23 ก.ย. 2020 เวลา 12:38 • นิยาย เรื่องสั้น
Ep.19 ล่าตัวอ้น
ฝนซาเม็ดไปพักใหญ่แล้ว เหลือเพียงแค่น้ำร่วงเป็นครั้งคราว เมื่อลมพัดมาเบาๆ ผมแบกพร้าอันเล็กก้าวตามหลังแม่ที่เดินแบกพร้าเดินนำพร้อมถุงปุ๋ยในมือ ฤดูฝนเพิ่งมาไม่นานนัก แม่ชวนผมออกไปหาหน่อไม้ที่ป่าไผ่ริมคลอง ผมใส่หมวกปีกกว้างของแม่ ใส่เสื้อแขนยาวรัดกุม และรองเท้าบู๊ทคู่เล็กประจำตัว แม่กำชับให้แต่งตัวให้มิดชิด กันฝน กันยุง กันงูสารพัด แต่ที่ขาดไม่ได้เวลาออกจากบ้านเข้าป่าคือมีดพร้าที่พ่อมักจะสั่งเอาไว้เสมอ กับหนังสติ๊กคู่ใจ แม่เดินนำลัดเลาะไปตามเส้นทางที่เปียกแฉะ จนเริ่มเข้าเขตป่าไผ่ริมคลอง มีไอ้ดำหมาไทยตัวเก่งวิ่งนำหน้า คอยแวะดมนี่ดมโน่นตลอดทาง
น้ำในคลองไหลเชี่ยวเป็นสีชาเพราะฝนตกหนัก ตลิ่งและก้อนหินใหญ่ๆ ที่เคยมองเห็นจมอยู่ใต้น้ำหมด แม่เดินหาช่วงลำคลองที่ตื้นที่สุดแล้วจึงค่อยข้าม จูงผมไว้ด้วยตลอดเวลา เพราะน้ำลึกจนถึงระดับอกผมเลยที่เดียว แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับไอ้ดำที่ลอยคอตามมาติดๆ หลังจากข้ามมาได้แล้วก็ต้องถอดรองเท้าบู๊ทเทน้ำออกกันทั้งสองคน
ที่ริมตลิ่งทั้งสองด้านเป็นดงไผ่เกรียบ เป็นต้นไผ่ที่มีเนื้อบางชาวบ้านนิยมตัดมาสานเป็นฝาบ้าน และหน่อของมันก็หวานกรอบอร่อย มองไปรอบๆ เห็นหน่อไผ่สีส้มผุดขึ้นจากดิน ละลานตาไปหมด สั้นบ้างยาวบ้าง แม่เริ่มลงมือตัดโดยเลือกเอาเฉพาะหน่อที่สูงจากดินประมาณคืบกว่าๆ แม่บอกว่าเนื้อมันจะแน่นกว่าหน่อที่สูงเลยเข่าไปแล้ว แม่ใช้พร้าสับลงไปที่โคนหน่อแล้วงัดให้หักอย่างชำนาญ ผมเปิดปากถุงกระสอบปุ๋ยให้แม่ใส่หน่อไม้ลงไป
ลมพัดมาเบาๆ พาน้ำฝนบนใบไม้ร่วงลงดินกราวใหญ่ ท้องฟ้าดูฉ่ำน้ำคล้ายฝนห่าใหม่จะเทลงมาอีก แม่ได้หน่อไม่หลายหน่อแล้ว ผมหักกิ่งไม้เล็กๆ มาโบกพัดไล่ยุงที่บินเป็นฝูงอยู่รอบตัว ในป่าเปียกชื้นยิ่งตอนหลังฝนตกจะเป็นที่ชุมนุมของยุงเป็นฝูง ถ้ามัวยืนนิ่งๆ ละก็ โดนยุงหามแน่ๆ ส่วนไอ้ดำมันก็เดินดมสำรวจไปตามเรื่องของมัน ผมขี้เกียจยืนเฉยบริจาคเลือดให้ยุง จึงฉวยพร้าเข้าไปช่วยแม่ตัดหน่อไม้ด้วยอีกคน
