19 ก.ย. 2020 เวลา 07:22 • ประวัติศาสตร์
#ตามรอยตำนานซามุไรสยองที่วัดซุยเซ็นจิ
#เมื่อพ่อล้างตระกูลหลานเพื่อลูกคนเดียว
ตั้งแต่เกิดวิกฤติ Covid ชีวิตก็ติดบ้าน แทบไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนไกลๆมาเกือบปีแล้ว โดยเฉพาะญี่ปุ่น ไม่ได้ไปมาหลายปี พอเห็นรูปเก่าๆ ที่วนมาย้ำเตือนใน Facebook ก็คิดถึง ว่าครั้งหนึ่งเราเคยไปตระเวณตามรอยซามุไร มาแล้วหลายซีรียส์นี่นา
4
วันนี้ ก็เลยจะขอแชร์งานที่เคยลงไว้ใน Facebook ส่วนตัว มาให้ลองอ่านกัน และเป็นการเปิดเผยหน้าคนเขียน (สมัยยังผอม) ไปด้วย ที่ขนาดตัวเองยังจำไม่ได้ว่า นี่ชั้นหรือนี่ 😂
อาจจะมีประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมากหน่อย สำหรับคนที่เป็นแฟนคลับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในยุคเซ็นโกคุ น่าจะชอบกัน แต่ท่านใดไม่คุ้น ก็อ่านได้ค่ะ ไม่ยาก ไม่งงแน่นอน พร้อมแล้ว ตามมาเที่ยวกันค่ะ
สถานที่ที่จะไปตามรอยซามุไรกันในวันนี้ ที่มีความท้าทายอย่างยิ่งยวด คือที่นี่ค่ะ
วัด Zuisen-ji (瑞泉寺)
วัดนี้อยู่ในย่านซันโจ ที่เป็นย่านใจกลางเมืองของเกียวโต เป็นวัดเล็กๆ แทรกตัวอยู่ในชุมชน ไม่มีข้อมูลอยู่ในหนังสือนำเที่ยวเกียวโต ถ้าเอาชื่อวัดนี้ไปถามใน Google ก็จะได้วัดชื่อเดียวกัน แต่คนละแห่ง อยู่ที่เมืองคามาคุระ บ้าง ไอจิ บ้าง หาข้อมูลยากมากค่ะ แต่พอดีมาเจอข้อมูลของฝรั่งคลั่งซามุไรคนหนึ่ง ที่เขียนรีวิวเล็กๆไว้ในเพจ TripAdvisor ก็กรี๊ดเลย นี่ไง วัดที่เรากำลังตามหา
วัดนี้ไม่มีซากุระ ไม่มีใบไม้แดง ไม่มีของขาย และไม่มีงานเทศกาล แต่เป็นวัดเฉพาะกิจที่สร้างขึ้นเพื่อส่งวิญญาณให้กับอดีตซามุไร คนสำคัญในปลายยุคเซ็นโกคุ นั่นคือ โทโยโทมิ ฮิเดทสุงุ และครอบครัว
สำหรับท่านใด ที่หลงใหลความคลาสสิคของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ในยุคเซ็นโกคุ หรือช่วงสงครามกลางเมือง ค.ศ. 1467 - 1615 คงพอจำผู้นำขุนพลคนสำคัญของยุคเซ็นโกคุ 3 คนกันได้ นั่นคือ
1
โอดะ โนบุนางะ
โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ
โทกุกาว่า อิเอยาสึ
1
เครดิตภาพ Morethanrelo
แต่วันนี้ พระเอกของเราคือ "โทโยโทมิ ฮิเดทสุงุ" หลานชายแท้ๆของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ อดีตขุนศึกมือขวาของโอดะ โนบุนางะ ที่ขึ้นมาแทนที่เจ้านาย และกลายเป็นผู้รวบอำนาจได้ ในช่วงก่อนปลายยุคเซ็นโกคุ
โดย ฮิเดทสุงุเป็นลูกชายของพี่สาวฮิเดโยชิ เป็นหลานชายที่ฮิเดโยชิเคยรัก และไว้ใจมาก
