25 ก.ย. 2020 เวลา 03:54 • การเมือง
แก้รัฐธรรมนูญยังไงดีจะมีประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนสูงสุด
ภาพจากประชาชาติธุรกิจ
จุดเริ่มต้นของปัญหาในการล้มเหลวของทุกรัฐบาลที่ผ่านมา จากการวิเคราะห์ของผู้เขียนในการติดตามการเมืองมา ก็คือ
ได้คนที่ไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอ มาเป็นรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศ
ตามหลักกับการบริหารงานราชการแผ่นดิน ควรจะใช้ผู้มีความสามารถในด้านนั้น ให้ตรงกับสายงานที่ทำอยู่
การบริหารประเทศในด้านนั้นๆถึงจะไปรอดได้แล้วมีความสุขประสบความสำเร็จ
ปัญหาของรัฐบาลที่ผ่านมาทุกรัฐบาล จะต้องพบเจอก็คือ
การแบ่งโค้วตารัฐมนตรีของแต่ละพรรคการเมือง โดยแบ่งตามโควตาของ ส.ส. ที่ได้รับเลือกในแต่ละพรรค
ทำให้ไม่สามารถมีรัฐมนตรีที่เชี่ยวชาญในกระทรวงนั้นๆ มาทำงานให้ตรงกับสายงาน
เราจะได้รัฐมนตรีในแต่ละกระทรวงจากโควตาของพรรคการเมืองเท่านั้น ซึ่งจะส่งใครก็ได้มาทำงานตามโควตาที่ได้รับ
เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะในการบริหารประเทศเลยทีเดียว
ถ้าผู้เขียนสามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ จะขอเขียนบทบัญญัติไว้ว่า ผู้ใดที่จะมาเป็นรัฐมนตรีห้ามนำมาจากโควตาพรรคการเมืองโดยเด็ดขาด
จะต้องสรรหาผู้มีความรู้ความสามารถในด้านนั้นๆ มาบริหารกระทรวงต่างๆ มีวุฒิการศึกษาในด้านนั้น หรืออาจจะทำงานในด้านนั้นมาอย่างยาวนานและประสบความสำเร็จ
เช่นกระทรวงศึกษาธิการ ก็ต้องสรรหาจากผู้ที่เคยเป็นครูเคยสอนนักเรียน เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน เคยบริหารโรงเรียน และประสบความสำเร็จในการทำงาน
กระทรวงกลาโหม ก็ต้องสรรหาจากพวกผบเหล่าทัพต่างๆ ที่มีความรู้ความสามารถมาบริหารกระทรวงนั้น ๆ
กระทรวงสาธารณสุข ก็ต้องสรรหาจากหมอที่เคยตรวจคนไข้ เคยเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล ทำงานบริหารโรงพยาบาลประสบความสำเร็จ จะเป็นเอกชนหรือรัฐบาลก็ได้
กระทรวงพลังงาน ก็ต้องสรรหาจากผู้ที่ทำงานในด้านนี้ มีความรู้ความสามารถมีวุฒิการศึกษา และประสบการณ์ทำงานในด้านเกี่ยวกับพลังงาน ทำงานในบริษัทพลังงาน เคยบริหารงานด้านนี้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ต้องสรรหาจากผู้ที่ทำงานด้านป่าไม้ มีความรู้ความสามารถในการดูแลต้นไม้ ดูแลที่ดินอาจจะเป็นแค่ปราชญ์ชาวบ้านก็ได้ที่เขาปลูกต้นไม้เก่งๆ ทำเกษตรกรรมแล้วร่ำรวย หรือจะจบการศึกษาจากด้านนี้โดยตรงก็ได้
กระทรวงมหาดไทย ก็ต้องสรรหาจากผู้ที่เคยทำงานด้านนี้ เคยเป็นนายอำเภอ เคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ทำงานใกล้ชิดประชาชน
กระทรวงการคลัง ก็ต้องสรรหาจากบุคคลที่เคยทำงานได้ด้านการเงินโดยตรง เช่นธนาคารแห่งประเทศไทย หรือเป็น CEO ของธนาคารเอกชนรายใหญ่ มีประสบการณ์และวุฒิการศึกษาด้านการเงินโดยตรง
ที่กล่าวมานี้เป็นการยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ว่าการบริหารประเทศไม่ใช่ของเล่นสำหรับพรรคการเมือง ไม่ใช่ขนมเค้กสำหรับ ส.ส. ที่จะมาแบ่งโควตากันอย่างเอร็ดอร่อย
ส.ส. ควรจะทำหน้าที่ฝ่ายออกกฎหมายเท่านั้น.
ส่วนการเลือกคณะรัฐมนตรีต้องหาผู้มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงมาทำงาน สำหรับฝ่ายบริหาร ประเทศชาติจึงจะไปรอดและไม่ประสบกับหายนะ
รัฐมนตรีของจีนจะคัดจากมืออาชีพในด้านนั้น ๆ มาทำงาน ไม่ได้มาจากโควต้าพรรคการเมือง ทำให้ประเทศจีนพัฒนาประเทศไปได้รวดเร็วและราบรื่น
และผู้มีความรู้ความสามารถที่จะมาทำงานในกระทรวงนั้นๆ จะต้องผ่านการฝึกงานมาซักระยะหนึ่ง เช่นทำงานในกระทรวงนั้นมาซัก 5 ถึง 10 ปี แล้วจึงสามารถขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการได้
นี่เป็นความเห็นของผู้เขียนว่าถ้าเราอยากจะแก้รัฐธรรมนูญอยากจะแก้ตรงจุดไหน ถึงจะมีประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คือตอนที่ประเทศไทยประสบกับวิกฤตโรคระบาด covid รัฐมนตรีศาลสุขไม่มีความรู้ด้านสาธารณสุขเลย ทำให้นโยบายและความคิด ผิดเพี้ยนไปหมด
สุดท้ายก็ต้องตั้งหมอขึ้นมาคนหนึ่ง ที่มีความรู้ในด้านระบาดวิทยา ขึ้นมาเป็นหัวหน้าในการรับมือกับปัญหาโรคระบาด covid ครั้งนี้
พูดง่ายๆว่าถ้าเรายังใช้บริการรัฐมนตรีสาธารณสุข ที่ได้โควต้ามาจากพรรคการเมืองคนปัจจุบัน
รับรองว่าประเทศเราจะรับมือกับ covid ไม่ได้ราบรื่นขนาดนี้ หายนะมาเยือนอย่างแน่นอน
ดังนั้นผู้เขียนจึงเรียกร้องว่าคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติและประสบการณ์ในการทำงานระดับสูง เป็นมืออาชีพในด้านนั้น ๆ จึงจะสามารถบริหารประเทศให้ไปรอดได้
ไม่งั้นต่อให้เปลี่ยนรัฐธรรมนูญไปกี่ฉบับ เปลี่ยนรัฐบาลไปกี่รัฐบาล เปลี่ยนนายกฯไปสัก 10 คนแต่ยังได้รัฐมนตรีจากโควต้าพรรคร่วมรัฐบาล ความรู้ความสามารถไม่เพียงพอ มาบริหารประเทศประเทศก็เข้าสู่ความเป็นหายนะเหมือนเดิม วังวนเดิม ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้าชอบบทความนี้อย่าลืมกดไลค์กดแชร์กดติดตามเพื่อจะได้ไม่พลาดในความดีๆต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา