21 ก.ย. 2020 เวลา 04:31 • นิยาย เรื่องสั้น
Ep.16 แหย่..ไข่บึ้ง
ภาพประกอบ พงษ์ บาติก
ป่าโปร่งหลังบ้าน ต้นไม้ใบไม้ยามนี้ดูแห้งเหลือง เมื่อเริ่มย่างเข้าหน้าแล้ง ลมร้อนพัดมาแต่ละทีนำพาใบไม้แห้งหล่นร่วงลงมาด้วย จนทำให้พื้นดินแถบนั้นปูเต็มไปด้วยใบไม้แห้ง
เสียงใบไม้แห้งกับกรอบแกรบเป็นจังหวะตามการเดินย่ำของเราสามคน เดี่ยวเดินนำตามด้วยโมทย์ ผมรั้งท้าย ในย่ามที่สะพายมีกระรอกสองตัว เราคนช่วยกันดักยิงกันลั่นป่า จนไปสิ้นฤทธิ์หล่นลงมาจากยอดไผ่ด้วยฝีมืออันเด็ดขาดของเดี่ยว กับนกเปล้าอีกหนึ่งซึ่งผมสอยลงมาได้ ขณะกำลังกินลูกไทรตรงชายป่า
เราสามคนออกมาจากบ้านตั้งแต่เช้า เดี่ยวชวนมาดูแร้วที่ดักกระจงเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรเดินมาติดกับดัก เลยเปลี่ยนมาหาลูกหวายแทน เรารู้กันหมดว่าป่าจุดไหนมีต้นอะไร ผลไม้อะไรที่หากินได้บ้าง เพราะการไล่ยิงกระรอกเเต่ละครั้งก็ต้องวิ่งบุกป่ากันไปไกลๆ เจอต้นอะไรสำคัญตรงจุดไหนก็จำเอาไว้ วันหลังพอถึงฤดูที่มันออกผล ก็จะได้ตรงมากินตรงที่หมายตาได้เลย
ไม่นานก็มาถึงซุ้มหวายที่หมายตาไว้ เป็นซุ้มหวายที่ขึ้นเป็นกระจุกอยู่หลายๆ กอ มองไล่ตามเถาหวายที่พาดตวัดเกี่ยวต้นไม้ใกล้ๆ ขึ้นไป ก็เห็นลูกหวายเป็นช่อๆ ยาวเป็นศอก อยู่บนต้นลานตาไปหมด แสดงว่ายังไม่มีใครเข้ามาหาก่อนเรา
ถ้าเป็นพวกผู้ใหญ่ เขาก็จะมาหาไปขายกันที่ตลาด ได้ไปทีๆ เห็นเป็น กระสอบ เด็กอย่างเราไม่เคยคิดเอาไปขาย มาเจอเก็บได้ก็แค่พอกินเล่นกันเพลินๆ มองไปบนต้นหวายลูกหวายช่อไหนที่เปลือกออกสีขาวๆ ก็แสดงว่าสุกแล้ว รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน ถ้าจะให้อร่อยอีกสักหน่อยต้องเก็บไปดองเกลือ รสชาติมันจะเปรี้ยวหวานปนเคมีอร่อยไปอีกแบบ บางช่อก็ มีรอยนก หรือกี่ระรอกมากินแห่วงไปทั้งช่อ
การเก็บลูกหวายก็ไม่ต้องตัดโค่นลงมาให้เสียของ ไว้ปีหน้าจะได้มาเก็บกินอีก โมทย์จัดการปีนต้นไม้ที่อยู่ไกล้เถาหวายมากที่สุด ปีนไปจนถึงระดับเดี่ยวกับช่อลูกหวายก็ใช้มีดพับเอื้อมมือไปตัด เอาเฉพาะช่อที่สุก แป๊บเดียวลูกหวายหลายช่อก็มาบรรจุอยู่ในย่ามของแต่ละคน ถือเดินพลางกินพลางไปตลอดทาง