ฮิเดทสุงุ เป็นซามุไรที่จัดว่ามีความสามารถทั้งเรื่องเรียน เรื่องรบ และ เรื่องรัก บางตำราก็ว่าเป็นหนุ่มรูปงาม และเป็นขุนศึกร่วมรุ่นกับ ซามุไรคนดังของญี่ปุ่นอีกหลายคน เช่น ซานาดะ ยุคิมุระ ดาเตะ มาซามุเนะ ซึ่งเดี๋ยวเราค่อยมาเล่ากัน
3
ภาพ ฮิเดทสุงุ ในมังงะญี่ปุ่น Gate7
เวรกรรม 2 น้า-หลาน คู่นี้ต้องเริ่มเท้าความกันตั้งแต่หลังจากที่จอมมาร โอดะ โนบุนากะ ถูกเผาตายในวัดฮอนโนจิ ในปี 1582 จากเหตุยึดอำนาจของอาเคจิ มิตสึฮิเดะ ต่อมาโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ก็ค่อยๆกลืนตระกูลโอดะ แล้วรวบรวมพันธมิตรเก่าๆเข้าปราบปรามแคว้นอื่นๆแล้วรวมศูนย์อำนาจสู่ส่วนกลางได้สำเร็จ จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่สามารถรวมแผ่นดินญี่ปุ่นให้กลับมาเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง
อนุสาวรีย์ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ที่สวนข้างปราสาทโอซาก้า เครดิตภาพ Trip Advisor
แต่จุดเสี่ยงของฮิเดโยชิคือเขาไม่มีทายาท
ฮิเดโยชิ มีภรรยาคนเดียว คือนาง "เนเนะ" ที่ไม่มีลูกด้วยกัน แต่ต่อมานาง เนเนะ ได้รับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ชื่อว่าน้อง โยโด-จัง
น้องโยโดนี้ ไม่ใช่คนอื่นไกลค่ะ เป็นลูกสาวคนหนึ่งของนางโอจิ
นางโอจิ คือน้องสาวแท้ๆของโอดะ โนบุนางะ ที่ยกให้ไปแต่งงานกับ อาซาอิ นางามาสะ เจ้าเมืองโอมิ ทางตอนเหนือเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง แต่ต่อมาตระกูลอาซาอิก็ทรยศ ทำให้โอดะต้องยกทัพไปตีเมืองโอมิ แล้วเอานางโอจิ น้องสาวคืนมา แล้วนางไปแต่งงานใหม่กับ ชิบาตะ คัทสึอิเอะ ฉายาเจ้ายักษ์ทึ่ม ขุนศึกเอกอีกคนของโอดะ โนบุนางะ
1
นางโอจิ น้องสาวของโอดะ โนบุนางะ เครดิตภาพ Wikipedia
แต่พอหลังจากโอดะ โนบุนางะตาย เจ้ายักษ์ทึ่ม กับโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ก็มาผิดใจกันเรื่องทายาทตระกูลโอดะ จึงหันมารบกันเอง ผลสุดท้าย ฮิเดโยชิชนะ เจ้ายักษ์ทึ่มชิบาตะ คัทสึอิเอะ จึงยอมตายพร้อมกับนางโอจิ ทิ้งน้องโยโดไว้ นางเนเนะ ภรรยาของฮิเดโยชิจึงรับมาเลี้ยง
น้องโยโด บุตรสาวของนางโอจิ เครดิตภาพ Wikipedia
เลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมอยู่ดีๆ ฮิเดโยชิก็จับมากินไก่วัดซะงั้น แล้วน้องโยโดก็ให้กำเนิดบุตรชาย สายเลือดแท้ๆของฮิเดโยชิเป็นคนแรก ชื่อว่า โทโยโทมิ ทสุรุมัทสุ แต่ลูกคนนี้ก็อายุสั้น เสียชีวิตตั้งแต่อายุแค่ 3 ขวบ
