉันคิดเห็นว่าเราทุกคน ก็ต่างได้เห็นตัวอย่างที่มีอยู่มากมาย ฉันคิดว่าฉันเอง.. ก็อาจจะเป็นหนึ่งในตัวอย่างเหล่านั้นด้วยเช่นกัน ที่หลายครั้งก็ตามใจตนเอง มากเกินกว่าความจำเป็น แต่ฉันก็จะพยายามนึกถึง สิ่งที่พ่อสอนเอาไว้ให้บ่อยครั้งขึ้น และจะหยิบนำมาใช้ปรับเปลี่ยน วิถีการใช้ชีวิตของตัวฉันเอง เพราะฉันเล็งเห็นแล้วว่าสิ่งที่พ่อสอนเอาไว้นั้น มีคุณค่ามากที่สุดเพียงใด.
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