ไผ่เกรียบกอแน่นต้นไม่โตมากนักแต่สูงหลายเมตร ใบที่แก่จัดหล่นลงมาทับถมกองที่โคนกอเป็นสีน้ำตาลเต็มพื้นที่ ริมกอไผ่ผมองเห็น รูอ้น ตามที่พอเคยสอนบอกเอาไว้ เป็นรูเก่าซึ่งตัวมันอาจจะย้ายไปที่อื่น หรือโดนจับ ไปแล้ว อ้นเป็นสัตว์ฟันแทะเช่นเดียวกับหนูและกระรอก แต่ตัวโตกว่ามาก อาศัยขุดรูอยู่ใต้ดิน โดยเฉพาะบริเวณใต้กอไผ่ เพราะมันชอบกินหน่อไผ่รากไผ่เป็นอาหาร ผมเดินสำรวจรูอ้น จนไปเจอรูใหม่อีกสองรูกะว่าวันหลังจะชวนสมาชิกมาลองจับอ้นดูบ้าง
ผมขุดหน่อไผ่ได้สองสามอันแล้วเดินกลับไปใส่ ถุงปุ๋ยที่แม่ ซึ่งตอนนี้ได้เกือบเต็มแล้ว จากนั้นก็หันไปเห็นหน่อไผ่อีกอันที่อยู่ลึกเข้าไปในกอ อ้วนกลมน่ากิน แต่ด้วยมีต้นไผ่แห้งล้มขวางอยู่สองสามต้น จึงใช้ พร้าสับออกเพื่อจะได้มุดเข้าไปสะดวก ทันทีที่ต้นไผ่ขาด ผมก็ก้มตัวทำทามุด มีเสียงขู่ฟ่อๆ เหมือนลูกแมวอยู่เบื้องหน้าทำให้ผมชะงัก หัวใจแทบหยุดเต้น เจ้าอสรพิษตัวดำท้องเหลืองตวัดชูหัวขึ้นมา แผ่แม่เบี้ยห่างอยู่แค่สองวา ผมร้องว้ากพร้าหลุดมือ
จากท่านั่งยองเตรียมมุดเลยหงายหลังก้นกระแทกดิน ตัวชาเหมือนเลือดแข็งตัว ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้น ไอ้ดำก็กระโดดเข้ามาขวางผมกับงูเอาไว้ เห่าเสียงขรมลั่นป่า พลางกระโดดล่อซ้ายที่ขวาทีจนเจ้างูชะงัก
เหมือนคอเสื้อโดนรวบจากทางด้านหลัง แม่นั่นเอง ดึงลากผมถอยหลังช้าๆ ทั้งที่ยังนั่งเหยียดยาวอยู่ พอห่างไปก็ดึงผมลุกขึ้น ผมแหงนมอง แม่เองก็หน้าซีดตกใจอย่างเห็นได้ชัด ไอ้ดำเห่าวิ่งวนไปมารอบๆ ตัวงูเห่าดง ที่พยามยามหมุนคอมองตามไปตลอดเช่นกัน ไม่นานมันก็ลดคอลง ค่อยๆ เลื้อยหนี้ไปอีกทาง โดยมีไอ้ดำยังเห่าเดินตามไปติดๆ จนห่างออกไป แม่เรียกให้ไอ้ดำอยู่สี่ห้าครั้ง กว่ามันจะกลับมา
แม่มองตาผมอย่างโล่งใจ แบกกระสอบขึ้นบ่าชวนกลับบ้าน ไม่พูดอะไรมากบอกปลอดภัยก็ดีแล้ว วันหลัง อย่าเข้าไปเล่นในป่ารกๆ นะจำไว้ ผมรับปากอย่างว่าง่าย
