สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะทุกคน 😊
วันนี้แม่ป๋อมยกบันทึกที่ไม่ได้เขียนถึงปุญ แต่เขียนถึง "มาเอง".. หมาจิ๋วข้างถนนที่เคยอุปการะไว้ มาให้อ่าน
ส่วนคลิปตัดและลงไว้ในยูทูปตั้งแต่ปีที่แล้ว.. ปุญเล่นกับกระต่ายและหมาหุ่นยนต์ของเธอ
..
- Poon Station -
..
บันทึกเขียนขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ (2020) และเล่าไว้แบบนี้ค่ะ..
"มาเอง" เป็นลูกหมาไทยข้างถนน ที่เก็บมาเลี้ยง และอยู่กับเราช่วงสั้น ๆ .. จำได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอม ในปีหนึ่งของชั้นมัธยมปลาย
ถึงจะนาน(มาก😅)มาแล้ว แต่ภาพเหตุการณ์แว้บแรกที่เจอกัน และเรื่องราวของมาเองยังอยู่ในใจเสมอ
..
เป็นอีกวันปกติขณะกำลังเดินกลับจากการซื้อขนมกินแถวปากซอยหน้าบ้าน อาจต่างจากวันอื่นไปหน่อยตรงที่ ร้านขนมร้านนี้มีระยะไกลออกไป ไม่ใช่แถว ๆ ที่เคยซื้ออยู่ประจำ
ซื้อเสร็จแล้ว มือถือถุงขนม กินไปเดินไป มุ่งหน้ากลับบ้าน ..
แต่ความรู้สึกเหมือนมีอะไรเดินตาม .. หันกลับไปดูในระยะต่ำกว่าสายตาปกติ ที่เห็นคือลูกหมาไทยข้างถนน หน้าตาทู่ ๆ อมโรคนิด ๆ ขาสั้น ๆ ขนเกรียน ๆ สีน้ำตาลออกทอง (หรือเหลืองดี .. เพราะ "ทอง" ดูรวยไปไม่เข้ากับหมาข้างถนนมั้ย🤔)
แว้บแรกที่คิดคือ .. ทำไมเจ้าถึงตัวจิ๋วได้ขนาดนี้
เพราะมันจิ๋วจริง ๆ .. ที่สุดเท่าที่เคยเห็นลูกหมา แบบที่เดินได้แล้ว ไม่ใช่แบบที่ยังนอนกลิ้งดูดนมแม่อยู่ .. มาตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้
หันไปผูกมิตรด้วยขนมที่มีอยู่ในมือ .. คุยไปยื่นขนมให้กินไป จำได้ว่าไม่นานเพราะนางไม่กิน ไม่แน่ใจว่าเพราะขนมไม่อร่อย นางไม่หิว หรือเพราะแม่สั่งไว้ไม่ให้กินขนมจากคนแปลกหน้า .. ข้อนี้ไม่ได้ถามเหมือนกัน
พอเห็นอาการว่าไม่ได้สนใจขนม เลยหันหลังกลับแล้วเดินต่อไป แต่ก็เดินแบบขาก้าวไปข้างหน้า ตา
มองไปข้างหลัง ส่วนปากก็คุยกับเจ้าจิ๋ว .. ถามเรื่องแม่ เรื่องพี่ เรื่องน้อง เรื่องบ้าน
แต่ไม่ว่าจะเป็นก้าวที่ห้า ที่สิบ ที่ยี่สิบ ... เจ้าจิ๋วก็ยังกึ่งวิ่งกึ่งเดินด้วยขาสั้นๆ ตามมา โดยไม่ตอบคำถามใด ๆ
จนก้าวที่ใกล้จะถึงบ้านเต็มที มองไปก็ยังเห็นเจ้านี่ตามมาในระยะห่าง ๆ
หยุดยืนรอให้มันเข้ามาใกล้ ระหว่างนั้นก็มองซ้าย มองขวา มองไกล ๆ ออกไป เผื่อว่าจะเห็นหมาแม่ลูกอ่อน หมาเด็กขนาดจิ๋วตัวอื่น ๆ หรือเจ้าของที่กำลังตามหาหมาหลง .. แต่สุดท้ายก็ไม่มี
พอจิ๋วเดินหางกระดิกมาหยุดที่ใกล้ปลายเท้า ก็เอามือช้อนพุงหนีบกลับบ้านมาแบบไม่คิดอะไรมาก ... เหมือนว่าช่วงนั้นกำลังขาดหมาในสังกัดอยู่พอดี (ซึ่งปกติจะมี ไม่ตัวก็หลายตัวตลอด)
จับอาบน้ำ หาข้าว หาที่นอน คุยเล่นด้วยแบบนั้นอยู่สองสามวัน .. ส่วนชื่อ เรียกมันว่า "มาเอง" .. จากประวัติที่เล่ามาข้างบน
ช่วงนั้นเหมือนมีการก่อสร้างที่บ้าน ทำให้ไม่มีรั้วปิดมิดชิด กลางคืนมาเองก็นอนนอกบ้าน ส่วนกลางวันก็ไม่ค่อยมาให้เห็นหน้า บางทีทั้งเรียกทั้งหาก็ไม่เจอ ดูเป็นหมาลึกลับ ..
