26 ก.ย. 2020 เวลา 13:00 • สุขภาพ
"นักชิมน้ำ"
อาชีพไม่ธรรมดาที่บอกให้เรารู้ว่า "น้ำ" แต่ละแห่งบนโลกใบนี้มีรสชาติและคุณค่าที่ต่างกัน
ภาพจาก pixabay
บางคนอาจจะบอกว่าน้ำเปล่ายี่ห้อไหน ๆ ก็เหมือนกันหมด ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกว่ามันมีรสชาติต่างกันนิดหน่อย แต่เราคงไม่สามารถแยกแยะรายละเอียดปลีกย่อยที่มากไปกว่านั้นได้
นี่จึงเป็นที่มาของ "นักชิมน้ำ" หรือ "Water Sommelier" อาชีพที่จะทำให้เราเห็นคุณค่าของน้ำดื่มมากขึ้น
Martin Riese นักชิมน้ำที่สนใจด้านน้ำดื่มมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ก่อนจะเริ่มศึกษาอย่างจริงจังในปี 2005 จนกระทั่งได้รับการรับรองให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำดื่มจาก German Water Trade Association ในปี 2010
Martin Riese
เขาบอกว่าน้ำดื่มแต่ละยี่ห้อจะมีการบอกปริมาณของแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ละลายอยู่ในน้ำ หรือ TDS (Total Dissolved Solids)
น้ำที่มีค่า TDS สูง หรือที่เราเรียกกันว่า "น้ำแร่" จะมีแร่ธาตุพวกโพแทสเซียม แคลเซียม และแมกนีเซียม ละลายอยู่มากเป็นพิเศษ
แต่น้ำแร่ที่ได้มาจากคนละพื้นที่ก็จะมีรสชาติที่แตกต่างกันไปตามปริมาณของแร่ธาตุที่ละลายอยู่ในนั้น
ตัวอย่างเช่น น้ำแร่ VOSS ของนอร์เวย์ที่ได้มาจากธารน้ำแข็ง ซึ่งมีค่า TDS เพียงแค่ 40 จะมีรสชาติเหมือนน้ำบริสุทธิ์ทั่วไป
ในขณะที่น้ำแร่ Iskilde ที่ผลิตมาจากน้ำในฤดูใบไม้ผลิในเขตอนุรักษ์ของเดนมาร์ก ซึ่งมีค่า TDS อยู่ในระดับ 400 จะมีรสชาติของแร่ธาตุที่เข้มข้นมากเมื่อเทียบกับน้ำแร่ VOSS
นักชิมน้ำไม่ได้มีเฉพาะแค่ชาวต่างชาติอย่าง Martin Riese เท่านั้น เพราะมีคนไทยอยู่คนหนึ่งที่ทำอาชีพนี้เหมือนกัน
ชื่อของเธอ คือ วรจรรย์ เที่ยงธรรม หรือคุณปอ
คุณปอเป็นนักชิมน้ำคนแรกของประเทศไทย ซึ่งได้เดินทางไปศึกษาเรื่องน้ำดื่มอย่างจริงจังถึงประเทศเยอรมนี
คุณปอ-วรจรรย์ เที่ยงธรรม
เธอบอกว่าน้ำดื่มที่ดีควรจะทั้งสะอาดและมีประโยชน์ โดยแต่ละคนควรจะเลือกน้ำดื่มให้เหมาะสมกับตัวเอง เพราะน้ำดื่มชนิดหนึ่งอาจจะเหมาะกับคนคนหนึ่ง แต่อาจไม่เหมาะกับอีกคนก็ได้
นักชิมน้ำไม่ได้คิดว่าน้ำดื่มเป็นเพียงแค่สิ่งที่ช่วยดับกระหายให้กับเราเท่านั้น แต่มันยังช่วยบรรเทาอาการป่วยเบื้องต้นสำหรับคนที่ไม่สบายได้ด้วย
แน่นอนว่านักชิมน้ำไม่ใช่หมอ แต่จะเป็นเหมือนเภสัชกรที่สามารถแนะนำน้ำดื่มที่เหมาะสมให้กับผู้ที่มีอาการป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ปวดท้อง ปวดหัว ปวดประจำเดือน ไมเกรน กรดไหลย้อน หรือท้องผูก เพื่อให้อาการเหล่านี้บรรเทาเบาบางลง
โฆษณา