ด้วยเหตุนี้ ฮิเดโยชิไม่มีทางเลือกอื่น ต้องสนับสนุนใครสักคนมาสืบทอดตระกูลโทโยโทมิ แล้วเขาจึงเลือก โทโยโทมิ ฮิเดทสุงุ หลานชายที่เป็นลูกของพี่สาวขึ้นมาเตรียมสืบทอดอำนาจ นั่นคือจุดเริ่มต้นของหนึ่งในโศกนาฏกรรมสุดทะเทือนใจของตระกูลโทโยโทมิ
ในช่วงเวลานั้น โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ กินตำแหน่ง “คัมปาคุ” สูงสุดในแผ่นดินแล้ว เป็นรองเพียงสมเด็จพระจักรพรรดิเท่านั้น ฮิเดโยชิ ดันหลานชายเต็มที่ ถึงขนาดส่งมอบตำแหน่ง รักษาการคัมปาคุ ให้ฮิเดทสุงุ และได้ย้ายเข้ามาอยู่จวนพิเศษของฮิเดโยชิในเกียวโต ในระหว่างที่ฮิเดโยชินำทัพใหญ่ยกพลบุกคาบสมุทรเกาหลี ทำให้ญี่ปุ่นมีผู้นำรัฐบาลคู่ขนาน 2 คนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
พอได้เป็นใหญ่เป็นโต บรรดาเจ้าเมืองก็ส่งลูกสาวมาให้ฮิเดทสุงุ เพื่อดองญาติ ซึ่งน้องฮิเดทสุงุก็รับหมด เพราะรักทุกคน จนในจวนท่านผู้นำมีภรรยาและสาวงามลูกขุนนางถึง 38 คน
2
เรื่องทั้งหมดเกือบจะดีอยู่แล้ว แต่ทว่า น้องโยโด-จัง ไก่วัดของสมภารฮิเดโยชิ ได้ให้กำเนิดบุตรชายคนที่ 2 ให้แก่ฮิเดโยชิในปี 1593 บุตรชายคนนั้นมีชื่อว่า โทโยโทมิ ฮิเดโยริ
โทโยโทมิ ฮิเดโยริเครดิตภาพ Wikipedia
ด้วยความรักลูกมากเกินไป ทำให้ฮิเดโยชิได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่สะเทือนทั้งแผ่นดินอีกครั้ง ในปี 1595 ฮิเดโยชิในตำแหน่งคัมปาคุที่ 1 ได้ตัดสินว่า ฮิเดทสุงุ ได้วางแผนก่อการกบฏ แล้วบีบให้ฮิเดทสึงุทำพิธีเซปปุกุ คว้านท้องตายบนยอดเขาโคยะ
ในปีที่เขาตาย ฮิเดทสุงุอายุเพียง 29 ปี ชีวิตยังอีกยาวไกลแท้ๆ
เท่านั้นยังไม่สาแก่ใจ ฮิเดโยชิสั่งให้ตัดศีรษะของฮิเดทสุงุนำมาส่งให้ที่เกียวโต แล้วจัดการคุมตัวภรรยาทั้ง 38 คน และลูกๆทั้งหมดของฮิเดทสุงุต้อนใส่เกวียนเข็นผัก ขนมาที่แท่นทำพิธีเคารพศพของฮิเดทสึงุตามประเพณี
ภาพพิธีศพของ ฮิเดทสุงุ ในวัดซุยเซ็นจิ
หลังจากที่เคารพศพเรียบร้อยแล้ว ก็ตัดหัวภรรยา และลูกๆของฮิเดทสุงุทุกคน ไม่ว่าจะเด็ก จะเล็กแค่ไหน ไม่เว้นแม้แต่ว่าที่ภรรยาน้อยคนที่ 39 ที่เพิ่งเข้ามาเกียวโตในวันที่ฮิเดทสุงุโดนประหารชีวิต ยังไม่ได้เคยเห็นหน้า ยังไม่ได้เข้าบ้านว่าที่สามีด้วยซ้ำ ก็ต้องโดนประหารด้วย
1
