17 ก.ย. 2020 เวลา 03:31 • สัตว์เลี้ยง
เหมียวหลักล้าน!! 10 อันดับ “แมว” ราคาแพงที่สุดในโลก ทาสแมวหลั่งน้ำตา
10. American Wirehair
พันธุ์นี้หลายคนคงจะคุ้นตากันดี เพราะค่อนข้างเป็นที่นิยมในไทย เป็นแมวขนาดกลาง ลำตัวค่อนข้างป้อม กล้ามเนื้อแต่ละส่วนแข็งแรง ทำให้มีพละกำลังมาก ลักษณะนิสัยค่อนข้างขี้เล่น แต่ไม่ค่อยออดอ้อนเจ้าของเท่าไรนัก สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง ทำให้เลี้ยงง่าย และด้วยข้อดีต่างๆ เหล่านี้เองทำให้ผู้คนนิยม จนมีราคาเฉลี่ยสูงถึง 38,000 บาท
9. American Curl
แค่เห็นหน้าตาก็พอจะเดากันได้แล้วใช่ไหมล่ะคะว่าทำไมเจ้าขนฟูพันธุ์นี้ถึงได้ติดเป็นอันดับ 9 เพราะลักษณะหูที่พิเศษ ม้วนหลุบไปด้านหลังนี้เอง ทำให้มันดูน่ารักน่าชัง ทั้งนิสัยยังร่าเริง เป็นมิตรกับคน เข้าได้ดีกับเด็ก และสัตว์อื่นๆ ในบ้าน คนรักแมวเลยชอบ แม้จะมีค่าตัวเฉลี่ยสูงถึง 39,000 บาทก็ตาม
8. Russian Blue
แมวขนาดใหญ่ มีจุดเด่นอยู่ที่ดวงตามักเป็นสีเขียวสุกใส และขนสีเทาอ่อนตลอดทั้งตัว มีอุปนิสัยฉลาด ชอบความสงบ ขี้เล่นกับเจ้าของ และเป็นมิตรกับสัตว์อื่นๆ หรือคนในบ้าน แต่ระแวงคนแปลกหน้า และจากการศึกษาพบว่าสายพันธุ์นี้มีมีต้นกำเนิดมาจากรัสเซีย ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่นิยมชมชอบของราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษ จึงทำให้มันเป็นแมวชั้นสูง ปัจจุบันค่าตัวโดยเฉลี่ยจึงสูงถึง 96,000 บาท
7.Scottish Fold
สายพันธุ์แมวที่เพิ่งถูกค้นพบมาได้ไม่นาน มีต้นกำเนิดจากประเทศสก็อตแลนด์ โดยแมวตัวแรกที่ถูกค้นพบมีใบหูที่พับเพิ่งเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนจะถูกนักวิทยาศาสตร์พัฒนาจนกลายเป็นยีนเด่น จึงถือได้ว่าสายพันธุ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนไม่มากนัก และหากเป็นสายพันธุ์นำเข้า ราคาเฉลี่ยต่อตัวจึงสูงถึง 97,000 บาท
6. Sphynx
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับสายพันธุ์นี้พอสมควร เพราะมีลักษณะเด่นที่พิเศษกว่าใคร ไร้ขนหนานุ่มตลอดทั้งตัว รูปลักษณ์จึงดูน่ากลัวไปสักนิด แต่กลับเป็นแมวที่รักและเป็นมิตรกับเจ้าของมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ทั้งยังขี้อ้อน ช่างประจบ และเป็นมิตรกับคนแปลกหน้า แต่ถ้าใครอยากเลี้ยง อาจต้องมีเงินหนาสักหน่อย เพราะปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยต่อตัวอยู่ที่ 104,000 บาท
5. Peterbald
แมวไร้ขนไม่ได้มีแต่พันธุ์ Sphynx อย่างเดียวนะคะ โดยสายพันธุ์นี้มีทั้งแบบมีขนและไม่มีขน ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มี และลักษณะเด่นอีกอย่างคือ นิ้วเท้าจะเป็นพังผืดคล้ายตีนเป็ด ลำตัวผอมยาว มีหูขนาดใหญ่ มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศรัสเซีย เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง Donskoy กับ Oriental Shorthair ปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยต่อตัว 160,000 บาท
4. Persian
สายพันธุ์ที่ถูกยกย่องให้ว่าเป็นราชินีแมว เพราะขนสวย รูปร่างดี นิสัยอ่อนโยน เข้ากับคนง่าย ร่าเริงซุกซน ทั้งยังเป็นสายพันธุ์จากต่างประเทศพันธุ์แรกที่ถูกนำเข้ามาในไทย โดยราคามีหลายระดับขึ้นอยู่กับเกรดของแมว แต่หากเป็นสายพันธุ์นำเข้าจะอยู่ที่ 175,000 บาท
3. Bengal
ถูกตั้งชื่อคล้ายเสือเพราะจุดเด่นของสายพันธุ์นี้อยู่ที่ขนลายเสือ ไม่ใช่สายพันธุ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ถูกมนุษย์พัฒนาให้มีลวดลายดังกล่าว โดยใช้ระยะเวลากว่า 20 ปีจึงจะสำเร็จ ทำให้จำนวนของสายพันธุ์นี้มีไม่เยอะนัก ปัจจุบันจึงมีราคาเฉลี่ยต่อตัวสูงถึง 800,000 บาท
โฆษณา