เกือบเที่ยงแล้วเราเดินทะลุป่าโปร่ง ออกมาตรงสวนกาแฟสวนนึง ซึ่งอยู่ติดกับคลองบางทรายนวล บรรยากาศเริ่มร้อนอบอ้าวจนต้อง แวะลงไปดื่มน้ำ ล้างหน้าล้างตาในคลอง น้ำในคลองสมัยนั้นสะอาดใสแจ๋ว สามารถเด็ดใบคล้า ใบบอนริมคลองมาทำกรวยตักกินได้เลย โมทย์ด้อมๆ มองๆ ยิงนก ที่ลงมากินน้ำได้เพิ่มอีกสองตัว นอกจากนั้นยังมีนกจะจิบและนกเล็กๆ อีกมากมาย ซึ่งมันก็หลบมากินน้ำอาบน้ำคลายร้อนเหมือนกัน แต่เราไม่สนใจที่จะยิงมัน เพราะตัวเล็กเกินไป
หลังจากหายร้อนแล้ว ผมเดินขึ้นมาจากคลองเข้ามาในสวนกาแฟ มาเจอรูบึ้งสองสามรูอยู่แถวๆ ริมกอไผ่ “บึ้ง” เป็นแมงมุมสีดำขนาดใหญ่อาศัย อยู่ใต้ดินโดยการขุดรูอยู่ใต้ดิน ลึกประมาณหนึ่งศอกเศษ โดยชักใยสีขาวกั้นรอบเป็นวงกลมๆ ลึกลงไปตลอดรู ส่วนปากรูชักใยบางๆ กั้นไว้ไม่ให้ใบไม้หล่นลงไป
บึ้งจะออกไข่ในหน้าร้อนราวเดือนมีนาถึงเมษา หรือดูได้จากฤดูที่ดอกเลา ดอกพง หญ้าแยงบึ้ง จะแตกดอกออกเป็นช่อขาวไปทั่วบริเวณนั้น เหมือนธรรมชาติตั้งใจสร้างมาคู่กัน คือถ้าเห็นดอกจำพวกนี้บานก็แสดงว่าหน้านี้บึ้งมีไข่ เพราะเราต้องใช้ดอกหญ้าสามอย่างนี้เท่านั้น ที่สามารถแหย่เกี่ยวเอาไข่บึ้งขึ้นมาจากรูได้
เรานั่งพักกันใต้ร่มเงากอไผ่ใกล้รูบึ้ง เดี่ยวเดินไปหักดอกพงมาสามสี่ดอก เอามาแบ่งกันคนละอัน แล้วแยกย้ายกันไปแหย่รูบึ้ง ผมจัดการดึงเอาเส้นผมดอกพงออกจนหมด เหลือแต่ก้านตรงกลางแล้วลงมือแหย่ก้านดอกพงลงไปในรูบึ้งตรงหน้าช้าๆ จนแหย่ลงไปต่อไม่ได้แล้ว แสดงว่าถึงก้นหลุม
ทันใดก็รู้สึกว่าดอกพงขยับกระตุกสั่นนิดๆ ลองดึงออกก็รู้สึกหนักๆ หมายความว่าตัวแม่บึ้งหวงไข่กำลังกัดดึงปลายดอกพง อันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่โผล่เข้าไปรบกวนในรัง จังหวะนี้ ถ้าปล่อยไว้นานแม่บึ้งก็จะกัดดอกพงจนปลายขาด จึงต้องรีบประกบฝ่ามือสองข้างเหมือนพนมมือ ให้ก้านดอกพงโผล่อยู่กลางฝ่ามือแล้วถูมือปั่นดอกพงอย่างเร็ว เพื่อให้ปลายก้านดอกพงแหย่เลยผ่านตัวแม่บึ้ง ไปเกี่ยวถุงไข่ที่มันประกบติดที่หน้าท้องของมันให้ได้แล้วดึงเอาไข่ขึ้นมา