ว่าที่ภรรยาคนที่ 39 ของฮิเดทสุงุ อายุเพียงแค่ 15 ปี เป็นลูกสาวของ โมอะมิ โยชิอากิ เจ้าเมืองยามากะตะ สร้างความแค้นเคืองให้กับบ้านโมอะมิเป็นอย่างสาหัส ซึ่งส่งผลอย่างร้ายแรงแก่ตระกูลโทโยโทมิอย่างมาก เพราะ โมอะมิ โยชิอากิ มีหลานชายแท้ๆคนหนึ่งที่คุมกำลังทางตอนเหนือ ที่คนญี่ปุ่นแทบทุกคนรู้จักในฉายาขุนพลแห่งเซ็นได ซามุไรตาเดียว ดาเตะ มาซามุเนะ ที่ภายหลังทั้งคู่ก็ละทิ้งตระกูลโทโยโทมิ ไปเข้าร่วมกับโทกุกาว่า อิเอยาสึ ในเวลาต่อมา
หลังจากประหารล้างครอบครัวฮิเดทสุงุเสร็จ ฮิเดโยชิก็สั่งให้ขุดหลุมขนาดใหญ่ฝั่งศพทั้งหมดลงให้หลุมเดียวกัน แล้วทำเป็นเนินดินใหญ่ๆไว้กลางตลาดอย่างไร้เกียรติ
รายชื่อภรรยาทั้ง 39 คนของฮิเดทสุงุ จัดแสดงภายในวัด
จนเวลาผ่านไปนับสิบปี ก็มีพ่อค้าวาณิชย์ต่างเมืองล่องเรือมาตามแม่น้ำคาโมะ แล้วมาพบเนินดินประหลาดเข้า ก็ถามชาวบ้านว่านี่มันเนินอะไร พอรู้ประวัติก็รู้สึกสังเวชใจ จึงรวบรวมเงินทองสร้างเป็นวัดซุยเซ็น-จิ ล้อมเนินดินที่เป็นหลุมฝั่งศพ แล้วตั้งสุสานให้กับฮิเดทสุงุ แล้วภรรยาทั้ง 39 คนในภายวัด ที่ปัจจุบันหน้าวัดยังมีตราสัญลักษณ์ตระกูลโทโยโทมิ ป้ายสุสาน รวมถึงอารามที่มีรูปตุ๊กตาจำลองตัวฮิเดทสุงุ บริวาร และภรรยาทั้ง 39 คนรวมอยู่ด้วย
ตุ๊กตาผู้หญิงภายในวัด แทนตัวภรรยาของฮิเดทสุงุ
ภายในวัดบรรยากาศเงียบๆค่ะ (เพราะไม่ใช่จุดท่องเที่ยวนะค้า) แต่ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศสงบสุข และเชื่อว่าฮิเดทสุงุ และครอบครัวคงไปสู่สุคติดังความปรารถนาของผู้สร้างวัดแล้วหล่ะค่า
1
สุสานของโทโยโทมิ ฮิเดทสุงุ
เหตุการณ์ล้างครอบครัวฮิเดทสุงุ นับว่าสะเทือนแผ่นดินไม่แพ้เหตุเผาล้างวัดเอ็นเรียวจิ บนยอดเขาฮิเอ ที่โอดะ โนบุนางะเคยทำไว้
ตราประจำตระกูล โทโยโทมิที่หน้าวัดซุยเซ็นจิ
แต่ในโศกนาฏกรรมก็ยังมีเรื่องดีๆซ่อนอยู่นะคะ เพราะยังมีลูกของฮิเดทสุงุเหลือรอดมาเพียงคนเดียว เป็นเด็กทารกผู้หญิงอายุ 1 เดือนชื่อคิคุฮิเมะซึ่งตอนนั้นผู้เป็นตาเลี้ยงดูอยู่จึงรอดมาได้
เมื่อเด็กน้อยคิคุฮิเมะโตขึ้น ก็ได้แต่งเข้าบ้านซามุไรซื่อดังก้องแผ่นดินอีก 1 คนที่พูดได้เต็มปากเลยว่าคนญี่ปุ่นรู้จักทุกคน คือ ซานาดะ ยุคิมุระ นี่เอง
1
ซานาดะ ยูคิมุระ หนึ่งในซามุไรชื่อดังของญี่ปุ่น และนำประวัติมาสร้างเป็นซีรียส์เรื่องดัง
ตามรอยซามุไรตอนนี้ สยองดีไหมค้า ถ้าใครชอบอะไรแนวๆนี้ น่าจะลองแวะมาเยี่ยมที่วัดนี้ดูนะคะ ถ้าไหนๆมาแล้ว เดินต่ออีกแค่ไม่กี่ร้อยเมตร ก็จะถึงวัดฮอนโนจิ สถานที่ตั้งสุสานของโอดะ โนบุนางะ ด้วยนะคะ อยู่ไม่ไกลเลย เยี่ยมวัดสุสานทีเดียว 2 วัด กลับบ้านนอนหลับฝันดีแน่ๆเลยค่าๆ
แหล่งข้อมูล จาก Wikipedia
โฆษณา