ฝนเว้นช่วงไปสองวันแล้ว หลังเที่ยงวันแดดเริ่มกล้า ป่าเริ่มแห้ง สมาชิกสามสหายเดินลัดเลาะตรงไปที่ป่าไผ่ที่ผมมากับแม่เมื่อวันก่อน พร้อมอุปกรณ์ครบ ทั้งมีดพร้า เสียม ถังน้ำ หนังสติ๊กและกระสุนเต็มกระเป๋า เพราะผมเล่าถึงเรื่องเจองูเห่าบริเวณนั้นให้ฟัง ไอ้ดำไม่ได้มาด้วย แต่เป็นไอ้แต้ม หมาของเดี่ยวมาแทน เดินนำมาถึงริมคลองซึ่งน้ำลดลงไปเป็นระดับปกติแล้วสามารถเดินข้ามง่ายๆ
ไม่นานก็มาถึง รูอ้น ที่ผมหมายตาไว้ แต่ก็ไม่วายเหลือบไปมองตรงที่เกิดเหตุแบบเสียวๆ เป็นครั้งคราว ปรากฏว่าอ้นร้างไปแล้วรู นึงเหลือเพียงรูเดียวที่เห็นรอยเข้าออกชัด เดี่ยวกับโมทย์เดินออกไปสำรวจรูหนีสำรองของอ้นรอบๆ กอไผ่ที่อยู่ริมคลอง มีบึงน้ำตื้นๆ แค่เข่า
อ้น มันมักจะขุดเอาไว้สองสามรูไว้หนีฉุกเฉินเวลาออกทางรูประจำไม่ได้ เจอแล้วก็หาไม้อุดรูไว้ให้แน่นทุกรู ส่วนผมก็กวาดใบไม้ปากรูฝั่งริมคลองให้เตียน เตรียมพื้นที่เพื่อตักน้ำมากรอกลงรู เป็นวิธีเบื้องต้นในการจับอ้น พอน้ำเต็มรูหนีไม่ได้มันก็จะคลานออกมาเอง ถ้าไม่สำเร็จก็ต้องก่อไฟใช้ควันไล่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องขุดซึ่งเป็นวิธีสุดท้าย แต่เราคงไม่มีแรงทำถึงขั้นนั้น และอาจไม่คุ้มกับการไม่พบตัว ที่จะต้องล้มกอไผ่ทั้งกอ เดี่ยวลงมาสมทบบอกว่าจัดการรูหนีสำรองเรียบร้อยแล้ว แต่เพื่อความไม่ประมาทให้โมทย์คอยถือไม้ยืนคุมเชิงที่ปากรูไว้ด้วย
ผมเริ่มลงมือใช้ถังตักน้ำจากคลอง ส่งให้เดี่ยวเป็นคนเทใส่รูอ้น ไอ้แต้มอยู่ไม่สุขวิ่งมาคอยดมที่ปากรูบ่อยๆ เหมือนได้กลิ่นตัวอ้นด้านใน เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วที่ผมเทียวตักน้ำไปส่งให้เดี่ยวใส่รูอ้น จนลืมนับจำนวนถัง แต่ที่รู้เหงื่อเริ่มไหล แขนเริ่มล้า น้ำก็ยังไม่เต็มรูสักที แสดงว่ามันลึกเอาการเลยทีเดียว เสียงโมทย์ตะโกนถามมาเป็นครั้งคราวถึงความคืบหน้า
เดี่ยวบอกว่าน้ำเต็มรูแล้ว ผมรีบวางถังแล้วคว้าเชือกในล่อนที่ทำเป็นบ่วง สำหรับคล้องไปวางที่ปากรูที่มีน้ำปริ่มๆ อึดใจน้ำในรูก็มีอาการสั่นไหว ลดบ้าง เพิ่มบ้าง ดันเข้าออกเป็นจังหวะ เดี่ยวหันมายักคิ้วยิ้มอย่างมีชัย