บางทีก็ช้าไปกว่าตัวแม่ที่กัดปลายก้านดอกพงจนขาด ต้องรีบแหย่ดอกพงอันใหม่แหย่ลงไปอีก บางครั้งก็ต้องใช้ถึงสามสี่ดอก แต่บางครั้งใช้ดอกเดียวก็ดึงไข่ขึ้นมาได้แล้ว เสียงโมทย์ ท่องคาถาแหย่บึ้งดังขรม “ตัวอยู่ใต้ ไข่อยู่บน ตัวอยู่ใต้ ไข่อยู่บน ตัวอยู่ใต้ ไข่อยู่บน” ดอกพงในมือหมดไปสามสี่อันแล้ว
ภาพถ่ายโดย พงษ์ บาติก
อึดใจผมดึงดอกเลาในมือขึ้นมาก็เห็นถุงไข่สีขาวขนาดเท่าเหรียญสิบติดมากับปลายก้านดอกพง พอดึงพ้นปากรู ผมก็รีบคว้าหมับมาไว้ในมือ มองเห็นตัวแม่ดำๆ วิ่งตามขึ้นมานิดนึงแล้วก็ไต่กลับลงไปในรูเหมือนเดิม
รังไข่ของบึ้งถักด้วยเส้นใสละเอียดสีขาว เหมือนใยแมงมุม มีความเหนียวทนทานมาก ภายในจะบรรจุไข่เม็ดกลมๆ สีส้มไว้เกือบเต็ม ประมาณสองสามร้อยฟอง ถ้าไข่ฟักเป็นตัว บึ้งเล็กๆ ก็จะฉีกถุงไข่ออกมาภายนอก เพื่อดำเนินชีวิตต่อไป ไข่ที่เราได้มา ก็จะเอาไปย่างไฟอ่อนๆ หรือเอาไปวางบนฝาหม้อข้าวที่กำลังหุง พอให้ไข่ข้างในสุก แล้วก็ฉีกถุงรังไข่เทเม็ดกลมๆ ภายในถุงใส่ฝ่ามือ แล้วเทเข้าปาก แค่นี้มันก็เป็นอาหารว่างเลิศรสชาติเค็มๆ มันๆ เป็นรสที่ไม่เหมือนใครสไตล์ ธรรมชาติที่หาซื้อไม่ได้ แม้แต่ตัวแม่บึ้งเองเขาก็ยังขุดขึ้นมาย่างกินกัน
ภาพถ่ายโดย พงษ์ บาติก
สรุปวัน นั้นมีโมทย์คนเดียวที่ไม่ได้ไข่บึ้งแต่ได้ตัวแม่มาแทน เพราะมันทิ้งไข่วิ่งสวนดอกขึ้นมาด้วยความโกรธที่ถูกรบกวน โมทย์ตกใจหงายหลังก้นจ้ำเบ้า ลุกขึ้นยืนโดยเร็ว กระทืบเท้าโดยแรงโดนลำตัวของมันพอดี แม่บึ้งท้องแตกนอนหงาย ขาสั่นระริก โชคดีที่ไม่โดนมันกัด พิษของมันสามารถทำให้คนเจ็บปวดมาก จนถึงตายได้สำหรับคนที่แพ้พิษ พอมันแน่นิ่งโมทย์ใช้มีดตัดเขี้ยวมันออก แล้วหยิบบึ้งขนาดเกือบเท่าฝ่ามือหย่อนลงในย่ามเพื่อนำกลับไปย่างไฟที่บ้าน ส่วนรังไข่องมันที่ยังอยู่ในรู ไม่นานก็คงมีสัตว์เลื้อยคลาน หรือมดเข้าไปกินอย่างง่ายดาย เพราะปราศจากตัวแม่คอยป้องกัน มาคิดดูตอนนี้ก็นึกสงสารมัน ขนาดหลบอยู่ใต้ดินยังมีคนไปขโมยไข่มันมาจนได้ วัยเด็กในตอนนั้นเราไม่รู้สึกอะไรมากนักหรอก กับสิ่งที่ได้มาและเสียไป ไม่เหมือนกับในปัจจุบัน..
ภาพถ่ายโดย พงษ์ บาติก
โฆษณา