Yield Management
ไม่มีใครไม่รู้จักคำนี้แน่ๆครับ โดยเฉพาะชาว Marketing
พวกเราเองก็รู้จักและใ้ชักันอยู่ตลอดเวลา
เรามักจะมองกันว่าทำอย่าไรให้เราขายให้ได้ราคา "สูง" ที่สุด ทำอย่างไรเราจะ "Yield" ได้สูงที่สุด วิธีนี้ได้ผล และ ต้องทำแน่ๆครับ และทุกๆที่ก็ทำแน่นอน
แต่พวกเรามองกลับด้านกันครับว่า การ "Yield" จำเป็นต้องทำให้ราคา "สูง" ที่สุดไหม สำหรับพวกเรา "ไม่" เสมอไปครับ เรื่องการทำให้ราคา "สูง" ที่สุด แน่นอนครับต้องทำ แต่ในบางช่วงเวลาเราไม่จำเป็นต้อง "Yield" ให้สูงที่สุดก็ได้ ยกตัวอย่างนะครับในสิ่งที่พวกเราทำเช่น
ในช่วง Festive ทั้งปี แน่นอนครับว่าเราทำราคา "สูง" ที่สุดแน่นอน และทำล่วงหน้ากันเป็นปีๆด้วยซ้ำ สมมุติว่า อีก 5 วันจะถึงช่วง Long weekend ที่เราได้ทำ "Yield" ไว้แล้วตั้งแต่ต้นปี เหลืออีก 5 วัน เรายังมีห้องเหลือขายอยู่จำนวนหนึ่ง เราจะทำอย่างไรกับราคาอีก 5 วันที่เหลือก่อน Festive นี้
สำหรับพวกเรา เราไม่ดันราคาให้สูงขึ้นครับ เราปรับราคาลงให้เป็นราคาปกติ หรือสูงกว่าปกตินิดหน่อย ไม่ดันราคาให้สูงมาก เพราะบางครั้งถ้าเราดันราคาสูงมากจำนวนการจองอาจน้อย แต่ถ้าเราทำราคาไม่สูงมาก แต่ไม่ใช่ราคาลดจากปกตินะครับ เราขายห้องได้จนหมด แน่นอนครับถ้าทำแบบนี้ ADR ลดลงแน่ๆ แต่สิ่งที่เราได้กลับมาคือ Revenue นะครับ ท้ายที่สุดสิ่งที่เราอยากได้คือ Revenue ใช่ไหมครับ แต่ถ้าได้ Revenue และได้ ADR สูงด้วยก็ถือว่าเป็น Benefit กันไป พวกเราลองทำวิธีนี้มาหลายๆครั้งแล้วครับ ปรากฎว่า มีห้องเหลือเท่าไร ขายได้จนเกือบหมดทุกครั้ง
วิธีนี้เป็นวิธีที่พวกเราทำและได้ผลนะครับ หลายๆท่านอาจไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ มาแลกเปลี่ยนมุมมองกันครับ
#yieldmanagement
#revenuemanagement
#ความรู้รอบโรงแรม
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
