22 ก.ย. 2020 เวลา 07:14 • ธุรกิจ
คนดัง & แบรนด์ยักษ์ใหญ่
ร่วมกันบอยคอตต์เฟซบุ๊ก 🙅‍♂️🚫
ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ Facebook ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์หลังปล่อยให้เกิดข้อความที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech), เนื้อหาที่มีความรุนแรง, รวมถึงข้อมูลบิดเบือน ว่อนเต็มแพลทฟอร์ม
อดีตพนักงานเฟซบุ๊กผู้มีหน้าที่คัดกรองบัญชีปลอม ออกมาเปิดเผยว่า ผู้บริหารมักจะละเลยหรือลงมือช้าต่อคำเตือนของเธอเรื่องข้อมูลเท็จ
มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ถูกกดดันอย่างหนัก
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เซเล็ปอเมริกันหลายคนร่วมกันเข้าแคมเปญหยุดใช้เฟซบุ๊ก & อินสตาแกรม เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
ลูกค้ารายใหญ่หลายรายของเฟซบุ๊กประกาศว่าจะหยุดการโฆษณาบนเฟซบุ๊กชั่วคราว เพื่อกระตุ้นให้เฟซบุ๊กหันมาเอาใจใส่เรื่องนี้อย่างจริงจัง
// 99% ของกำไรที่เฟซบุ๊กทำ ล้วนมาจากการโฆษณา และการบอยคอตต์ที่เกิดขึ้นก็ส่งผลให้มูลค่าตลาดของเฟซบุ๊กตกลงไป 8%
.
.
'เซเลนา โกเมซ' นักร้องและนักแสดงสาววัย 28 ปี เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงซีอีโอเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ “ปัญหาร้ายแรง” ที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย
“ปีนี้เป็นปีแห่งการเลือกตั้ง เราไม่สามารถรับได้กับข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับการลงคะแนนเสียง”
นอกจากนี้เธอยังเรียกร้องให้ซัคเกอร์เบิร์ก “ตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูล” บนแพลทฟอร์ม
“หวังว่าจะได้รับการตอบกลับจากคุณโดยเร็ว”
,
ด้าน 'คิม คาร์เดเชียน เวสต์' แฟชั่นดีไซเนอร์ เขียนข้อความลงบนอินสตาแกรมของเธอว่า เธอไม่สามารถนิ่งเฉยและปิดปากเงียบในขณะที่แพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียเหล่านี้ปล่อยให้เกิดการเผยแพร่ความเกลียดชังและข้อมูลเท็จ ซึ่งสร้างขึ้นโดยกลุ่มคนที่ต้องการแบ่งแยกอเมริกา
“ข้อความเท็จที่ถูกแชร์บนโซเชียลมีเดีย ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการเลือกตั้ง และบั่นทอนควมเป็นประชาธิปไตยของเรา”
.
.
“เฟซบุ๊กจงใจเพิกเฉยต่อกลุ่มติดอาวุธที่วางแผนก่อความรุนแรงในเคโนชา มือของเฟซบุ๊กเปื้อนเลือดแล้ว”
💬 ตัวแทนจากองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนมุสลิม
,
“แม้จะได้รับการแจ้งเตือน แต่เฟซบุ๊กก็ยังล้มเหลวในการปิดเพจของกลุ่มติดอาวุธเคโนชา”
💬 ซีเอ็นเอ็น
,
“Hate Speech บนเฟซบุ๊ก กำลังทำให้เอธิโอเปียตกอยู่ในภาวะอันตรายใกล้เคียงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
.
.
อันที่จริง ประเด็นเรื่องที่มีการเรียกร้องให้เฟซบุ๊กจัดการกับคำพูดที่สร้างความเกลียดชัง มันเริ่มมาตั้งแต่กระแส Black Lives Matter ยังพีค ๆ
เนื่องจากเฟซบุ๊กปล่อยให้มีคำพูดเหยียดชาติพันธุ์, เหยียดสีผิว, รวมถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ที่กระทบโดยตรงต่อเหล่าบรรดาชุมชนคนดำและกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลาย
2
จุดนี้เอง ที่ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ร่วมร้อยแบรนด์ พร้อมใจกันเข้าแคมเปญเพื่อคงไว้ซึ่งค่านิยมของชาวอเมริกัน นั่นก็คือ “เสรีภาพและความเท่าเทียม” โดยการหยุดยิงโฆษณาบนเฟซบุ๊ก เพื่อหวังให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก
“คุณจะเลิกทำกำไรจากความเกลียดชังหรือไม่?”
“จงหยุดทำร้ายชุมชนของเรา”
บทความที่คุณอาจจะสนใจ :
👀 NIKE ฉีกสโลแกนเดิม
ยืนหยัดต่อต้าน “การเหยียด” 🙅‍♂‍
อ้างอิง :
โฆษณา