20 ก.ย. 2020 เวลา 23:00 • สุขภาพ
การรักษาโรคหัวใจและขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนและการใส่ขดลวด
Cr. Sriphat Medical Center
การรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ มีการรักษาได้หลายวิธี
ได้แก่ การให้ยารับประทาน การผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจหรือบายพาส
รวมทั้งการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนและขดลวด
อ.นพ.ศุภเดช สุจริตรักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจและหลอดเลือด
อธิบายว่า การขยายหลอดเลือดหัวใจโดยการใช้บอลลูนและขดลวด
เป็นวิธีการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
ให้เลือดสามารถกลับมาไหลเวียนได้โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
โดยใช้วิธีการสอดสายสวนหัวใจชนิดพิเศษเข้าไปในหลอดเลือดหัวใจ
แล้วทำการถ่างขยายส่วนที่ตีบ และอาจใช้ขดลวดชนิดพิเศษที่เรียกว่า Stent
ทำการค้ำยันเพื่อไม่ให้เกิดการตีบซ้ำ
ซึ่งการรักษาทั้งสองวิธี อาจสรุปได้ดังนี้
✽ การขยายหลอดเลือดหัวใจโดยใช้บอลลูน (Balloon Angioplasty)
การรักษาวิธีนี้ คือ การสอดสายสวนหัวใจชนิดบอลลูน
ไปยังตำแหน่งที่ตีบของหลอดเลือด โดยการใช้ลวดตัวนำ
ผ่านบริเวณหลอดเลือดที่ตีบแคบ ซึ่งลวดตัวนำจะมีบอลลูนขนาดเล็ก
ติดตั้งบริเวณส่วนปลายของสายดังกล่าว จากนั้นทำการถ่างขยายบอลลูนออก
ณ ตำแหน่งหลอดเลือดตีบแคบ ทำให้แผ่นไขมันแบนราบลง
ส่งผลให้เลือดไหลผ่านเป็นปกติ เมื่อหลอดเลือดได้รับการถ่างขยาย
จนเป็นที่น่าพึงพอใจแล้วก็จะนำบอลลูนและลวดตัวนำออก
✽ การขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยวิธีใส่ขดลวด (Coronary Stent Implantation)
การรักษาวิธีนี้ เป็นการถ่างขยายโดยใช้ขดลวดค้ำยันผิวหลอดเลือดแดงหัวใจ
โดยวิธีการคล้ายคลึงกับการถ่างขยายหลอดเลือดแดงหัวใจด้วยบอลลูน
แต่นำขดลวดโลหะปราศจากสนิมเข้าไปหุ้มรอบบอลลูน
และเมื่อถ่างขยายหลอดเลือดแดงด้วยบอลลูน ขดลวดก็จะกางออก
และกดเบียดแผ่นไขมันให้แบนราบลง เมื่อนำบอลลูนออกไปหลอดเลือดนั้น
จะไม่สามารถหดกลับมาได้เพราะมีขดลวดค้ำยันอยู่
ปฏิบัติตัวอย่างไร .. ?
วิธีการเตรียมตัวก่อนมาตรวจนั้น
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะแจ้งข้อมูลให้ผู้ป่วยทราบเพื่อเตรียมตัวให้ถูกต้อง
เช่น การงดน้ำและอาหาร 4-6 ชั่วโมงก่อนได้รับการตรวจหรืออื่นๆ
ซึ่งระยะเวลาในการทำประมาณ 1-2 ชั่วมงขึ้นอยู่กับความยากง่าย
และพยาธิสภาพของโรคของผู้ป่วยแต่ละราย
ที่สำคัญหากรู้สึกอึดอัด แน่นหน้าอก หอบ เหนื่อย คลื่นไส้ อาเจียน
หรือมีอาการอ่อนแรงแขนขาเฉียบพลัน ในขณะทำหัตถการ
รีบแจ้งให้แพทย์ทราบทันที เพื่อจะได้ทำการแก้ไขอาการได้อย่างทันท่วงที
เมื่อกลับไปอยู่บ้าน ต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำเป็นเวลา 3-7 วัน
หรือจนกว่าแผลจะแห้ง ไม่ต้องทำแผล ยกเว้นมีอาการบวม แดง หรือผิดปกติ
รวมทั้งจะได้รับยาต้านเกร็ดเลือดหรือยาต้านเลือดแข็งตัว
เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือดกลับมาอุดตันบริเวณหลอดเลือดแดงหัวใจซ้ำ
ซึ่งยาดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในบางคราวอาจต้องให้นานร่วมปี
หรือตลอดไปแล้วแต่ดุลยพินิจของแพทย์
ดังนั้น ควรรับประทานยาและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำที่ได้รับอย่างเคร่งครัด
**ห้ามหยุดยาด้วยตนเองเด็ดขาด** และมาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
แต่หากบริเวณแผลมีลักษณะ ปวด บวม แดง มีหนอง มีไข้ขึ้น
หรือมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก ใจสั่น เหนื่อย
ให้รีบมาพบแพทย์ก่อนวันนัด เพื่อตรวจหาสาเหตุและความผิดปกติที่เกิดขึ้น
✽ ข้อมูลอ้างอิง คู่มือให้คำแนะนำสำหรับการถ่างขยายหลอดเลือดหัวใจตีบด้วยบอลลูนและใส่ขดลวดค้ำยัน ศูนย์ศรีพัฒน์ ✽
สามารถติดตามช่องทางเพิ่มเติมได้ที่
• Call center : 0-5393-6900-1
• LINE Official : https://lin.ee/h3Wxyp3
• Facebook : https://bit.ly/2Kid6X9
• Instagram: https://bit.ly/2VnrTGo
• Blockdit : https://bit.ly/2VqvL9D
โฆษณา