24 ก.ย. 2020 เวลา 01:08 • ไลฟ์สไตล์
ธรรมดา ที่ ไม่ธรรมดา
ไก่แจ้ ขึ้นราวประชันเสียงขัน (ภาพยืมมา)
มีอยู่ช่วงหนึ่ง ทางภาคไต้เขาบูมเรื่องไก่แจ้แข่งเสียงขัน โดยการนำไก่แจ้รุ่นๆกำลังหัดขันเอามาเลี้ยงโดยการนำเชือกถักมาคล้องที่ขาแล้วนำมาผูกใว้กับราวไม้สูงจากพื้นประมาณเมตรกว่าๆ เพื่อเลี้ยงให้เชื่อง และขุนให้ขัน จากนั้นก็นำไปขึ้นราวในสนามแข่ง
ช่วงนั้น คนแถวบ้านตื่นตัวกันมาก ต่างคนก็เสาะหาไก่แจ้มาเลี้ยง ช่วงนั้นราคาไก่แจ้ ตัวเท่ากำปั้น ราคาอยู่ที่ตัวละ 500 บาท เป็นอย่างต่ำ ส่วนตัวที่พร้อมขึ้นราวแล้ว ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,500 บาท -6,000 บาท เลยทีเดียว ขึ้นอยู่ที่ว่าไก่ตัวนั้นมีประสบการณ์แข่งมามากน้อยแค่ไหน
ผู้เขียนถนัดเรื่องไก่ชนมากกว่า
ผู้เขียนเอง ปกติเป็นคนชอบไก่ชน แต่ก็ทนกระแสไม่ไหว เลยต้องไปหาพ่อพันธ์แม่พันธ์มาเลี้ยงเพื่อเพาะพันธ์ให้ได้ลูกไก่แจ้สายเลือดดีใว้เพิ่มมูลค่าในอนาคต
ก็ลงทุนซื้อเหล็ก มาเชื่อมเป็นคอก ซื้อตระข่ายมากั้นอย่างดี แล้วปล่อยพ่อพันธ์แม่พันธ์เข้าไป ข้าวน้ำ ผัก หญ้า หัวอาหาร เต็มที่
ที่สุดแม่พันธ์ก็ไข่ ผู้เขียนก็เฝ้ารอ วันแล้ววันเล่า เพื่อจะได้ไก่ชุดแรก ที่สุดแม่ไก่ฟักแล้วก็ได้ลูกไก่มา แปดตัว แล้วต่อมา ลูกไก่ก็ทยอยตายไปทีละตัวสองตัว เหลือรอดอยู่สามตัว ผู้เขียนจึงปล่อยออกจากคอกให้แม่ไก่ได้พาลูกหากินข้างนอก สุดท้ายลูกไก่ตายหมด ผู้เขียนคิดว่าแม่ไก่น่าจะเลี้ยงลูกไม่ดี ก็เลยหาแม่พันธ์มาใหม่ แต่คราวนี้แม่ไก่ฟักแต่ผู้เขียนยุ่งๆกับงาน จึงไม่ได้ไปดูสุดท้าย ลูกไก่ตายในรังยกคอกเลย
ที่สุดผู้เลี้ยงก็เลยหมดใจ ที่จะเพาะพันธ์ไก่แจ้ ตามที่เคยตั้งใจใว้ ก็เลยปล่อยเลยตามเลยคือเลี้ยงปล่อย ส่วนคอกก็นำมาเลี้ยงไก่ชน ส่วนไก่แจ้ ก็หว่านข้าวเปลือกให้กินบ้าง ข้าวเหลือก้นหม้อบ้าง วันหนึ่งเห็นแม่ไก่แจ้มันไปไข่ในกอข่าข้างบ้าน แต่ผู้เขียนก็ไม่ได้สนใจ จนวันหนึ่งมันก็พาลูกๆออกมาหากิน นับได้สิบสองตัว แต่ที่น่าแปลก มันรอดทุกตัว ไม่ตายเหมือนที่เราเลี้ยงมันในคอก ส่วนแม่ไก่อีกตัวก็ไม่รู้มันไปไข่ที่ไหน แต่วันหนึ่งมันก็พาลูกๆของมันออกมาคุ้ยเขี่ย
ผู้เลี้ยงแสนจะแปลกใจ ตอนเราเลี้ยงซะดิบดี แต่กลับไม่ได้ผล แต่พอปล่อยตามมีตามเกิดกลับได้รับผลเกินความคาดหมาย ฉุกคิดย้อนหลังไปกับไอ้สิ่งที่เราทำมา มันขี่ช้างจับมดชัดๆ
นี่หรือเปล่าที่เขาว่า "ธรรมชาติคือชีวิต"
โฆษณา