และแล้วหนวดและฟันบนสองซี่ก็โผล่มาให้เห็น ผมใจเต้นระทึก รอให้ส่วนหัวคล้ายหนูผสมกระต่ายโผล่ขึ้นมาจนถึงส่วนคอ ผมกระชับเชือกบ่วงในมือแน่น แล้วรูดบ่วงรักเข้าตรงกลางลำคอของมัน พอดี ดึงขึ้นอย่างเร็ว ปล่อยให้ตัวมันห้อยแขวนดิ้นกระแด๋วกลางอากาศ ถึงกระนั้น น้ำหนักตัวเกือบสองกิโลของมันก็เกือบถือไว้ไม่อยู่ ตะโกนบอกให้เดี่ยวรีบเอาเชือกอีกเส้นมาคล้องมัดเพิ่มอีก ไอ้แต้มวิ่งเห่ารอบๆ เสียงขรม กระโจนขึ้นจะงับตลอดเวลา จนตัวมันชนผมเกือบเสียหลักล้ม เดี่ยวตั้งท่าจะมัดเชือกเพิ่มอีกเส้น
ทันใด ก็มีเสียงร้องว้ากของโมทย์ลั่นป่า ตามด้วยเสียงวิ่งแหวกป่าสวบสาบมุ่งมาทางเรา ภาพที่เห็นคือโมทย์โจนทะยานลอยจากริมตลิ่งด้านบน หล่นตูมลงไปยืนกลางคลอง ปากตะโกนบอก งู งู ผมตัวเย็นวาบแขนอ่อนจนตัวอ้นเกือบร่วง จังหวะเดียวกันที่ไอ้แต้มกระโจนขึ้นงับอ้นจนผมล้ม เชือกหลุดจากมือ เดี่ยวดึงผมลุกขึ้น แล้วก็พากันวิ่งปีนขึ้นตลิ่งอีกฝั่ง ไปตั้งหลักหลายเมตรเลยที่เดียว
เสียงไอ้แต้มยังเห่าเสียงขรมตรงกอไผ่ ไม่รู้เห่าอ้นหรืองู โมทย์เล่าอย่างตื่นเต้น ว่ายืนคุมเชิงรูอ้นอยู่จนทางเราจับอ้นได้แล้ว อยู่ๆ งูเห่าตัวดำเกือบเท่าแขนโผล่มาจากไหนไม่รู้ ห่างแค่ราวสองเมตรเอง พอโผล่มาปั๊บก็หันควับมามอง มันก็เลื้อยตรงมาหาทันที เท้าเร็วกว่าความคิดติดเทอร์โบวิ่งโดดลงคลองทันที พลางถามหาอ้นที่จับได้ ผมบอกไอ้แต้มทำหลุดมือไปแล้ว เดี่ยวบ่นอุบบอกเสียดายไม่ขาดปาก
ครู่ใหญ่พอตั้งสติได้ เราเตรียมอาวุธพร้อมกระสุนเต็มอัตรา ค่อยๆ เดินย้อนกลับเข้าไปตรงที่เดิม ขณะที่เสียงไอ้แต้มก็เริ่มซาลง ตรงโคนกอไผ่ไอ้แต้มเอาจมูกมุดดิน สลับใช้ขาตะกายขุดดินบริเวณนั้นอย่างเมามัน แสดงว่าอ้นหนีเข้าไปอยู่ในนั้นแน่นอน โดยที่ไอ้แต้มเองอาจจะไม่เห็นงู หรืองูอาจจะไม่ไล่ตามเลื้อยมาแถวนั้น
สรุปผมกับเดี่ยวยืนถือหนังสติ๊กคุมเชิง ให้โมทย์เป็นคนเข้าไปเก็บรวบรวมอุปกรณ์กลับบ้าน โดยไม่คิดจะสนใจเรื่องอ้น ระหว่างเดินกลับเดี่ยวบ่นโมทย์ยกใหญ่ ที่ทำเสียเรื่องจนวงแตก โมทย์ก็บอกให้เดี่ยวเป็นคนเจองูแทนจะเอาไหม เสียงดังลั่นไปตลอดทาง ส่วนผมเดินเงียบๆ ในใจคิดเข็ดที่จะเข้าไปบริเวณนั้นอีกนาน และถ้าแม่รู้ อาจจะได้ไม้เรียวเป็นของแถม สงสัยกรรมตามทัน จะไปล่ากลับเกือบโดนล่าเสียเอง.
โฆษณา