22 ก.ย. 2020 เวลา 07:13 • นิยาย เรื่องสั้น
Ep.18 จับตั๊กแตน
เสียงน้ำมันร้อนๆ ดังฉ่า เมื่อตั๊กแตนตัวสีเขียวตัวยาวประมาณสามนิ้วถูกหยิบลงไปทอดในกระทะ กลิ่นหอมของตั๊กแตนทอดที่สัมผัสน้ำมันเดือด ลอยฟุ้งขึ้นมาทันทีโมทย์ทำเสียงซู๊ดปากด้วยความหิว พลางเหยาะน้ำปลาลงในถ้วยใบเล็ก เตรียมรอไว้เป็นน้ำจิ้ม อึดใจเดียวตั๊กแตนทอดในกระทะเริ่มเหลือง กรอบ คนทอดใช้ตะหลิวคนพลิกกลับสองสามครั้ง แล้วตักยกขึ้นมาวางในจานพร้อมทาน
เดือนพฤษภาคมเริ่มย่างเข้าหน้าฤดูฝน มองไปรอบๆ ทุกหนแห่งดูช่างเขียวชะอุ่มชุ่มชื่น เพราะต้นไม้ใบหญ้ามีน้ำฝนหล่นมาหล่อเลี้ยงแทบทุกวัน หลังจากอดทนรอน้ำมาหลายเดือน
ผมกับเหล่าสมาชิกกำลังด้อมๆ มองๆ อยู่ในสวนกล้วย ที่มีต้นยางพาราเท่าข้อมือปลูกเป็นแนวสลับกัน ท่ามกลางสายฝนที่ตกพรำๆ ไม่มีที่ทำว่าจะขาดสาย ในมือแต่ละคนถือถุงพลาสติกคนละใบ ในแต่ละใบมีศัตรูพืชตัวสีเขียวอยู่เกือบเต็มถุง มันคือตั๊กแตนสีเขียวตัวใหญ่ หรือที่เราเรียกว่าตั๊กแตนหัวหมู มันเป็นศัตรูพืชตัวร้าย บินไปลงไร่ไหนก็จะกัดกินผลผลิตและยอดอ่อนเกือบหมด ไม่ว่าจะเป็นข้าว ข้าวโพด ข้าวฟ่าง เดือย และแปลงผักต่างๆ
สมัยนั้นชาวบ้านยังไม่นิยมใช้ยาปราบศัตรูพืช มันก็เลยออกมากันชุกชุมตอนหน้าฝน ยิ่งฝนตกใหม่ๆ มันก็จะจับกันผสมพันธุ์กันเป็นคู่ ตัวเมียอยู่ล่างส่วนตัวผู้ตัวเล็กกว่าจะเกาะหลังอยู่ด้านบน
ตอนฝนลงเม็ด มันไม่ค่อยชอบบินออกมา จะชอบหลบพักอาศัยอยู่ตามต้นกล้วยหรือใต้ใบไม้มากกว่า ฤดูแล้งเรามีจักจั่นตัวเขียวเสียบไม่ย่างไฟกิน พอฤดูฝนเราก็มีตั๊กแตนหัวหมูตัวเขียวมาทอดกิน ซึ่งรสชาติจะอร่อยไปคนละแบบ
การจับตั๊กแตนไม่ใช้เรื่องง่ายอย่างที่คิด ต้องอาศัยมือไว ใจกล้า ที่ว่ามือไวก็คือ เจ้าตั๊กแตนพวกนี้มันจะรับรู้ความเคลื่อน ไหวได้ไม่เร็วมากนัก มันจะดูจนแน่ใจว่าไม่ปลอดภัยจริงๆ จึงค่อยบินหนี ช่วงที่เราเอื้อมมือจะตะครุบคือช่วงวัดใจ ถ้าช้านิดเดียวขาคู่หลังอันทรงพลังของมัน จะถีบตัวเองให้กระโดดไปไกลในพริบตา แล้วกางปีกบินปร๋อไปเกาะที่ต้นอื่น ต้องเสียเวลาเดินตามไป แล้วย่องเข้าไปจับใหม่
ส่วนใจกล้าคือต้องยอมเจ็บนิดหน่อย เพราะขาคู่หลังทรงพลังของมัน มีหนามแหลมเรียงรายอยู่หลายอัน ต้องตะครุบแล้วกำให้แน่น ท่าไหนท่านั้น แล้วอีกมือค่อยมาช่วยจับส่วนคอด้านหลังของมันเอาไว้ หากคลายมือหลวมมีช่องว่างให้ขามันขยับถีบได้ละก็ หนังมือถลอกเป็นแผลเลือดซึมแน่นอน เพราะฤทธิ์หนามแหลมที่ขาของมัน ส่วนปากของมันก็กัดเจ็บไม่ย่อย
หากโชคดี เราก็จะเจอมันขี่กันเป็นคู่ จะจับยากสักหน่อยต้องอาศัยฝีมือจริงๆ จึงจะจับได้สองตัวในที่เดียว เจอเป็นคู่แบบนี้ แสดงว่าตัวเมียมีไข่เต็มท้อง เวลาเอาไปทอดจะกินอร่อยที่สุด พักหลังๆ ผมขี้เกียจจับด้วยมือ นอกจากเสี่ยงได้แผลแล้ว บางที่เจอมันเกาะอยู่ที่สูงๆ จับไม่ถึงก็เสียดาย เลยอาศัยเครื่องมือช่วย
