27 ก.ย. 2020 เวลา 10:20 • ไลฟ์สไตล์
ในวันที่แสนเจ็บแสบ 😖
วันนี้เป็นที่แสนเจ็บปวดและเจ็บใจตัวเองจริงๆ เพียงเพราะประมาทนิดเดียวทำให้ต้องจ็บแสบไปอีกนาน (อย่างน้อยก็สองสามอาทิตย์ละ)
☀️วันนี้(วันอาทิตย์) จะต้องไปธนาคารที่ห้าง เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินตามปกติ และเป็นวันที่เอารถจักรยานยนต์ไป เพราะวันนี้รถติดแน่นอน เอารถจักรยานยนต์ไปเองมันจะสะดวกว่า และแน่นอนว่า แม้แต่เราจะตัดสินใจเอารถจักรยานยนต์ไปห้อง แถวเลียบด่วน แต่ไม่วายว่ารถต้องเยอะไม่เว้นแม้แต่ลานจอดรถจักรยานยนต์
เนื่องจากมีพื้นที่จำกัดเลยทำให้การหาที่จอดรถเป็นไปได้อย่างลำบาก ผมพยายามมองหาที่จอดรถ ที่เข้าออกได้สะดวก สำหรับรถจักรยานยนต์ทั่วไป ขนาดกลาง ปกติจะหาที่จอดไม่ยาก แต่วันนี้กลับไม่เป็นเช่นน้น ผมขับรถจนสุดทาง อยู่ท้ายจุดจอดรถจักรยานยนต์ หันซ้ายหันขวา ก็ไม่เจอที่จอด นึกในใจว่าถ้าที่จอดจะหายากขนาดนี้ สงสัยต้องจอดทิ้งไว้ ตรงนี้โดยไม่ทำการล็อคคอรถ เพื่อให้รถจักรยานยนต์คันอื่นสามารถจอดได้ (คือขยับรถเราเข้าออกได้ ) 💦😰
หลังจากถอดใจเพราะหาที่จอดไม่ได้แล้วจริงๆ ผมก็เลยจอดตรงสุดทาง (ก่อนหน้ารถผมจะจอดก็มีจอดแบบเดียวกันอยู่ก่อนหน้าแล้ว คันนึง) ก่อนที่จะเดินออกจากลานจอดรถ ทันใดนั้นผมก็เหลือบไปเห็น ที่จอดรถว่างอยู่ ที่หนึ่ง ประจวบเหมาะก็การนำยานลงจอดเสียนี้กระไร
ว่าแล้วก็เตรียมถอยยานแม่ จากจุดจอดเดิม มาหาจุดจอดใหม่อย่างยิ้มกริ่ม รอยยิ้มยังไม่ทันจากหาย ผมก็รู้สึกกว่า มีอะไรบางอย่างแข็งๆกระแทกเข้าที่ปลายเล็บนิ้วเท้าซ้ายเข้าอย่างจัง
ขาตั้งรถจักรยานยนต์นั้นเอง เนื่องจากเพิ่งจะจอดได้ไม่นานทำให้ผมลืมเอาขาตั้งขึ้น (ซึ่งปกติก็จะเอาขึ้นเลย ) ผลคือเล็บฉีกกก แบบว่าเล็บที่ฉีกดันแทงเข้าไปในเนื้อ ผมเลยขอพนักงานในห้างเพื่อทำการปฐมพยาบาล ที่ห้องพยาบาล
อยากบอกว่าเราสามารถขอได้นะครับ จริงๆผมเคยเข้ารับการปฐมพยาบาลมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นคือรถล้ม ไม่เสียค่าใช้จ่าย ดีมากเลย แต่อาจจะรอเจ้าหน้าที่นานหน่อย แล้วอาจจะต้องกรอกข้อมูล บางที่ก็ขอถ่ายรูปด้วยนะ ถ้าใครไม่ขัดข้องก็มาปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เลย หลังจากล้างแผลอันมีเลือดเปลอะ ก็พันผ้าพันแผล ทางเจ้าหน้าที่ก็แนะนำว่า ควรไปหาหมอจะดีกว่า ในใจผมก็คิดว่า ล้างแผลธรรมดาก็พอ แต่เนื่องจากว่า มีประกันอยู่เลยคิดว่า ไปหาหมอสักหน่อยคงไม่เป็นไร ยังไงเราก็เบิกได้อยู่แล้ว
ช่วงเย็นเลยเดินทางไปโรงพยาบาลทันที เลือกโรงพยาบาลเอกชน เพราะคิดว่าบริการและน่าจะใช้เวลาน้อยกว่าโรงพยาบาลของรัฐ (หลายๆคนคงคิดเหมือนผม ) เพราะใครที่เคยรอโรงพยาบาลของรัฐอนัดเช้าได้เจอหมอบ่ายแน่นอน เอาเข้าจริงต้องไปใช้บริการห้องฉุกเฉินหรือ ER ตอนรับเรื่องไม่นานครับ แต่รอหมอนานมากกกกก พยาบาลบอกว่า อาจารย์หมอติดเคสผ่าตัด ผมมันแผลเล็กน้อย นอนรอที่เตียงไปสิครับ เกือบสองชั่วโมงกว่าหมอจะมา นอนรอเล่นมือถือแบตเตอรี่เกือบหมด(ฮา) ลืมบอกไปนอกจากผมยังมีคนไข้อีกสามคน คนนึงรอพบหมออีกคนรอเย็บแผล น่าสงสารคนรอเย็บแผลมาก แย่กว่าผมเยอะยังต้องรอเป็น ชม.
หลังจากหมอมา หมอก็เข้ามาดูแผลที่เท้า “นี้ฉีดยาชาหรือยัง “ หมอตะโกนถาม
“ฉีดแล้วคะ4 ซีซี “
ผมนี้ตกใจเลยเพราะตอนนี้ยังรู้สึกอยู่เลย เดี๊ยวๆแล้วหมอฉีดทำไม่ นึกว่าจะขริบเล็บเฉยๆ ไหงงั้น
ไม่นานหมอก็เอายาชามาฉีดอีกเหมือนจะดูออกว่าผมยังไม่ชา จึ๊กกกก..เจ็บจิ๊ดดเลย (ก็มันยังไม่ชา) หลังจากนั้นหมอก็เริ่มมหกรรมงัดเล็บนิ้วโป้งของผมทันที แม้จะฉีดยาชาแล้วแต่ความรู้สึก เจ็บจิ๊ดตอนดึงเล็บออก ทำผมสะดุ้งจนต้องกัดฟันแน่นอีกครั้ง (ครั้งแรกตอนฉีดยาชา) ช่วงหลังจากนั้นผมละยากให้หมอฉีดยาสลบแทนยาชาจริงๆเลย (ฮา)
หมอบอกว่าหลังจากนี้ต้องมาล้างแผลทุกวัน พยาบาลพันแผลจนใส่รองเท้าแทบไม่ได้ อย่างน้อยผมก็ยังโชคดี ที่มันไม่แย่ไปกว่านี้ เพราะไม่ระมัดระวังเลยได้แผลมาอย่างที่เห็นถ้าใส่รองเท้าผ้าใบคงไม่เป็นแบบนี้ ยังดีเราทำประกันเอาไว้ไม่งั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะแน่ๆเลย ฝากไว้ด้วยใช่ว่าอยู่บ้านแล้วอุบัติเหตุจะไม่เกิด และอย่าลืมทำประกันเผื่อไว้ด้วยละ🤔🤘🏻
นิ้วเท้าเหมือนขนมโป้งเหน่งเลย!!

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา