โห่ๆๆๆๆฮิ้วโห่ ฮิ้วโห่ๆๆๆๆๆ ฮิ้วโห่ๆๆๆๆๆๆ...ฮิ่ว
ขันหมากมาแล้ว ขันหมากมาแล้ว
มาแล้วน้องแก้วรับด้วย วันนี้คนสวยแต่งชุดอะไร?
เชื่อว่าหลายๆท่าน พอได้ยิน ได้ฟังเพลงนี้
คงจำบรรยากาศตอนเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวกันได้เป็นอย่างดี แต่เชื่อว่าคงมีบางท่านสงสัยว่า
ต้นกล้วย ต้นอ้อย ในขบวนขันหมาก คนโบราณเขาต้องการสื่อความหมายอะไรในงานมงคลนี้
และจุดประสงค์หลักใหญ่สมัยก่อนเขานำมาใช้
ในงานมงคลนี้เพื่อประโยชน์อะไรกันแน่
วันนี้เรื่องกล้วยๆ เราจะมาเฉลยให้ครับ
ขอขอบคุณรูปภาพจาก Weddingtonkow อย่างสูงครับ
เหตุผลก็เพราะว่า ต้นอ้อย และต้นกล้วยจะมีลำต้นที่ค่อนข้างเหยียดตรง เพื่อสื่อความหมาย
การให้พร เพื่อให้คู่รักบ่าวสาว เกิดความรัก
ความซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อกัน เหมือนพืช 2 ชนิดนี้
"อ้อย" มีรสชาติหวาน ก็เพื่อให้คู่บ่าวสาว มีความรัก ความหวานชื่นต่อกันและยืนยาวเหมือนลำต้นด้วย
"กล้วย" ให้ทั้งผลและมีคุณค่าอย่างครบครันทุกส่วน แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ ก็เพื่อให้เกิดเป็นศิริมงคล สร้างครอบครัว และมีความเป็นอยู่ที่อุดมสมบูรณ์ มีกิน มีใช้ เหมือนกล้วย
โดยมีจุดประสงค์หลักคือ
ให้คู่บ่าวสาว ร่วมกันเอาหน่อไปปลูกต่อ (เน้นนำไปปลูกต่อ" ไม่ใช่แค่เสร็จพิธีสมรสเท่านั้น แล้วปล่อยเฉาตาย
เพราะว่ากล้วยและอ้อยนี้ เวลาขุดจะต้องคงมีราก หรือตาของหน่ออ้อย ตาหน่อกล้วยอยู่ด้วย เวลาปลูกจะได้ขึ้น และสำคัญเขาใช้อ้อยที่เป็นพันธุ์ที่คั้นน้ำนี่แหละครับ
ส่วน "กล้วย" ต้องใช้กล้วยน้ำว้าเท่านั้น อย่าเผลอไปใช้กล้วยไข่ กล้วยหอมเข้าล่ะ
เพราะว่า ถ้าเจ้าบ่าว เจ้าสาว จะต้องนำกล้วยในงานพิธีนี้ไปปลูกต่อ กล้วยจะใช้เวลา 8 เดือนเพื่อออกหัวปลี และอีก 4 เดือนก็ออกผลสุกพอดี
หลังแต่งงาน ครั้นเจ้าสาวท้อง มีบุตร เจ้าลูกน้อยตัวเล็กๆๆที่คลอดนี้ คนสมัยก่อนก็จะใช้กล้วยน้ำว้าสุก ขูดให้เด็กอ่อนกินพอดีเป๊ะ "นี่คือความชาญฉลาดของคนโบราณ"
แต่ถ้าดันไปใช้กล้วยไข่ หรือกล้วยหอม ถ้านำกล้วยสุกประเภทนี้ขูดให้เด็กอ่อนทาน เจ้าตัวเล็กจะท้องอืด ท้องเสียง่าย เขาจึงไม่นิยมนำมาใช้กัน
และนี่คือเกร็ดสาระเรื่องกล้วยๆ ep4 ครับ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
