25 ก.ย. 2020 เวลา 02:46 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ความผิดซ้ำสองอาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งหากรัฐบาลสหรัฐไม่ให้ความสำคัญของความต่อเนื่องของมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ?
วิกฤตเศรษฐกิจครั้งที่ผ่านมาของสหรัฐในปี 2007-2009 ได้ให้บทเรียนสำคัญกับการดำเนินการแก้ไขสภาวะเศรษฐกิจหดตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในครั้งนี้ หากรัฐบาลไม่สร้างความต่อเนื่องในการกระตุ้นเศรษฐกิจและปล่อยให้เม็ดเงินเหล่านี้หมดไปก่อนระยะเวลาอันควรจะส่งผลทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกิดขึ้นได้ช้าและยากขึ้น
เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจกว่าล้านล้านเหรียญสหรัฐจากรัฐบาลได้ถูกอัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือธุรกิจและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวภายใน 6 เดือน ดีกว่าที่ทุกคนคาดการณ์ไว้ในช่วงเกิดวิกฤตใหม่ๆ
Business vector created by freepik - www.freepik.com
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเม็ดเงินดังกล่าวได้ถูกใช้ไปเกือบหมดแล้ว เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจลอตใหม่ที่คาดว่าควรจะมาก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงซึ่งเป็นผลพวงมาจากสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างพรรคการเมืองสองพรรคของสหรัฐ
โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้นกำลังส่งสัญญาณความเสี่ยงเนื่องจากการระบาดของโควิดยังคงอยู่ การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง การเพิ่มขึ้นของการจ้างงานลดลง และจำนวนผู้ยื่นคำขอสวัสดิการการว่างงานเพิ่มมากขึ้น
บทเรียนจากการบริหารจัดการวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2007-2009 นักวิเคราะห์หลายๆ คนมองว่าในครั้งนั้นรัฐบาลหยุดการอัดฉีดเม็ดเงินช่วยเหลือเร็วเกินไปทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทำได้ช้า และมีคนตกงานอยู่เป็นระยะเวลาหลายปี
นักวิเคราะห์ทั้งฝั่งอเมริกาและยุโรปได้ออกมาเตือนรัฐบาลของตนว่าการปล่อยให้เม็ดเงินช่วยเหลือหมดและไม่มีเม็ดเงินเพิ่มเข้ามาต่อเนื่องจะส่งผลให้ความผิดซ้ำซองในการบริหารจัดการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวิกฤตครั้งก่อนหน้าเกิดขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างเดโมแครตและรีพับริกันที่ยังตกลงกันไม่ได้
แม้แต่ประธานเฟด ยังได้กล่าวอย่างชัดเจนในการแถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวแต่ยังคงต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยเฉพาะมาตรการทางการคลังสำคัญมากที่จะช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ประธาน Federal Reserve Bank ของ Boston กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เศรษฐกิจต้องการเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเป็นอย่างมาก
ที่มา New York Times
โฆษณา