โดยการใช้เหล็กแหลมที่ทำจากก้านร่มเก่าๆ ยาวประมาณสองคืบ ปลายด้านนึงลับกับหินลับมีดให้แหลม อีกด้านมัดกับยางวงคล้ายกับเหล็กที่เขาดำน้ำยิงปลา เพียงแต่ขนาดเล็กกว่า ข้อดีคือไม่ต้องตะครุบให้หนามตามือ ไม่ต้องย่องเข้าใกล้มาก จึงไม่ค่อยพลาด ตอนมันเกาะอยู่ที่สูง ก็สามารถยื่นมือยิงไปถึงอย่างง่ายดาย แต่ข้อเสียก็คือเวลายิงโดนที่ท้องเสียบทะลุท้องมันจะแตก ทอดยากเพราะน้ำมันทอดจะกระเด็น ยิ่งตัวเมียไข่เต็มพุงเสียบไข่ทะลัก ทั้งเสียดายทั้งสงสาร
เกือบเที่ยง หลังจากทุกคนจับตั๊กแตนได้ในปริมาณที่มากพอแล้ว ฝนก็เริ่มขาดเม็ด มีเพียงเสียงฟ้าร้องครืนๆ กับเมฆสีเทาลอยทะมึนอยู่รอบด้าน เหมือนรอเวลาจะหล่นลงมาใหม่ ทุกคนออกจากสวนกล้วยเดินลัด เลาะตัดแนวป่าทะลุออกมาที่ไร่ของเพื่อนอีกคนนึง ซึ่งมีขนำเล็กๆ ปลูกอยู่กลางไร่
วันนี้เขาแอบเอากุญแจขนำติดตัวมาด้วย จัดแจงเปิดประตูเข้าครัวไปลงมือก่อไฟ ในครัวมีอุปกรณ์หุงหาเกือบครบ ทั้งถ่านก่อไฟ กระทะเก่าๆ หม้อดำๆ น้ำมันพืชกับน้ำปลาอย่างละค่อนขวด ส่วนคนที่เหลือก็จัดการช่วยกันเด็ดขาเด็ดปีกตั๊กแตนออก เพราะเป็นส่วนที่กินไม่ได้และเพื่อไม่ไห้เปลืองน้ำมันเวลาทอด ส่วนตัวเมียที่มีไข่ก็จะแยกเอาไว้ทอด
ต่างหากนับไว้ว่าของใครได้กี่ตัว ทอดสุกแล้วก็ได้กินเท่าจำนวนที่ตัวเองจับได้มา ส่วนตัวผู้ทั้งหมดทอดรวมเป็นกองกลางใครกินก็ได้ ตัวมีไข่ที่ต้องทอดหลังสุดเพราะว่าเวลาทอดต้องหาฝาครอบ ไม่งั้นไข่ในท้องมันจะแตกกระเด็นไปทั่ว หรือลงในกระทะทำให้ไหม้เร็วเวลาทอด
ฝนเริ่มลงเม็ดมาอีกครั้งและหนาเม็ดขึ้นเรื่อยๆ ผมกับเดี่ยวถอดเสื้อออกมาบิดน้ำ แล้วตากพาดไว้กับฝาขนำ โมทย์ก่อไฟที่ใต้ถุนขนำกองนึง ไว้ผิงไฟไล่ความหนาว ส่วนผมขึ้นไปเป็นลูกมือช่วยทอดตั๊กแตน
ถ่านในเตาคุแดงจนเกือบหมดเปลว พ่อครัวเอากระทะตั้งไฟ เทน้ำมันลงไปจนหมดขวด รอจนน้ำมันร้อนได้ที่ก็เทตั๊กแตนในถุงที่เด็ดปีกเรียบร้อยแล้วลงไปในกระทะ เสียงดังฉ่า ควันลอยฟุ้งพร้อมกลิ่นหอมของเนื้อตั๊กแตนทอดลอยไปทั่ว
ไม่นานตัวมันก็เริ่มเหลือง ใช้ตะหลิวพลิกไปพลิกมาสองสามครั้ง พอได้ที่ก็ตักขึ้นมาใส่ถาดที่เตรียมเอาไว้ แล้วจัดการเทส่วนที่เหลือในถุงลงไปทอดอีก ปิดท้ายด้วยการทอดตัวเมียไข่เต็มท้องที่คัดแยกเอาไว้แล้ว
เสียงไข่ในท้องของมันแตกดังเปาะแปะ ระคนกับเสียงฉ่าของน้ำมันเดือด ทอดกรอบเสร็จสรรทุกคนไม่รอช้าด้วยความหิว ฉวยขึ้นมาไว้ในมือคนละตัว บิดส่วนหัวของมันดึงขี้ในท้องติดออกมาทั้งยวงโยนทิ้ง ส่วนตัวตั๊กแตนจิ้มลงในถ้วยน้ำปลาตรงหน้า แล้วโยนเข้าปากเคี้ยวแก้มตุ่ย สัมผัสถึงความ กรอบ หอม มัน ผสมรสเค็มของน้ำปลา ยังกลมกล่อมอยู่ในปากไม่รู้ลืม.
โฆษณา