ที่แปลกอีกอย่างคือ มาเองเป็นหมาไม่ตะกละ หรืออีกทีคือ ไม่กิน ... ข้าวที่ให้ไว้ก็ดูจะพร่องไปน้อยมาก และที่แปลกกว่าแปลกคือท้องที่กลม โต ใหญ่ .. ดูผิดปกติ ทั้ง ๆ ที่กินน้อย .. เลยคิดว่ามันต้องไม่สบาย มีอะไรในพุงแน่นอน
จับตัวขึ้นมาอุ้ม จิ้ม ๆ ไปทั่วพุง ก็เหมือนว่ามาเองจะไม่เจ็บปวดอะไร .. จับพลิกคว่ำ พลิกหงาย ยกขาสั้น ๆ ขึ้นดูให้ทั่ว ประมาณสำรวจร่างกาย ..
สุดท้ายมาเจอตอนยกหางขึ้นดู ถึงพบว่า.. มาเองไม่มีก้น ..
คือ .. ก้นสำหรับนั่งน่ะมี แต่ที่ไม่มีคือ "รูก้น"
เหตุการณ์คร่าว ๆ หลังจากที่รู้ว่ามาเองไม่มีก้นคือ ..
จับมาเอง ใส่ตะกร้า ปั่นจักรยานไปกับพี่ปอ กะพาไปหาสัตวแพทย์ ที่คลินิก ที่ว่าไปอยู่ไกลบ้านออกไปเกือบสิบกิโล .. บางทีเราปั่น บางทีพี่ปอปั่น เพราะทางไม่ดี ขี่ยาก ... ผลัดกันอยู่แบบนั้นจนถึง และพบว่า ร้านหมอปิด ..
เซ็งสุด ๆ กังวลใจเรื่องความไม่มีรูก้นของมาเองมาก ... นึกถึงตัวเอง เวลาไม่ได้เข้าห้องน้ำนาน ๆ .. กรณีมาเองคือตั้งแต่เกิด 🥺
ดูเวลาเปิดของร้าน และวางแผนกับพี่ปอว่าจะมากันใหม่วันรุ่งขึ้น
กลับมาบ้านก็ให้ข้าวให้น้ำ และคืนนั้นก็คุยเล่นกันเหมือนเดิม ก่อนที่คนกับหมาจะแยกย้ายกันไปนอน
แต่ตั้งแต่วันนั้นเราก็ไม่เจอกันอีกเลย ..
เพราะมาเองหายไป เช้าขึ้นมา ทั้งเรียก ทั้งหา ตลอดทั้งวัน และอีกหลาย ๆ วัน .. มาเองก็ไม่มาให้เห็น ไม่รู้เลยว่า ปวดท้องเพราะไม่ได้อึจนตาย หรือกลัวหมอจับผ่าก้นจัด จนต้องหนีออกจากบ้านไป
..
เวลานึกถึงหมาในสังกัดทีไร .. เรื่องของมาเอง จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ถึงจะยังคาใจกับการหายตัวไปของนางแต่ก็ถือว่านางเป็นหมาข้างทางตัวจิ๋ว ๆ ที่เลือกทางชีวิตของนางเอง ..
มาเองได้ ก็ไปเองได้ .. ง่าย ๆ แค่นั้นเอง😐
..
จบบันทึกนี้แค่นี้
ขอบคุณสำหรับการติดตาม
มีความสุขกับวันพักผ่อนมาก ๆ ค่ะ 😊